รายงานผลประกอบการประจำวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2024
1. DANGEROUS BOYS 2
วัยเป้ง นักเลงขาสั้น 2 (2024, Poj Arnon, A+)
ดูที่ MAJOR RATCHAYOTHIN รอบ
11.30
ทำไมดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่า “ฝ่ายผู้ร้าย”
(บิ๊ก ที่น้องสาวตั้งท้อง) คือฝ่ายที่ถูกต้อง ส่วนฝ่ายที่พระเอกเข้าข้าง
(ฝ่ายที่ไปทำผู้หญิงท้อง แล้วไม่รับผิดชอบ) คือ “ฝ่ายผิด”
การคลี่คลายปัญหาเรื่องตั้งท้องในวัยเรียนในหนังเรื่องนี้
เหวอแดกมาก ๆ ไม่นึกว่าปัญหาจะคลี่คลายด้วยวิธีนี้ได้ cult กว่านี้มีอีกไหม
55555
2. MALEE มาลี (2024,
กฤติเดช เริ่มสกุลณ์ Krittidech Roemsakul, A+15)
ดูที่ MAJOR RATCHAYOTHIN รอบ
14.00
ในขณะที่หนังบางเรื่อง อย่างเช่น “วัยเป้ง นักเลงขาสั้น 2”
ประสบปัญหาในการทำให้ผู้ชม “สามารถแยกแยะระหว่างตัวละครต่าง ๆ”
เพราะตัวละครในวัยเป้งนั้น ก็เป็นหนุ่มหล่อที่หลาย ๆ คนมีหน้าตาคล้ายกัน
และบทหนังก็ไม่เก่งพอที่จะทำให้เราแยกแยะตัวละครเหล่านี้ได้ง่าย ๆ
เพราะตัวละครแต่ละตัวมันแบน ๆ หนังอย่าง “วัยหนุ่ม 2544”
ก็ช่วยให้เราแยกแยะระหว่างตัวละครต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ เพราะบทหนังมันเก่งพอ
และนักแสดงเล่นเก่ง
หนังอย่าง MALEE ก็แสดงให้เห็นถึงอีกวิธีการหนึ่งที่สามารถทำให้เราแยกแยะระหว่างตัวละครต่าง
ๆ ได้ง่าย ๆ ในทันที ถึงแม้ตัวละครมันแบน ๆ โดยใช้วิธีการแยกแยะผ่านทางการ casting
เพราะ MALEE เล่าเรื่องของตัวละครชายหนุ่ม 4
คน คนนึงหน้าตาไทยๆ คนนึงหน้าตาจีน ๆ คนนึงหน้าตาฝรั่ง
ส่วนอีกคนหน้าตาไปทางอินเดีย คือพอหนังใช้วิธีการ casting แบบนี้ปุ๊บ
ผู้ชมอย่างเราก็แยกแยะตัวละครทั้ง 4 นี้ได้ในทันที
โดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจาก “บทภาพยนตร์” 55555
3. THE COLORS WITHIN (2024, Naoko
Yamada, Japan, animation, A+30)
ดูที่ MAJOR RATCHAYOTHIN รอบ
16.30
ชอบสีสัน และลักษณะการวาดใน animation เรื่องนี้มาก ๆ เพราะมันกระเดียดไปทาง “การ์ตูนตาหวาน”
ที่เราชอบอ่านตอนเด็ก ๆ
4. WICKED: PART 1 (2024, Jon M. Chu,
160min, A+30)
ดูที่ MAJOR RATCHAYOTHIN รอบ
19.00
หวีดร้องสุดเสียง อินสุดขีด เพราะเราเป็นคนที่
“หลงใหลในโลกแห่งเทพนิยาย” อย่างรุนแรงอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เรามีกับ “เทพนิยาย”
ตั้งแต่เด็ก ๆ คือเทพนิยายหลาย ๆ เรื่อง มันเล่าเรื่องของ “สาวสวย” น่ะ
ไม่ว่าจะเป็น SNOW WHITE, CINDERELLA, SLEEPING BEAUTY, BEAUTY AND THE
BEAST, etc. เราก็เลยไม่อินกับเทพนิยายประเภทนี้
ถึงแม้เราจะหลงใหลในโลกแห่งเทพนิยาย อาจจะมียกเว้นก็แค่ “เจ้าจอมหน้าด่าง”
เวอร์ชั่นเจิ้นอวี้หลิง และ “แก้วหน้าม้า”
ที่นางเอกหน้าตาไม่สวย
คือถ้าหากพูดถึงหนังการ์ตูนดิสนีย์ เรื่องที่เรา
“อิน” ที่สุดก็ยังคงเป็น BROTHER BEAR (2003, Aaron Blaise, Robert Walker)
55555
เพราะฉะนั้น WICKED ก็เลยเหมือนตอบโจทย์ของเราอย่างรุนแรงที่สุด
ตอนดู WICKED เราจะนึกถึงหนึ่งในการ์ตูนที่เราชื่นชอบที่สุดในชีวิตด้วย
นั่นก็คือ BLUE SONNET (1981-1987, Shibata Masahiro) เพราะว่า
BLUE SONNET ก็มี “นางเอกสองคน” เหมือนกัน
แล้วทั้งสองคนนี้มี “พลังจิต” อย่างรุนแรงสุดขีดมาก โดยที่นางเอกที่ชื่อ Ran
จะใช้พลังขั้นสูงสุดที่เรียกว่า “เขี้ยวงาสีแดง” ได้เมื่อเธอโกรธ
เหมือนเธอสามารถทำให้เกิด “แผ่นดินไหว” ได้เลยถ้าเธอโกรธ เราก็เลยนึกถึง Elphaba
ที่ใช้พลังได้เมื่อเธอโกรธหรือ feel injustice ส่วนนางเอกอีกคนใน BLUE SONNET ก็คือ Sonnet ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นคนจิตใจชั่วร้าย
เพียงแต่ว่าเธอทำงานให้ฝ่ายผู้ร้าย
เพราะฉะนั้นนางเอกทั้งสองคนก็เลยต้องต่อสู้กันอย่างรุนแรงสุดขีดตลอดเวลา ทั้ง ๆ
ที่จริง ๆ แล้วไม่ได้มีใครเป็น “นางอิจฉา” ซึ่งจุดนี้ก็เลยทำให้นึกถึง WICKED
ด้วย
เราก็เลยชอบและอินกับ WICKED มากๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าความดีงามนี้เป็นเพราะฝีมือของ Jon M. Chu, ตัวผู้สร้าง musical หรือตัวนิยายของ Gregory
Maguire หรือทุก ๆ คน
+++
ONE OF MY MOST FAVORITE CHRISTMAS SONGS OF ALL TIME – SILENT
EVE (1991) – Midori Karashima
https://www.youtube.com/watch?v=Edv3pdlO5wg
No comments:
Post a Comment