10 เหตุการณ์ในปี 2006 ที่อยากให้เอามาสร้างเป็นภาพยนตร์
ปี 2006 เป็นปีที่มีเหตุการณ์น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย และบางเหตุการณ์ก็ได้เป็นแรงบันดาลใจต่อภาพยนตร์บางเรื่องไปแล้ว อย่างเช่นเหตุการณ์รัฐประหารในไทย ซึ่งได้รับการนำเสนอในภาพยนตร์เรื่อง SILENCE WILL SPEAK (2006, PUNLOP HORHARIN, A++++++++++) และเหตุการณ์การฆ่าตัวตายของนายนวมทอง ไพรวัลย์ ที่ต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่งได้รับการนำเสนอในภาพยนตร์เรื่อง “จดหมายจากความเงียบ” (2006, ปราปต์ บุนปาน)
http://www.bioscopemagazine.com/web2006/webboard/index-in.php?id=50807
นอกจากสองเหตุการณ์ข้างบนนี้แล้ว ก็ยังมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมายที่อยากให้มีการนำมาดัดแปลงสร้างเป็นภาพยนตร์ เพราะบางเหตุการณ์อาจจะเป็นอุทธาหรณ์สอนใจผู้ชมได้ดี และอาจจะช่วยป้องกันไม่ให้ “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” อีกในอนาคต
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆแต่ละคนคิดถึงเหตุการณ์อะไรกันบ้าง สำหรับสิบเหตุการณ์ในใจดิฉันนั้นมีดังต่อไปนี้ค่ะ
1.ครูจูหลิง ปงกันมูล และครูศิรินาถ ถาวรสุข
2.ทหารมะกันฆ่ายกครัว-ข่มขืนฆ่าหญิงอิรัก
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=4246&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai
3.ยามยิงคนไม่ยอมเข้าคิว
http://www.komchadluek.net/news/2006/02-10/p1-19886195.html
รปภ.เลือดร้อน ฉุนนศ.สาวท้ายิงทะลุปอด!
รปภ.ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ก่อเหตุยิงนักศึกษาสาวปี 4 ม.ศรีปทุม อาการปางตาย พนักงานประจำสาขาถูกลูกหลงเจ็บ 1 มือยิงเผยชนวนมาจากมีปากเสียงกับลูกค้าที่ไม่ยอมเข้าแถวรอคิว ทั้งยังมาท้าทายกลับว่ามีปืนกล้ายิงหรือเปล่า สุดท้ายตัดใจลั่นกระสุนเข้าใส่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคาร ก่อเหตุใช้ปืนยิงลูกค้าขณะเข้าไปใช้บริการจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (ม.ธบ.) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แผนกรักษาความปลอดภัย ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ว่ามีเหตุยิงกันภายในห้างดังกล่าวและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รอง ผบก.รักษาการแทน ผกก.สภ.อ.เมืองนนทบุรี พ.ต.ต.วิทยา บวรศิขริน สว.สส.สภ.อ.เมืองนนทบุรี และกำลังอีกจำนวนหนึ่งเดินทางไปสอบสวน
ที่เกิดเหตุอยู่หน้าธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยเดอะมอลล์ ชั้นล่าง ติดกับทางเข้าออกลานจอดรถ โดยกลุ่มประชาชนยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นพบว่าที่ด้านหน้าเคาน์เตอร์มีรอยเลือดหยดเป็นทาง ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลนนทเวช ซึ่งตั้งอยู่ติดกับห้างเป็นการด่วน ทราบชื่อคือ น.ส.ภัทธิรา แซ่เตีย อายุ 25 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม ปี 4 อยู่บ้านเลขที่ 44/23 หมู่ 1 ต.บางเดื่อ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ถูกยิงด้วยปืนลูกโม่ .38 เข้าที่ไหปลาร้า ด้านซ้ายกระสุนทะลุปอด และ น.ส.นภวรรณ กันสุข อายุ 25 ปี เจ้าหน้าที่อำนวยบริการประจำธนาคารกรุงเทพ อยู่บ้านเลขที่ 18/199 ซอยงามวงศ์วาน 18 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ถูกยิงด้วยปืนเข้าที่โคนขาขวา
ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุคือ นายทองอาน นาลาด อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 7 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทำงานเป็น รปภ.ของธนาคารสาขาที่เกิดเหตุ โดยหลังเกิดเหตุได้ถือปืนรอมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไว้ โดยนายทองอานให้
การรับสารภาพว่า เนื่องจากวันนี้เครื่องรับบัตรคิวเสีย จึงมาทำหน้าที่ยืนคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าเพื่อให้เข้าแถวเป็นระเบียบ ระหว่างนั้นขณะที่กำลังทำหน้าที่อยู่ได้มี น.ส.ภัทธิรา เดินเข้ามาใช้บริการแต่ไม่ยอมเข้าคิวเหมือนคนอื่น จึงเดินเข้าไปแนะนำให้ปฏิบัติตามกฎ สร้างความไม่พอใจให้ น.ส.ภัทธิรา เป็นอย่างมาก
ระหว่างที่กำลังจะเดินกลับไปทำหน้าที่ต่อ แขนไปโดนไหล่ของน.ส.ภัทธิรา โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ แต่ น.ส.ภัทธิรากลับหาว่าตนแกล้ง และใช้มือทุบหลังตนอย่างแรงหนึ่งที ตนจึงได้พูดไปว่าทำอย่างนี้ได้อย่างไร จากนั้นก็เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ น.ส.ภัทธิราจะพูดท้าทายเพราะเห็นว่าตนมีปืนพกประจำตัวอยู่ว่า มีปืนพกแล้วกล้ายิงหรือเปล่า ซึ่งเมื่อถูกท้าทายประกอบกับความโมโห ตนจึงชักปืนออกมายิงเข้าไป 2 นัด โดยที่ไม่รู้ว่าจะยิงถูกหรือไม่
"หลังก่อเหตุแล้วก็ยืนรอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ เพราะรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมไม่น่าใจร้อนเลย เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะถูกท้าทาย โดยปกติแล้วผมใจเย็น ไม่เคยโมโหใครง่ายๆ ขอให้ไปเช็คประวัติดูได้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของบริษัทกรุงเทพรักษาความปลอดภัย ต้นสังกัดที่รับผิดชอบธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขา ผมได้เข้าทำงานกับบริษัทดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2540 และถูกส่งมาประจำที่สาขานี้ เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2548" นายทองอาน กล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายทองอาน ผู้ก่อเหตุไว้พร้อมกับแจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน
4.นาตาชา คัมพุช
สารคดีใต้ฟ้า : "นาตาชา คัมพุช" เหยื่อล่าสุดของสต็อคโฮล์ม ซินโดรม
http://www.komchadluek.net/2006/09/25/g001_50256.php?news_id=50256
25 ก.ย. 2549
คดีลักพาตัวกระฉ่อนโลกในออสเตรียที่จบลงด้วยการที่คนร้าย วูล์ฟกัง พริคโลพิล ช่างเทคนิคด้านไอที กระโดดให้รถไฟทับหลังจากที่ นาตาชา คัมพุช เหยื่อสาวที่ถูกกักขังมานานถึง 8 ปีสามารถหนีออกมาได้ แต่สำหรับเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวระหว่างเดินไปโรงเรียนเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2541 ขณะมีอายุได้เพียง 10 ขวบ ความโกลาหลเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
เรื่องราวของนาตาชากลายเป็นที่สนใจของสื่อที่กระหายข่าว พวกเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างในช่วง 8 ปีที่ถูกกักขัง โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าทำไมถึงเพิ่งจะคิดหนีเอาตอนนี้ ขณะที่อีริค สเว็ตต์ลอร์ เจ้าหน้าที่สืบสวนในคดีนี้บอกว่าเป็นไปได้ที่นาตาชาจะเป็น โรคสต็อคโฮล์ม ซินโดรม หรืออาการที่ตัวประกันซึ่งอยู่กับคนร้ายเป็นเวลานานเกิดการเห็นอกเห็นใจ หรืออาจหลงรักกันขึ้น
ล่าสุดกำลังมีการยื่นขออำนาจศาลให้นาตาชาได้สิทธิในการเป็นเจ้าของบ้านราคา 120,000 ปอนด์ (ราว 8,500,000 บาท) ของวูล์ฟกัง ซึ่งอยู่ที่เมืองสตรัสส์ฮอฟ ใกล้กรุงเวียนนา ก็ยิ่งทำให้ดูเหมือนว่าเธอพยายามยึดติดกับอดีตที่ในสายตาคนภายนอกแล้วไม่น่าจดจำเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าการกระทำของวูล์ฟกังจะไม่ต่างจากสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์ ผู้เชี่ยวชาญกลับสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจของนาตาชาที่ตอนนี้อยู่ในวัย 18 ปีแล้ว เป็นความรู้สึกผูกพัน และเป็นไปได้ว่าเธออาจจะรักวูล์ฟกังด้วยซ้ำ
เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าว่า นาตาชาไม่ได้มีท่าทีน่าเวทนาเวลาอยู่กับวูล์ฟกัง แถมยังเห็นสาวน้อยเดินอยู่ในสวนบ่อยครั้งเมื่อปีที่แล้ว และยังนั่งรถออกไปข้างนอกกับวูล์ฟกังซึ่งทุกครั้งเธอจะหันมาโบกมือให้ด้วย ส่วนวูล์ฟกังจะอ้างกับเพื่อนบ้านว่านาตาชาเป็นผู้ช่วยแม่บ้านชาวยูโกสลาเวียที่เขาไปขอยืมตัวจากวิทยาลัยมาช่วยงาน แต่ไม่ใช่แฟน กระนั้น เพื่อนบ้านก็สังเกตเห็นว่านาตาชาดูซีดเซียว และมักจะเข้าบ้านทางโรงรถโดยไม่มีใครรู้ว่าที่นั่นมีบันไดลับนำไปสู่ห้องขังที่อยู่ชั้นใต้ดิน
ดร.เรนฮาร์ด ฮอลเลอร์ นักจิตวิทยาที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลคดีนี้ให้ความเห็นว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ซับซ้อน วูล์ฟกังไม่ใช่แค่คนร้ายลักพาตัว หรือคนที่มีอิทธิพลเหนือตัวนาตาชาเท่านั้น แต่ยังสวมบทพ่อ เพื่อน และเป็นไปได้ว่าจะเป็นคนรักของเธอด้วย โดยคำอธิบายเรื่องนี้มีขึ้นหลังมีการเปิดเผยว่า นาตาชากำลังตั้งท้องลูกของวูล์ฟกังวัย 44 ปี และเธอได้เขียนจดหมายเปิดผนึกที่สร้างความประหลาดใจไปทั่วว่า รู้สึกเศร้าเสียใจเมื่อรู้ว่าวูลฟ์กังกระโดดให้รถไฟทับหลังจากเธอหนีรอดเงื้อมมือของเขามาได้
นาตาชาเป็นผู้หญิงสวยน่ารัก ทั้งยังฉลาด และเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา หลังจากที่เก็บตัวเงียบมานาน ในที่สุดนาตาชาก็ยอมปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แห่งชาติออสเตรเลียเมื่อต้นเดือนกันยายน เธอมีท่าทีผ่อนคลาย และมีความสุขดี แต่เห็นได้ชัดว่ามีปัญหาในการพูด คือ เลือกใช้คำไม่ค่อยถูก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะไม่ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ มาเป็นเวลานานเกือบ 10 ปี
เมื่อถูกถามว่าอะไรที่ทำให้รำคาญมากที่สุด นาตาชาบอกว่าเรื่องราวที่ไม่จริง อย่างเรื่องการถูกล่วงละเมิด แล้วก็เรื่องที่ห้องใต้ดินที่เธอถูกขังอยู่ถูกเอามาเปิดเผย เพราะเธอมองว่าไม่ใช่กงการอะไรของคนอื่น เธอเองจะไม่เที่ยวไปสอดส่องห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนของคนอื่น แล้วทำไมคนถึงได้มาซื้อหนังสือพิมพ์มาเปิดดูห้องของเธอกันด้วย
นาตาชาบอกด้วยว่า อาจจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับตัวเองเพราะไม่อยากให้ใครมาแสร้งทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องชีวิตของเธอ และว่าความสนใจที่ได้รับจากสื่อนั้นมากเกินไป แต่ความมีชื่อเสียงนี้ทำให้เธอมีความรับผิดชอบตามมาด้วย โดยเธอจะใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสช่วยเหลือคนอื่นเพื่อจัดตั้งมูลนิธิ หรือโครงการกุศลต่างๆ อาทิ ช่วยคนหายที่ไม่มีใครค้นพบเหมือนเธอ แล้วเธอก็อยากจะทำงานกับคนหิวโหยด้วย
บายไลน์ : ปิยรมณ์ ทรัพย์สุวรรณ
ที่มา : เดอะซัน
5.THE AMISH MASSACRE
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000124273
Monday, January 01, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment