Sunday, April 09, 2006

BE WITH ME (ERIC KHOO, A+)

หนังสือฟิล์มไวรัส 3 ของ OPEN ออกแล้วค่ะ ในหนังสือเล่มนี้มีบทความ “ตัวละครหญิงที่ดิฉันรัก” ของดิฉัน และมีบทความเกี่ยวกับหนังเกย์ของ ROSA VON PRAUNHEIM โดยคุณสนธยา ทรัพย์เย็นด้วย

ได้เห็นสิ่งที่ตัวเองเขียนในหนังสือเล่มนี้แล้ว ก็พบว่ามีสิ่งที่ทำให้รู้สึกสะดุดอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะหนังสือเล่มนี้มี “การตัดแบ่งย่อหน้า” และ “การเว้นวรรคระหว่างประโยค” ที่คลาดเคลื่อนไปจากที่ตั้งใจไว้อยู่หลายจุด ดิฉันลองนับเฉพาะในข้อความของตัวเอง ก็มีอยู่ประมาณ 40 จุดด้วยกัน ไม่รู้เหมือนกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แต่เดาเอาเองว่าอาจจะเกิดจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพราะบางทีเวลาดิฉันพิมพ์ข้อความลง MICROSOFT WORD แล้วนำมาเปิดอ่านใหม่ หรือนำไปโพสท์ลงในเว็บบอร์ด จะพบว่าข้อความมีการขึ้นบรรทัดใหม่ที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม

เพราะฉะนั้นถ้าหากใครอ่านแล้วรู้สึกสะดุดๆ ก็ขอให้ลอง “ตัดแบ่งย่อหน้า” ใหม่ หรือลอง “เว้นวรรคระหว่างประโยค” ใหม่แล้วกันนะคะ ปัญหาที่ดิฉันพบในข้อความของตัวเองมีตั้งแต่การรวมข้อความที่อยู่คนละย่อหน้ามาไว้ในย่อหน้าเดียวกัน, การขึ้นย่อหน้าใหม่ทั้งๆที่ควรอยู่ย่อหน้าเดียวกัน, การที่ประโยคหลายประโยคเรียงติดๆกันโดยไม่มีการเว้นวรรค (เฮ้อ นี่ถ้าภาษาไทยมี FULL STOP ก็ดีหรอก จะได้เห็นชัดๆกันไปเลยว่าประโยคไหนมีจุดสิ้นสุดที่ตรงไหน) และการเว้นวรรคที่เกิดขึ้นระหว่างคำ ยกตัวอย่างเช่นในหน้า 90 ที่มีคำว่า “นักออกแบบฉาก” ที่เป็นคำๆเดียวกัน แต่กลับมีช่องว่างเกิดขึ้น (นักออกแบบ ฉาก) จนทำให้คำว่า “ฉาก” เหมือนกับเป็นประธานของประโยคใหม่

นอกจากนี้ ในหน้า 77 ยังมีข้อความที่หายไปค่ะ ข้อความเต็มๆเป็นดังนี้

>>อีกฉากนึงที่ชอบมากในเรื่องนี้ ก็คือฉากในช่วงต้นเรื่องตอนที่วาเลอรียังอยู่ที่เมืองเก่า หนังแสดงให้เห็นชีวิตประจำวันของวาเลอรี แล้วอยู่ดีๆหนังก็ตัดมาเป็นฉากที่วาเลอรียืนอยู่ที่ดาดฟ้าตึกสูง เธอมองจากดาดฟ้าตึกออกไปข้างหน้าเพื่อเก็บภาพเมืองที่เธอใช้ชีวิตอยู่ เธอมีปัญหากับยามรักษาความปลอดภัยที่พยายามไล่เธอลงจากดาดฟ้า และเธอก็พูดว่า “I’m leaving.” และหลังจากนั้นหนังก็ตัดมาเป็นฉากวาเลอรีอพยพออกจากเมืองนั้นไปเลย

ตอนแรกที่ดิฉันดูฉากนี้ ดิฉันงงไปเลยค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอดูฉากนี้ไปได้สักพักก็เริ่มตามเรื่องทันและเริ่มปะติดปะต่อเอาเองจนเข้าใจว่าวาเลอรีคงตัดสินใจย้ายออกจากเมือง และสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำก่อนออกจากเมืองก็คือการเก็บภาพเมืองเก่าเอาไว้ในใจเธอ เธอก็เลยขึ้นไปที่ดาดฟ้าและมองภาพเมืองให้เต็มตาเป็นครั้งสุดท้าย

การที่ดิฉันประทับใจฉากนี้อย่างมากๆคงต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับหนังและให้กับนางเอกหนังเรื่องนี้ เพราะจอห์น พุทช์นำเสนอฉากนี้โดยไม่ได้อารัมภบท, ไม่ได้เกริ่นนำ, ไม่ได้บอกที่มาที่ไปของฉากเลย ความสัมพันธ์ของฉากนี้กับฉากที่มาก่อนหน้าและตามหลังไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบเรียงลำดับ 1-2-3 แต่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์แบบ 1-3-5 เพราะดูเหมือนจอห์น พุทช์จะตัดฉากที่ไม่จำเป็นออกไปเพราะเขามั่นใจว่าผู้ชมสามารถเข้าใจเรื่องเองได้ ซึ่งถ้าเป็นในหนังเรื่องอื่นๆ ก็อาจจะมีฉากประเภทนางเอกตัดสินใจลาออกจากงาน, นางเอกร่ำลาเพื่อนร่วมงาน, นางเอกเก็บของในบ้าน, นางเอกมีปฏิกิริยาซึ้งๆกับข้าวของบางอย่างที่ทำให้นึกถึงสามีเก่า, นางเอกมองไปรอบๆบ้านที่เคยใช้ชีวิตอยู่กับสามีเป็นครั้งสุดท้าย แต่หนังเรื่องนี้กลับไม่มีฉากเหล่านี้เลย หนังนำเสนอภาพนางเอกในชีวิตประจำวัน, นางเอกอยู่ที่ดาดฟ้า, นางเอกขับรถออกจากเมือง แค่นั้นพอแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการเล่าเรื่องที่กระชับรัดกุมมากๆ และสามารถสะท้อนความเด็ดเดี่ยวและความใจแข็งของวาเลอรีได้อย่างดีมากๆด้วย

อีกจุดนึงที่ชอบมากใน Valerie Flake ก็คือเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ค่ะ หนังใช้เพลงประกอบหลายเพลงที่เป็นผลงานการประพันธ์และขับร้องของ แคธลีน วิลฮอยท์ แต่ข้อเสียก็คือดูเหมือนหนังจะยัดเยียดเพลงประกอบเข้ามามากเกินไป แต่ก็ให้อภัยได้ เพราะเพลงเหล่านี้เพราะดี

เว็บไซท์ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ http://www.valerieflake.com/ <<

หนังที่ได้ดูในวันพฤหัสบดี-วันเสาร์ที่ผ่านมา

1.BE WITH ME (2005, ERIC KHOO, A+)
ดูที่ HOUSE RCA

2.TAPAS หรือ “อีรุงตุงนัง” (2005, JOSE CORBACHO + JUAN CRUZ, A)
http://www.imdb.com/title/tt0434382/
http://www.variety.com/review/VE1117927369?categoryid=31&cs=1&s=h&p=0
ดูที่ EGV METROPOLIS หนังฉายเป็นฟิล์มสีสวยสดใส เป็นหนังที่เซอร์ไพรส์มากๆ

3.UNDEAD (2003, MICHAEL SPIERIG + PETER SPIERIG, A-/B+)
http://www.imdb.com/title/tt0339840/
ดูที่ MAJOR CINEPLEX รัชโยธิน หนังฉายเป็นฟิล์มสีขุ่นๆ

เครดิตตอนท้ายหนังเรื่องนี้มีการขึ้นข้อความฮาๆอันนี้ด้วย"The characters and events depicted in this photoplay are fictitious. Anysimilarity to actual persons, living or living dead, is purelycoincidential."


4.BLACK NIGHT (2006, B)
4.1 THE NEXT DOOR (PATRICK LEUNG, B+)
4.2 THE BLACK HOLE (TAKAHIKO AKIYAMA, A-)
รู้สึกว่าเนื้อหาพื้นฐานในหนังตอนนี้ธรรมดามาก ราวกับว่ามาจากหนังสยองขวัญตลาดๆของฝรั่ง แต่ฝีมือ “การกำกับ” และการเล่นกับแง่มุมทางจิตของตัวละครสามารถทำให้เนื้อหาที่ธรรมดาๆกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจขึ้นมาได้ รู้สึกประทับใจกับ TAKAHIKO AKIYAMA จากหนังตอนนี้มาก หลังจากที่ไม่ประทับใจเขาเท่าไหร่ในการกำกับ HINOKIO (B-)
4.3 THE LOST MEMORY (THANIT JITNUKUL, B)

5.SEAL OF CONFESSIONS (1998, JOSEF RODL, B)
ดูทางทีวี

6.AZUMI 2: DEATH OR LOVE (2005, SHUSUKE KANEKO, B)

SHUSUKE KANEKO เคยกำกับหนังเลสเบียน/เกย์เรื่อง SUMMER VACATION 1999 (1988, A+)
http://www.imdb.com/title/tt0094595/

7.ULTRAVIOLET (2006, KURT WIMMER, C)
แทบไม่น่าเชื่อว่า KURT WIMMER คนนี้คือคนเดียวกับที่กำกับ EQUILIBRIUM (A-) เพราะ ULTRAVIOLET เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกไร้อารมณ์มาก หนังเรื่องนี้สามารถทำให้ AEON FLUX (2005, KARYN KUSAMA, A) กลายเป็น CITIZEN KANE ขึ้นมาได้ ถ้าหากไม่บอกว่าใครเป็นคนกำกับ ULTRAVIOLET ดิฉันอาจจะเดาว่าหนังเรื่องนี้กำกับโดย UWE BOLL (HOUSE OF THE DEAD, ALONE IN THE DARK, BLOODRAYNE)


MOST DESIRABLE ACTOR
DYLAN KUO หรือกัวผิ่นเชา (BORN 1977)—BLACK NIGHT
http://www.warnermusic.com.tw/event/2004/07/who_01/
สูง 189 เซนติเมตร เขาเป็นพระเอกละครชุด THE OUTSIDERS หรือเดิมพันรัก เดิมพันชีวิตที่แพร่ภาพทางช่อง 3
http://www.popcornfor2.com/dramas/theoutsiders.php
http://www.asianhunk.net/taiwan/guo6.jpg
http://www.asianhunk.net/taiwan/guo4.jpg
http://www.asianhunk.net/taiwan/guo2.jpg

ดูรูปของ DYLAN KUO ได้จากเว็บไซท์
http://www.asianhunk.net/2006/01/30/guo-pin-chao.html

รู้สึกว่าเว็บไซท์นี้มีเปิดให้โหวตเลือกหนุ่มหล่อเอเชีย โดยมีประวัติหนุ่มหล่อแยกเป็นประเทศๆด้วย
http://www.asianhunk.net/category/thailand/

หนุ่มหล่อที่น่าสนใจ

1.ROCK JI จากจีน
http://www.asianhunk.net/2006/04/06/rock-ji.html#more-273
เกิด 1981 สูง 188 ซม.
http://www.asianhunk.net/china/ji8.jpg

2.KEVIN CHENG จากฮ่องกง
http://www.asianhunk.net/2006/03/30/kevin-cheng.html#more-240
http://www.asianhunk.net/hk/c2.jpg


FAVORITE ACTOR

1.FLORIAN MARTENS—SEAL OF CONFESSIONS

2.HARALD KRASSNITZER—SEAL OF CONFESSIONS http://www.agenturrehling.com/html/herren_auswahl_body.htm

นอกจาก ดาราสองคนข้างต้นแล้ว นักแสดงหนุ่มชาวเยอรมันที่น่าสนใจในตอนนี้ยังรวมถึง MANUEL LOWENSBERG
http://www.agenturrehling.com/img/photos/4006_b01.jpg
http://www.agenturrehling.com/img/photos/4006_b02.jpg

เขาสูง 175 ซม. และเคยเล่นหนังสวิสเรื่อง STRAHL (2004, MANUEL FLURIN HENDRY) ซึ่งเป็นหนังแอคชันเกี่ยวกับตำรวจที่พยายามทลายแก๊งค้ายาชาวอาร์เมเนีย
http://www.imdb.com/title/tt0396882/

FAVORITE ACTRESS
ELVIRA MINGUEZ--TAPAS

FAVORITE SUPPORTING ACTOR
RUBEN OCHANDIANO—TAPAS
http://www.imdb.com/name/nm0643679/
เขาเคยเล่นหนังเรื่อง

A.FLOWERS FROM ANOTHER WORLD (1999, ICIAR BOLLAIN)
http://images.amazon.com/images/P/B000AYEIDQ.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังเรื่องนี้มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี โดย ICIAR BOLLAIN ผู้กำกับหญิงของหนังเรื่องนี้เคยโด่งดังมากจากการกำกับหนังเรื่อง TAKE MY EYES (2003) และเคยนำแสดงในหนังเรื่อง THE STONERAFT (2002, GEORGE SLUIZER, B+)

FLOWERS FROM ANOTHER WORLD ดัดแปลงมาจากเรื่องจริง และต้องการสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการเหยียดผิวและชาวต่างชาติในสเปน (ประเด็นนี้ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง SALTWATER (A)) โดยหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเมืองซานตา ยูลาเลีย ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆกลางประเทศสเปน เมืองนี้ขาดแคลนผู้หญิงเป็นอย่างมาก ดังนั้นหนุ่มๆในเมืองจึงจัดทัวร์พิเศษเพื่อให้สาวโสดเดินทางมาเที่ยวเมืองนี้และทำความรู้จักกับหนุ่มโสดในเมือง

ตัวละครหลักใน FLOWERS FROM ANOTHER WORLD คือหญิงชาย 3 คู่ ซึ่งได้แก่ ปาตริเซีย หญิงสาวจากสาธารณรัฐโดมินิกันที่มาลักลอบทำงานในสเปนเพื่อหาเงินเลี้ยงดูลูกๆ เธอได้รู้จักกับ DAMIAN (LUIS TOSAR จาก UNCONSCIOUS, MONDAYS IN THE SUN, WHEN THE BELL CHIMED 13) เกษตรกรขี้อายที่อาศัยอยู่กับแม่ที่ดุร้าย, มารีร์โรซี ซึ่งมาจากเมืองบิลเบา เธอเป็นนางพยาบาลที่พึ่งพาตัวเองได้ เธอได้รู้จักกับอัลฟองโซ ซึ่งเป็นนักจัดแต่งสวนที่มีความสุขกับชีวิต ส่วนคู่สุดท้ายคือมิลาดี หญิงสาวชาวคิวบาที่ได้รู้จักกับคาร์เมโล ช่างก่อสร้างวัยกลางคนผู้ร่ำรวย และเขามักเดินทางไปเที่ยวเซ็กส์ทัวร์ที่คิวบาเป็นประจำ

หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านปลานในสเปน โดยหนุ่มโสดในหมู่บ้านแห่งนี้เคยจัดทัวร์สำหรับสาวโสดในปี 1985 โดยหนุ่มโสดกลุ่มนี้ได้ไอเดียดังกล่าวมาจากหนังเรื่อง WESTWARD THE WOMEN (1955, WILLIAM A. WELLMAN) ที่สร้างจากเนื้อเรื่องของ FRANK CAPRA โดยหนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการพาหญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินทางมาหาชายหนุ่มโสดจำนวนมากในรัฐแคลิฟอร์เนียในยุคคาวบอย

B.WARRIORS (2004, DANIEL CALPASORO)
http://images.amazon.com/images/P/B00020HAOM.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

หนังเรื่องนี้มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี และนำแสดงโดยสุดหล่อ EDUARDO NORIEGA (BURNT MONEY, OPEN YOUR EYES, THESIS) โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับกองทหารสเปนที่ตกอยู่ท่ามกลางนรกในสงครามโคโซโวปี 2000 หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชอบหนังประเภท NO MAN’S LAND (DANIS TANOVIC)


FAVORITE SUPPORTING ACTRESS
MARIA GALIANA (หญิงชราค้ายาเสพติด)—TAPAS
http://www.imdb.com/name/nm0302061/


FAVORITE SCENE

1.จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
ฉากนุดี (พริมรตา เดชอุดม) ใช้พลังปีศาจของคุณครูรมณีย์ (ภรผกา เสียงสมบุญ) ในการจัดการกับบัณรสี (เบญจรัตน์ วิศิษฐกิจการ) และสมุนสาว 2 นาง

ฉากนี้เป็นฉากที่ดูแล้วสะใจมาก และทำให้นึกถึงสมัยตอนที่ดิฉันอยู่ชั้นประถม ตอนนั้นดิฉันเคยถูกเพื่อนผู้ชายคนนึงกลั่นแกล้ง รู้สึกโกรธมาก แต่ไม่รู้จะต่อสู้ยังไง จะเตะจะต่อยจะตบก็ทำไม่เป็น ก็เลยใช้วิธีกัดคอเพื่อนผู้ชายคนนั้นจนเลือดสาดหน้าชั้นเรียน (แต่หลังจากนั้นดิฉันกับเพื่อนคนนั้นก็กลับมาดีกันเหมือนเดิม)

รู้สึกว่าบทนุดีเป็นบทที่หนักหนาสาหัสกว่าบทจันทร์เจ้า (ศรีริต้า เจนเซ่น) มากๆ เพราะถึงแม้จันทร์เจ้าจะถูกกลั่นแกล้ง แต่เธอก็ไม่ค่อยมีความสับสนในตัวเอง เธอไม่ค่อยกลัวใครอยู่แล้ว แต่บทนุดีเป็นบทที่กดดันอย่างมาก เธอถูกกลั่นแกล้ง, เธอกลัว, เธอไม่ยอมช่วยคนที่ดีกับเธอ, เธอเปลี่ยนใจลุกขึ้นสู้, เธอระแวงว่าจันทร์เจ้าจะมาแย่งผู้ชาย (นิธิชัย ยศอมรสุนทร หนุ่มหุ่นล่ำจาก “ไฉไล”) และเธอก็หันมาใช้พลังปีศาจในการป้องกันตัวเองและตอบโต้กับคนชั่ว รู้สึกว่าพริมรตา เดชอุดมเล่นบทนี้ได้อย่างน่าพอใจมาก

บทของผู้หญิงที่ใช้พลังลึกลับในการต่อสู้กับผู้ร้ายมักจะเป็นบทที่ถูกใจดิฉันอยู่แล้ว นอกจากบทนุดีในละครเรื่องนี้แล้ว ตัวละครทำนองนี้ยังรวมถึง

A.บทของ HALLE BERRY ใน GOTHIKA (2003, MATHIEU KASSOVITZ, A+) ที่ฆ่าคนชั่วตายขณะที่เธอถูกผีสิง

B.บทของ ANGELA BETTIS ใน CARRIE (2002, DAVID CARSON, A+/A) ที่ใช้พลังจิตต่อสู้กับเพื่อนที่ทำร้ายเธอ

C.บทของกวินนา สุวรรณประทีปใน “เจ้านาง” (A-)
เธอเป็นผู้หญิงที่ถูกกลั่นแกล้งรังแก จนกระทั่งเธอยอมให้ผีเข้ามาสิงในร่างเธอ และครอบงำเธอจนกลายเป็นปีศาจในที่สุด

รู้สึกดีใจมากที่นุดีได้พลังปีศาจจากคุณครูรมณีย์มาใช้ เพราะรู้สึกสงสารตัวละครนุดีมากๆที่ไม่มีเขี้ยวเล็บอะไรเลยในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ดิฉันดูละครเรื่องนี้ ดิฉันยังคิดเล่นๆเลยว่าถ้าหากนุดีเป็นคนจริงๆ แต่ไม่มีอำนาจปีศาจมาช่วยคุ้มครองเธอแล้ว เธออาจจะลงเอยด้วยการลุกขึ้นมาฆ่าหมู่เพื่อนร่วมชั้นแบบโรงเรียนไฮสกูลใน COLUMBINE ก็เป็นได้

2.UNDEAD
ฉากนางเอก (FELICITY MASON) ใช้ไม้ถูพื้นเป็นอาวุธ

3.TAPAS
ฉากหญิงวัยกลางคนจ้องมองเป้ากางเกงชายหนุ่ม


ความเห็นอื่นๆ

--ตามหา “นางในฝัน” เจอแล้ว

ไปงานสัปดาห์หนังสือเมื่อวันศุกร์ เพื่อไปตามหานิยายเรื่อง “เพลิงพ่าย” หรือ “ไฟริษยา” ของนันทนา วีระชน เพราะควานหานิยายเล่มนี้มาตามร้านหนังสือหลายร้าน แต่ก็หาไม่เจอซะที สาเหตุที่อยากได้นิยายเรื่องนี้มากๆ เพราะว่า “เวฬุรีย์” นางเอกของเพลิงพ่าย คือหนึ่งในตัวละครนางเอกที่ชอบที่สุดในชีวิต

เดินหาอยู่ในงานประมาณชั่วโมงนึง แต่แทบไม่เจอนิยายของนันทนา วีระชนเลย รู้สึกเหนื่อยมากๆ แทบเป็นลม ไม่รู้ว่านิยายเล่มนี้เป็นของสำนักพิมพ์อะไร กะจะกลับบ้านแล้ว โดยตั้งใจว่าถ้าหา “เพลิงพ่าย” หรือ “ไฟริษยา” ไม่เจอ ก็อาจจะซื้อนิยายเรื่อง “ไฟพ่าย” ของกฤษณา อโศกสิน กับ “เพลิงริษยา” ของกันยามาสไปแทน เพื่อประชดชีวิตตัวเองเล่นๆ

แต่ในที่สุดโชคก็ช่วย เพราะเดินไปถึงร้านบูรพาสาส์น และก็เจอ “เพลิงพ่าย” ในที่สุด ราคาหน้าปก 500 บาท แต่ขายแค่ 60 บาท รู้สึกดีใจอย่างสุดๆ รู้สึกเหมือนตัวเองได้เจอ “นางในฝัน” หลังจากตามหามานานแสนนาน ความรู้สึกดีใจอย่างเปี่ยมล้นที่ได้เห็น “เพลิงพ่าย” อยู่ในแผงหนังสือ ทำให้รู้สึกอยากแปลงร่างเป็นนิศาลักษณ์ ศรีนาคาร และร้องประโยค “เพลิงพ่าย ร้อนแรง” ออกมาที่บูธหนังสือในทันทีเพื่อระบายความดีใจที่อยู่ในอกออกมาให้หมด

ลองฟังการเปล่งเสียง “เพลิงพ่าย ร้อนแรง” ได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ (เป็นเวอร์ชันที่ร้องโดยคุณสวรินทร์ เสือครบุรี)
http://www.trekkingthai.com/board/media/h4dtpUaS.wma

อ่านเนื้อเพลง “เพลิงพ่าย” ที่คุณอ้วนเอามาโพสท์ไว้ได้ที่เว็บบอร์ด SCREENOUT หน้า 81

--หลังจากหนังที่มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับเกย์อย่าง BROKEBACK MOUNTAIN, TRANSAMERICA และ CAPOTE เข้ามาฉายในกรุงเทพกันแล้ว ก็รู้สึกว่าช่วงนี้มีหนังที่มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับเลสเบียนเข้ามาฉายในกรุงเทพติดๆกัน อย่างเช่น WHERE THE TRUTH LIES, BUTTERFLY, BE WITH ME และได้ข่าวว่า SAVING FACE (2004, ALICE WU) ก็จะลงโรงฉายด้วย และวีซีดีลิขสิทธิ์หนังเรื่องนี้ก็น่าจะมีวางแผงในไทยแล้วเช่นกัน
http://www.sonyclassics.com/savingface/


--SEAL OF CONFESSIONS (JOSEF RODL, B)

เปิดมาเจอหนังเรื่องนี้โดยบังเอิญทางทีวี รู้สึกว่าช่วง 1 ปีที่ผ่านมามีหนังอาชญากรรมดีๆหลายเรื่องจากเยอรมันมาฉายทาง TTV แต่น่าเสียดายที่ดิฉันไม่รู้ตารางเวลาฉายหนังเหล่านี้ ก็เลยไม่ได้ติดตามดู หนังอาชญากรรมเยอรมันกลุ่มนี้ไม่ใช่หนังที่เน้นความสนุกตื่นเต้นลุ้นระทึกแบบใจหายใจคว่ำ และไม่ใช่หนังที่เน้นหักมุมว่า “ใครคือฆาตกร” แต่เป็นหนังที่เน้นแง่มุมความเป็นมนุษย์ของตัวละครต่างๆในเรื่องมากพอสมควร โดยเฉพาะความสับสนในใจของตัวละคร เรียกได้ว่าหนังอาชญากรรมเยอรมันกลุ่มนี้หลายเรื่องเน้นการต่อสู้กันภายในจิตใจตัวละครมากกว่าการต่อสู้กันทางร่างกาย

SEAL OF CONFESSIONS มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระที่พบว่าฆาตกรโรคจิตคนนึงมาสารภาพบาปกับเขา พระรูปนี้ไม่สามารถเปิดเผยสิ่งที่ฆาตกรโรคจิตบอกเขาให้คนอื่นๆรับรู้ได้ (ตามกฎของการสารภาพบาป) แต่การทำตามกฎของการสารภาพบาป ก็เท่ากับการปล่อยให้ฆาตกรโรคจิตคนนี้ฆ่าคนบริสุทธิ์ได้เรื่อยๆต่อไป และอาจจะรวมไปถึงการฆ่าสมาชิกครอบครัวของพระรูปนี้เองด้วย

ประเด็นคล้ายๆกันนี้เคยได้รับการพูดถึงมาแล้วในหนังเรื่อง

A. I CONFESS (1953, ALFRED HITCHCOCK)
นำแสดงโดยเกย์หนุ่มสุดหล่อ MONTGOMERY CLIFT ในบทของพระ และ KARL MALDEN ในบทของตำรวจ โดยดัดแปลงมาจากละครเวทีของ PAUL ANTHELME และหนังเรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้มีการสร้างหนังเรื่อง THE CONFESSIONAL (1995, ROBERT LEPAGE) ในเวลาต่อมา

B.PRIEST (Antonia Bird, A+++++)

No comments: