Monday, April 24, 2006

AMERICAN GOTHIC (A-)

พูดถึงเรื่องความคิดที่ตรงกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เคยเกิดขึ้นกับตัวเองอย่างเหลือเชื่อสุดๆเหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆเคยอ่านนิยายเรื่อง “ระบำไฟ” ของม.มธุการี และประทับใจกับนางอิจฉาในนิยายเรื่องนี้มากๆ เธอเป็นสาวใช้ที่เข้าไปทำลายชีวิตครอบครัวของนางเอกจนพังพินาศป่นปี้ ตอนที่อ่านนิยายเรื่องนี้จบ ก็จินตนาการเอาไว้ในใจว่าถ้าหากนิยายเรื่องนี้เป็นละครทีวี ตอนจบมันควรจะเป็นยังไงบ้าง โดยคิดเอาไว้ในใจว่า แทนที่ละครทีวีเรื่องนี้จะจบด้วยการเน้นไปที่ตัวนางเอกแบบในนิยาย ละครเรื่องนี้น่าจะจบให้แตกต่างจากนิยายด้วยการเน้นไปที่ตัวละคร “นางอิจฉา” แทน

ปรากฏว่าพอมีละครทีวีเรื่องนี้ออกมา นำแสดงโดยหทัยรัตน์ อมตวณิชย์, ตฤณ เศรษฐโชค และแสงระวี อัศวรักษ์ ตอนจบมันออกมาเหมือนอย่างที่เราจินตนาการเอาไว้เล่นๆในใจไม่มีผิดเลย โดยแทนที่ฉากจบจะเน้นไปที่ตัวละครนางเอกแบบในนิยาย ฉากจบกลับเล่าเรื่องราวชีวิตของนางอิจฉาแทน เพื่อแสดงให้เห็นว่านางอิจฉาเข้าไปทำลายชีวิตครอบครัวของคนอื่นๆต่อไปเรื่อยๆ รู้สึกดีใจสุดๆที่ผู้สร้างละครเรื่องนี้ใจตรงกับเราเป๊ะๆ

--ตอนนี้เห็น SATOSHI TSUMABUKI คนรักของน้อง merveillesxx โชว์ความหล่อในหนังตัวอย่างเรื่อง THE FAST AND THE FURIOUS: TOKYO DRIFT (2006, JUSTIN LIN) ด้วยค่ะ แต่เห็นเขาโผล่มาในหนังตัวอย่างแค่แป๊บเดียวเอง ไม่รู้ว่าในหนังเรื่องนี้บทเขาจะมีมากน้อยแค่ไหน จะโผล่มาถึง 3 นาทีหรือเปล่า

เห็นหนังตัวอย่าง THE FAST AND THE FURIOUS: TOKYO DRIFT แล้ว รู้สึกว่าหนังไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ เพราะดูแล้วคล้ายๆกับ INITIAL D (2005, WAI KEUNG LAU + SIU FAI MAK, B+) แต่ถ้าหนังเข้าโรง ก็คงจะไปดูอยู่ดี เพราะอยากจะรู้ว่าLUCAS BLACK (BORN 1982) พระเอกคนใหม่ของหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง เคยเห็นลูคัส แบล็ค แสดงละครเรื่อง AMERICAN GOTHIC (1995, A-) ที่มาฉายทางช่อง 3 เมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนนั้นเขายังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกอยู่เลย อะไรกัน เผลอแค่ไม่กี่ปี เด็กน้อยคนนั้นก็กลายเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เสียแล้ว

http://www.imdb.com/title/tt0111880/
http://www.imdb.com/name/nm0085407/
http://lucasblack.allstarz.org/multimedia/
http://lucasblack.allstarz.org/gallery/albums/tv_appearances/american_gothic/1-16_doctor_death_takes_a_holiday/Doctor_Death_Takes_a_Holiday_030.jpg
http://allstarz.hollywood.com/~lucasblack/images/site/header2.jpg
http://lucasblack.allstarz.org/gallery/albums/userpics/10001/lbdetails2004.jpg
http://lucasblack.allstarz.org/gallery/albums/userpics/10001/lbimdb.jpg
http://lucasblack.allstarz.org/gallery/albums/userpics/10001/269762.jpg
http://lucasblack.allstarz.org/gallery/albums/userpics/10001/fnl-008.jpg
http://lucasblack.allstarz.org/gallery/albums/userpics/10001/offthemenu.jpg

ลูคัส แบล็คเคยเล่นหนังเรื่อง JARHEAD (2005, SAM MENDES) ร่วมกับเจค กิลเลนฮาล และปีเตอร์ ซาร์สการ์ดด้วย


Favorite Scene

ALWAYS: SUNSET ON THE THIRD STREET

1.ฉาก “แหวน”

รู้สึกว่าฉากนี้ซึ้งมาก และทำให้นึกถึงความซึ้งในตอนจบของละครเรื่อง 101st MARRIAGE PROPOSAL หรือ “101 ตื๊อรักนายกระจอก” (1991, REIKO ISHIZAKA) ที่เคยมาฉายทางช่อง 5 ละครเรื่องนี้ใช้เพลง SAY YES ของ CHAGE & ASKA เป็นเพลงประกอบ


2. ฉากที่เด็กๆอ่านนิทาน แล้วหนังตัดเข้าสู่ฉากหลังที่เป็นโลกอนาคตในนิทาน

รู้สึกว่าฉากนี้ถ่ายทอดจินตนาการความฝันของเด็กๆออกมาได้น่าประทับใจมาก และทำให้นึกถึงตอนเด็กๆที่ดิฉันกับเพื่อนๆชอบแต่งนิยายเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนป.6 ที่ร่วมแต่งนิยายกับเพื่อนๆผู้ชายอีก 2 คน โดยเป็นการแต่งนิยายเรื่องเดียวกัน แต่ผลัดกันแต่งไปเรื่อยๆ ทำนองว่าดิฉันแต่งตอนที่หนึ่ง แล้วก็ให้เพื่อนอีกคนแต่งต่อตอนที่สอง และเพื่อนอีกคนก็แต่งต่อตอนที่สาม รู้สึกว่าเป็นการแต่งนิยายที่สนุกมากๆ เพราะคนแต่งแต่ละคนก็ไม่รู้ว่าตัวละครที่ตัวเองแต่งจะประสบชะตากรรมอย่างไรในอนาคต ผลปรากฏว่าแต่งเรื่องกันไปแต่งเรื่องกันมา ตัวละครส่วนใหญ่ในเรื่องกลับมีอายุไม่ยืดกันทั้งนั้น ตัวละครแต่ละตัวถูกฆ่าตายกันอย่างรวดเร็วมาก พอใครคนหนึ่งสร้างตัวละครตัวใหม่ขึ้นมา ตัวละครตัวนั้นก็อาจจะถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วมากด้วยฝีมือของคนแต่งคนอื่นๆ น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บนิยายที่แต่งตอนเด็กๆเอาไว้เลย ไม่สามารถจินตนาการอะไรอย่างไร้ขีดจำกัดได้แบบตอนเด็กๆอีกแล้วด้วย รู้สึกว่ายิ่งโตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้จินตนาการได้น้อยลงเรื่อยๆเท่านั้น

No comments: