--ชอบมิวสิควิดีโอที่คุณ OLIVER นำมาแนะนำมากค่ะ ดูมิวสิควิดีโอนี้แล้วรู้สึกว่าเหมาะจะนำมาประกอบหนังเรื่อง “ไพร่ AND PREJUDICE”
http://www.dailymotion.com/video/67337
--เห็นที่สีลมมีดีวีดีหนังสโลเวเนียเรื่อง SPARE PARTS (2003, DAMJAN KOZOLE, A+++++) วางขายอยู่ด้วยค่ะ หนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับการอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ดิฉันเคยดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาลภาพยนตร์ในกรุงเทพเมื่อเดือนม.ค.ปี 2004 เป็นหนังที่ชอบสุดๆเรื่องนึง รู้สึกว่าหนังรักษาระยะห่างระหว่างผู้ชมกับตัวละครได้ดีมาก ไม่เหมือนกับ DIRTY PRETTY THINGS (STEPHEN FREARS, B+) ที่อาจจะพูดถึงประเด็นผู้อพยพผิดกฎหมายเหมือนกัน แต่มันให้ความรู้สึกหยึยๆ ยังไงไม่รู้ สิ่งที่แตกต่างกันมากระหว่าง DIRTY PRETTY THINGS กับ SPARE PARTS ก็คือ DIRTY PRETTY THINGS มีพระเอกที่นิสัยดีมาก ส่วน SPARE PARTS นั้น พระเอกเป็นนักค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย และเป็นคนที่ชั่วร้ายเลือดเย็นพอสมควร อย่างไรก็ดี ถึงแม้พระเอกหนังเรื่องนี้จะชั่วร้ายเลวทรามมาก หนังเรื่องนี้กลับไม่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็น “ผู้ร้าย” แต่กลับทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นมนุษย์ที่น่าสงสารคนนึง
อีกจุดที่ชอบมากใน SPARE PARTS ก็คือ จะมีบางจุดที่เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงต่อความรู้สึกอย่างมากในเรื่อง แต่หนังกลับเล่าเหตุการณ์นี้ผ่านทาง “รายงานข่าว” ซึ่งเป็นการเล่าแบบที่ “ไม่เร้าอารมณ์” อย่างมากๆ จริงๆแล้วหนังสามารถนำเสนอเหตุการณ์รุนแรงนี้อย่างตรงไปตรงมา และสามารถเร้าอารมณ์อย่างสุดขีดในเหตุการณ์นี้ แต่หนังกลับไม่ให้เราเห็นเหตุการณ์นี้เลย อยู่ดีๆก็ตัดไปเป็นรายงานข่าวเลยว่าเกิดเหตุการณ์สะเทือนใจอะไรขึ้น
PETER BRADSHAW จากนสพ. THE GUARDIAN ของอังกฤษให้ดาวหนังเรื่องนี้ 5 ดาวเต็มค่ะ อ่านบทวิจารณ์ของเขาได้ที่
http://film.guardian.co.uk/News_Story/Critic_Review/Guardian_review/0,,1167230,00.html
http://www.amazon.co.uk/exec/obidos/ASIN/B000BH2U8M/qid%3D1145726400/202-0994912-4292629
http://www.imdb.com/title/tt0334237/
http://images-eu.amazon.com/images/P/B000BH2U8M.02.LZZZZZZZ.jpg
--เห็นคุณอ้วนบอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่างมาเปิดตัวเด็กใหม่ในสังกัดเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ส่งรูปเด็กใหม่ของเธอมาให้ดิฉันดู ดิฉันก็เลยนำมาให้คนอื่นๆดูต่อค่ะ
เด็กใหม่ของคุณอ้วนมีชื่อว่า RICARDO FACCHINI ค่ะ เป็นนายแบบ THE BOY เดือนเม.ย.
http://my.opera.com/corepylon/albums/show.dml?id=58483&page=1&skip=0&show=0&perscreen=20
http://my.opera.com/corepylon/homes/albums/58483/10_09g.jpg
--ขอแปะอันดับต่างๆไว้ก่อนนะคะ
หนังที่ได้ดูในวันพุธ-วันเสาร์
1.PILBARA PEARL (1998, CHRISTOPHER WATSON, A+)
หนังเรื่องนี้อาจจะไม่มีคุณค่าทางศิลปะแต่อย่างใด แต่ก็ประทับใจกับหนังโรแมนติกเรื่องนี้อย่างสุดๆ เพราะพระเอกหนังเรื่องนี้มีคุณสมบัติตรงกับ “ผู้ชายในฝัน” ของดิฉัน (เหตุผลข้อเดียวกันนี้คือเหตุผลที่ทำให้ดิฉันชอบหนังเรื่อง ALWAYS (STEVEN SPIELBERG, A+++++) อย่างที่สุด และเป็นเหตุผลที่เคยทำให้ดิฉันหยิบวิดีโอหนังเรื่อง ALWAYS มาดูเป็นประจำ)
หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักระหว่างผู้ชายผิวขาวกับผู้หญิงผิวสี และดิฉันก็มักจะชอบหนังแนวนี้อยู่แล้ว เหมือนกับที่ชอบหนังเรื่อง GUESS WHO (2005, KEVIN RODNEY SULLIVAN, A+)
อย่าจำชื่อหนังเรื่อง PILBARA PEARL สลับกับหนังเกย์เรื่อง PEORIA BABYLON (1997, STEVEN DILLER) ที่มีดีวีดีเข้ามาวางขายในกรุงเทพแล้ว
http://images.amazon.com/images/P/B00001PE5I.01._SCLZZZZZZZ_.jpg
2.LITTLE FISH (2005, ROWAN WOODS, A+)
HUGO WEAVING (THE MATRIX) กับ SAM NEILL (JURASSIC PARK) เล่นเป็นคู่เกย์กันในหนังเรื่องนี้ (กรี๊ด) แถมมีฉากจุมพิตกันด้วย ดูหนังเรื่องนี้แล้วนึกถึงละครเรื่อง “ทางสายทาส” (1989, สุประวัติ ปัทมสูต, A+) ที่สร้างจากนิยายของม.มธุการี กับหนังเรื่อง CLEAN (2004, OLIVIER ASSAYAS, A) ที่ตัวละครนางเอก (เคย) ติดยาเสพติดมาก่อน
http://www.thaitv3.com/drama_old46/history/2532.html
3.FOOTNOTE (2003, PIA BORG, A+)
หนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้มีงานด้านภาพบางส่วนที่ทำให้นึกถึง THE PATCHWORK QUEEN (2001, LARS HENKEL, A+) ในขณะที่เนื้อหาของหนังก็ทำให้นึกถึงฉากผู้คนในอพาร์ทเมนท์ทำกิจกรรมจังหวะเดียวกันใน DELICATESSEN (1991, JEAN-PIERRE JEUNET, A)
4.MOTHER TONGUE (2002, SUSAN KIM, A+)
ชอบภาพในหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้พอสมควร งานด้านภาพทำให้นึกถึง
RECENTLY 2 (2000, JOCHEN KUHN, A+)
5.WE HAVE DECIDED NOT TO DIE (2003, DANIEL ASKILL, A+)
ดูแล้วนึกถึงมิวสิควิดีโอของ THE FUTURE SOUND OF LONDON หรือ ORBITAL
6.BASIC INSTINCT 2: RISK ADDICTION (2006, MICHAEL CATON-JONES, A+)
7.NED KELLY (2003, GREGOR JORDAN, A+)
8.CRY WOLF (2005, JEFF WADLOW, A) ฉายที่ SIAM DISCOVERY
http://www.imdb.com/title/tt0384286/
http://www.amazon.com/gp/product/B000BTIU4S/qid=1145728911/sr=1-1/ref=sr_1_1/104-1464384-3605505?%5Fencoding=UTF8&s=dvd&v=glance&n=130
http://images.amazon.com/images/P/B000BTIU4S.01._SCLZZZZZZZ_.jpg
9.พระ เด็ก เสือ ไก่ วอก (THE MAGNIFICENT FIVE) (2006, BHANDIT RITTAKOL, A)
10.GARAGE DAYS (2002, ALEX PROYAS, A)
11.PERHAPS LOVE (2006, PETER CHAN, A-)
12.LOCAL DIVE (2001, SARAH WATT, A-)
http://www.imdb.com/title/tt0284268/plotsummary
SARAH WATT กำกับหนังเรื่อง LOOK BOTH WAYS (2005, A-/B+) ที่เพิ่งเข้ามาเปิดฉายในกรุงเทพในเดือนก.พ. รู้สึกว่าลายเส้นแอนิเมชั่นของเธอมีเอกลักษณ์พอสมควร เพราะดู LOCAL DIVE เพียงแค่ไม่กี่วินาที ก็เดาได้เลยว่าน่าจะเป็นผลงานของ SARAH WATT
13.BIRTHDAY BOY (2004, SEJONG PARK, A-)
ดูแล้วนึกถึงหนังเกาหลีใต้เกี่ยวกับชีวิตเด็กในช่วงสงครามเกาหลีเรื่อง SPRING IN MY HOMETOWN (1998, LEE KWANGMO, A)
http://www.imdb.com/title/tt0156386/
14.16 BLOCKS (2006, RICHARD DONNER, A-)
15.WARD 13 (2003, PETER CORNWELL, A-)
http://www.ward13.com.au/
16.ABOVE THE DUST LEVEL (1999, CARLA DRAGO, A-/B+)
http://www.imdb.com/title/tt0220296/
หนังมีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับเลสเบียน
17.FAMED (2001, MICHAEL BATES, B+)
ดูแล้วนึกถึงมิวสิควิดีโอ LUCKY ของ BRITNEY SPEARS
18.ICARUS (2000, CHRIS RICHARDS-SCULLY, B)
มีบางช่วงของหนังที่ทำให้นึกถึง CONTACT (1997, ROBERT ZEMECKIS, A+)
19.DATE MOVIE (2006, AARON SELTZER, C+)
20.ALWAYS: SUNSET ON THIRD STREET (2005, YAMAZAKI TAKASHI, C+)
http://www.hiff.org/filmlisting_tickets/synopsis.php?pid=ALWA&sid=&y=2006&f=2
MOST DESIRABLE ACTOR
1.JARED PADALECKI – CRY WOLF
เขาเกิดปี 1982 และเคยเล่น HOUSE OF WAX (2005, JAUME COLLET-SERRA, A+)
http://www.unexpected-fate.net/inspire/nymDVD03.jpg
2.PHIL BARANTINI – NED KELLY
http://www.imdb.com/name/nm0053028/
เขาเกิดปี 1980 และเคยเล่นละคร BAND OF BROTHERS (2001)
3.BRETT STILLER – GARAGE DAYS
http://www.imdb.com/name/nm1002894/
FAVORITE ACTOR
1.HUGO WEAVING – LITTLE FISH
2.DAVID MORRISSEY – BASIC INSTINCT 2: RISK ADDICTION
FAVORITE SUPPORTING ACTOR
1.DAVID THEWLIS – BASIC INSTINCT 2: RISK ADDICTION
2.HEATHCOTE WILLIAMS (JAKOB GERST) – BASIC INSTINCT 2: RISK ADDICTION
http://www.imdb.com/name/nm0930748/
เขาเคยเล่น HOTEL (2001, MIKE FIGGIS, A+)
3.NEIL MASKELL (DETECTIVE FERGUSON) – BASIC INSTINCT 2: RISK ADDICTION
ดาราชายร่างอ้วนคนนี้หน้าตาคุ้นมากๆ ประวัติบอกว่าเขาเคยเล่น IT’S ALL GONE PETE TONG (2004, MICHAEL DOWSE, A+)
4.JON BON JOVI — CRY WOLF
FAVORITE SUPPORTING ACTRESS
1.RACHEL GRIFFITHS – NED KELLY
2.HIROKO YAKUSHIMARU – ALWAYS: SUNSET ON THIRD STREET
เคยชอบเพลง KATARI TSUGU AINI (ไม่รู้สะกดถูกหรือเปล่า) ของเธอมากๆ รู้สึกว่าจะเป็นเพลงประมาณปี 1988 นึกไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นเธอแสดงหนังในปี 2005 ดีใจที่เธอยังได้แสดงหนังอยู่
3.KRIS MCQUADE – NED KELLY
http://www.imdb.com/name/nm0574296/
เธอเคยเล่น STRICTLY BALLROOM (1992, BAZ LUHRMANN, A)
4.NONI HAZLEHURST – LITTLE FISH
http://www.imdb.com/name/nm0372023/
5.ANNA DEAVERE SMITH – CRY WOLF
http://www.imdb.com/name/nm0807332/
เธอเคยเล่น THE HUMAN STAIN (2003, ROBERT BENTON, A+)
6.EMILY BROWNING – NED KELLY
http://www.imdb.com/name/nm0115161/
เธอคือนางเอก LEMONY SNICKET’S A SERIES OF UNFORTUNATE EVENTS (2005, BRAD SILBERLING, A-)
FAVORITE SCENE
จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า
1.ฉาก “แกฆ่าฉัน แกต้องตาย” ของนุดี
2.ฉาก “น้ำเงิน บุญหนัก” สยายหัว ทำหน้าสาวขึ้น ขณะหนังแฟลชแบ็คไปเมื่อ 17 ปีก่อน
FAVORITE FILM CRITICISM
1.บทวิจารณ์ DUCK SEASON (2004, FERNANDO EIMBCKE, A+) ของ AMY TAUBIN ในนิตยสาร FILM COMMENT เล่มเดือนมี.ค./เม.ย.
2.บทวิจารณ์ ALWAYS: SUNSET ON THIRD STREET ของคุณมโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ ในนิตยสาร FLICKS อ่านบทวิจารณ์นี้แล้วทำให้เข้าใจอะไรๆขึ้นอีกเยอะมาก และจุดประกายให้นำไปคิดต่อได้อีก
FAVORITE OLD SONG OF THE WEEK
IF YOU WANT ME ของ HINDA HICKS ในอัลบัม HINDA (1998, A)
เพลงนี้เป็นเพลงแนว R&B ค่ะ เห็นผู้ฟังบางคนยกย่องให้ HINDA HICKS เป็นนักร้องแนวโซลของอังกฤษที่ยอดเยี่ยมที่สุดนับตั้งแต่ MICA PARIS ด้วย
http://www.amazon.com/gp/product/B0000089GH/sr=1-3/qid=1145728384/ref=sr_1_3/104-1464384-3605505?%5Fencoding=UTF8&s=music
ความเห็นเล็กน้อยต่อหนังที่ได้ดู
--CRY WOLF
หนังเรื่องนี้อาจจะไม่มีอะไรที่ ORIGINAL เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็อาจจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบ SCREAM (WES CRAVEN, A+), THESIS (ALEJANDRO AMENABAR, A+), URBAN LEGEND (1998, JAMIE BLANKS, A+/A) และ GOSSIP (2000, DAVIS GUGGENHEIM, B-)
--หนังของ MICHAEL CATON-JONES เรียงตามลำดับความชอบ
1.BASIC INSTINCT 2: RISK ADDICTION (2006, A+)
2.CITY BY THE SEA (2002, A)
3.ROB ROY (1995, A-)
4.THIS BOY’S LIFE (1993, A-/B+)
http://www.imdb.com/title/tt0108330/
5.MEMPHIS BELLE (1990, B)
6.DOC HOLLYWOOD (1991, B/B-)
จำอะไรในหนังแทบไม่ได้แล้ว
ดูจากอันดับแล้ว ทำให้รู้สึกว่าดิฉันอาจจะประทับใจกับ “ความชั่ว” ในหนังของ MICHAEL CATON-JONES ยิ่งตัวละครในหนังของเขาชั่วเท่าไหร่ หรือมีบรรยากาศมืดหม่นมากเท่าไหร่ ดิฉันก็ยิ่งชอบหนังของเขามากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ MEMPHIS BELLE กับ DOC HOLLYWOOD ไม่ค่อยมีตัวละครชั่วๆ ดิฉันก็เลยไม่มีอารมณ์ร่วมกับหนัง
--รู้สึกว่าหนังออสเตรเลียหลายๆเรื่องที่เคยดูตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน มักจะมีฉากตัวละคร “ว่ายน้ำ”, “ดำน้ำ” และมีฉากสระว่ายน้ำหรือชายทะเล
--BROKEN FLOWERS
จุดที่ชอบในหนังเรื่องนี้รวมถึง
1.การไม่แฟลชแบ็คไปยังอดีตรักของตัวละคร และจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้รู้สึกอินกับหนังเรื่องนี้มากกว่า PERHAPS LOVE
2.ถึงแม้หนังจะมีการเปรียบเทียบชีวิตชายโสดกับชีวิตชายที่มีครอบครัวอบอุ่น แต่ก็รู้สึกว่าหนังไม่ได้ตำหนิตัวละครพระเอกหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรง ในความเห็นส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่าถึงแม้พระเอกหนังเรื่องนี้ย้อนไปแก้ไขอดีตของตัวเองได้ เขาก็ไม่มีวันทำอย่างเพื่อนบ้านของเขาได้อยู่ดี เพราะนั่นไม่ใช่ “ตัวเขาจริงๆ” และการที่หนังไม่ได้ตำหนิการใช้ชีวิตชายโสดของพระเอกหนังเรื่องนี้มากนัก ก็ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้มากกว่าหนังอย่าง THE FAMILY MAN (2000, BRETT RATNER, B+/B)
--NED KELLY
เดาว่าที่ตัวเองชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆ คงเป็นเพราะรู้สึกประทับใจในเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ มากกว่าจะประทับใจในฝีมือการกำกับของ GREGOR JORDAN เพราะเคยดูหนังของ GREGOR JORDAN อีก 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ BUFFALO SOLDIERS (2001, B+/B) กับ TWO HANDS (1999, B/B-) แต่ก็ไม่ได้ประทับใจสองเรื่องนี้มากนัก
ดูหนังเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงหนังเกี่ยวกับการกดขี่ที่นำมาซึ่งการก่อกบฏเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น STORM OVER ASIA (1928, VSEVOLOD PUDOVKIN, A+), QUE VIVA MEXICO (1932, SERGEI EISENSTEIN, A+) และ MICHAEL COLLINS (1996, NEIL JORDAN, A+)
และ NED KELLY ก็ทำให้นึกถึงหนังเกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรหนุ่มหล่อเรื่อง BAD BOYS – A TRUE STORY (2003, ALEKSI MAKELA, FINLAND, A-) กับ THE NEWTON BOYS (1998, RICHARD LINKLATER, B+/B) ด้วย
--ALWAYS: SUNSET ON THIRD STREET
หนังเรื่องนี้ก็เป็น “หนังดี” อีกเรื่องนึงที่ดิฉันดูแล้วไม่มีอารมณ์ร่วมกับหนังเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนั่นไม่ได้เกิดจากความผิดของตัวหนังแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่อาจจะเป็นเพราะว่าชีวิตดิฉันตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันไม่ได้มีอะไรใกล้เคียงกับหนังเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ขณะที่ดิฉันดูหนังเรื่องนี้ ดิฉันจึงรู้สึก “ห่าง” จากหนังอย่างรุนแรงมาก ไม่เหมือนกับ “หนังเลว” อย่าง BAISE-MOI (2000, VIRGINIE DESPENTES + CORALIE TRINH THI, A+) ที่ดูแล้วรู้สึกว่ามันถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกแบบที่ใกล้เคียงกับชีวิตของตัวเองมากๆ
http://www.imdb.com/title/tt0249380/
ได้อ่านบทความของคุณมโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ แล้วก็ชอบบทความนั้นมาก เพราะทำให้เข้าใจว่าปี 1958 เป็นปีที่มีความสำคัญต่อ TOKYO TOWER และต่อความรู้สึกของชาวญี่ปุ่นยุคหลังสงครามอย่างไรบ้าง
นึกไม่ออกเหมือนกันว่าเคยดูหนังเรื่องไหนที่พูดถึงการสร้าง TOKYO TOWER อีกหรือเปล่า จำได้แต่ว่าเคยอ่านการ์ตูนเรื่อง “ยอดนักโทษสาว” (A+) หรือ SUKEBAN DEKA ของชินจิ วาดะ และมีตอนนึงที่นางตัวร้ายขโมยภาพวาดเก่าๆของจิตรกรสูงอายุคนนึงไป และโกหกคนอื่นว่าภาพวาดเก่าเหล่านั้นเป็นผลงานของตัวเอง แต่ต่อมาเธอก็ถูกจับโกหกได้ เพราะภาพที่เธอวาดเป็นภาพวิวทิวทัศน์ของโตเกียวยุคก่อนที่จะมีการสร้าง TOKYO TOWER ซึ่งนางตัวร้ายที่มีอายุน้อยคนนี้ไม่มีทางเกิดทันได้เห็นวิวทิวทัศน์นั้นมาก่อนอย่างแน่นอน
พูดถึงหนังเกี่ยวกับชีวิตหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็รู้สึกว่ามีหนังบางเรื่องที่ชอบสุดๆเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่อง ALMOST PEACEFUL (2002, MICHEL DEVILLE, A+)
http://images.amazon.com/images/P/B0006SSR3I.01._SCLZZZZZZZ_.jpg
ส่วนในเยอรมันตะวันตกยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองนั้น จุดหักเหสำคัญที่มีผลต่อความรู้สึกของชาวเยอรมันเป็นอย่างมาก น่าจะเป็นชัยชนะของทีมฟุตบอลเยอรมันในระดับโลกในปี 1954 และมีหนังสองเรื่องที่นำเหตุการณ์นี้มาเป็นฉากหลัง แต่นำเสนอออกมาในทางตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งก็คือเรื่อง THE MIRACLE OF BERN (2003, SONKE WORTMANN, C+) ที่นำเสนอชัยชนะของทีมฟุตบอลในแง่ของความรู้สึกน่าภาคภูมิใจ กับ THE MARRIAGE OF MARIA BRAUN (1979, RAINER WERNER FASSBINDER, A+) ที่นำเสนอชัยชนะระดับโลกของทีมฟุตบอลว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายทางจิตวิญญาณ
ส่วนหนังเกี่ยวกับชีวิตชาวญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ดิฉันดูแล้วรู้สึกว่า “อิน” สุดๆ และรู้สึกว่ามันถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกแบบที่พบได้ในชีวิตประจำวันของตัวเอง ก็มีเช่นเรื่อง
1.VIOLENCE AT NOON (1966, NAGISA OSHIMA, A+++++)
หนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหญิงสาวสองคน (SAEDA KAWAGUCHI + NARUMI KAYASHIMA) ที่มีต่อฆาตกรโรคจิต (KEI SATO) และถ้าจำไม่ผิด หนังเรื่องนี้พูดถึงความพยายามที่จะสร้าง COLLECTIVE FARMตามอุดมคติ แต่ไม่ประสบความสำเร็จด้วย
2.THE INSECT WOMAN (1963, SHOHEI IMAMURA, A)
http://www.filmref.com/directors/dirpages/imamura.html
Imamura achieves a clinically objective, yet sympathetic portrait of his archetypally sensual, primal, and strong-willed heroine as she perseveres through the turbulence and uncertainty of her economic and societal confines: Tome's job at the mill during wartime Japan, her attempts at an honest living by working as a cleaning woman during postwar occupation, her resort to prostitution during the economic depression, her rise to the role of madame during the 1950s social reforms.
3.THE PORNOGRAPHERS (1966, SHOHEI IMAMURA, A)
http://popmatters.com/film/reviews/p/pornographers-dvd.shtml
http://www.dvdbeaver.com/film/DVDReview/pornographers.htm
http://www.dvdbeaver.com/film/DVDReview/pornographers/4.jpg
Sunday, April 23, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
2 comments:
Glad to see David Morrissey in your favorite list. Have you seen "One Summer" (1983, Gordon Flemyng), a series about two Liverpool runaways? If you haven't, here is the link.
One Summer" (1983, Gordon Flemyng)
http://www.youtube.com/user/TheMarxist21#g/c/26FA2EF4E9D1D06F
I haven't seen it. Thank you very much.
Post a Comment