Sunday, March 03, 2024

FOUR FACES OF JIT PHOKAEW

 

FOUR FACES OF JIT PHOKAEW

 

สรุปว่าช่วงนี้ดิฉันขอจองเป็นตัวละคร 4 ตัวนี้ค่ะ

 

1. Martha (แสดงโดย Hanna Schygulla) in POOR THINGS (2023, Yorgos Lanthimos, A+30)

 

2.กะหรี่สาวสูงวัย (Melissa McMeekin) ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ in THE HOLDOVERS (2023, Alexander Payne, A+30)

 

3. ตัวละคร “คุณย่า” ที่หนักที่สุดเท่าที่เราเคยดูมาในชีวิตนี้ ใน BAZMANDE (THE SURVIVOR) (1995, Seifollah Dad, Iran) ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป

 

4. Manju Maai (Chhaya Kadam) คุณป้าขาย samosa ที่สถานีรถไฟใน LAAPATAA LADIES (2023, Kiran Rao, India, A+30)

 

รักตัวละครคุณป้าขาย samosa อย่างสุดขีดมาก ๆ เธอไล่ลูกชายกับผัวออกไปจากชีวิตของเธอ เพราะผัวของเธอทุบตีเธอ โดยผัวอ้างว่า “เพราะเขารักเธอ เขาจึงมีสิทธิทุบตีเธอได้” เธอก็เลยไล่เขาออกไปจากชีวิต และเธอตัดสินใจอยู่ตัวคนเดียว หาเงินเลี้ยงชีพตามลำพัง และพอตัวละครตัวนึงถามเธอในทำนองที่ว่า “อยู่คนเดียวแบบนี้ไม่เหงาเหรอ ไม่กลัวเหรอ มีความสุขดีเหรอ” คุณป้าก็ตอบในทำนองที่ว่า “มันก็ยากอยู่หรอกในตอนแรก ๆ ที่จะใช้ชีวิตตามลำพังอย่างมีความสุข แต่พอเราทำมันได้สำเร็จ ก็จะไม่มีใครมา bother เราได้อีกต่อไป”

 

คือจุดนี้ของคุณป้าทำให้นึกถึงตัวละครพระเอกใน PERFECT DAYS (2023, Wim Wenders, A+30) มาก ๆ ในแง่ที่เป็นตัวละครที่ “เลือกเองว่ากูขอมีชีวิตอยู่ตามลำพังดีกว่า” และตัวละครทั้งสองก็อาจจะมี “บาดแผลแห่งชีวิต” จากอดีตหรือจากครอบครัวอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ตัวละครทั้งสองก็มีข้อแตกต่างกันอยู่บ้าง เพราะคุณป้าใน LAAPATAA LADIES อาจจะยังไม่ได้อยู่ในจุดที่สมดุลกับชีวิตมากนักในช่วงต้นของหนังเรื่องนี้ เพราะในขณะที่เนื้อเรื่องใน LAAPATAA LADIES ดำเนินไปเรื่อย ๆ เราก็จะได้เห็นตัวละครคุณป้าคนนี้ค่อย ๆ พัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับเนื้อเรื่องด้วย ทั้งในเรื่อง “วิธีการที่เธอปฏิบัติต่อลูกค้า” และเรื่อง “การตัดสินใจว่าจะกินหรือไม่กินของหวาน”

 

ชอบ LAAPATAA LADIES (2023, Kiran Rao, India, A+30) ที่ลงโรงฉายอยู่ที่เมเจอร์ สุขุมวิท กับไอคอน สยามในตอนนี้มาก ๆ คือบทหนังอาจจะดู “ฝืน ๆ” ไปบ้างในช่วงท้าย แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังที่โอเคมาก ๆ เมื่อกับหนังอินเดียเรื่องอื่น ๆ ที่เคยลงโรงฉายในกรุงเทพในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

 

แต่ถ้าหากเทียบกับหนังเรื่องอื่น ๆ ที่เราได้ดูในสัปดาห์นี้แล้ว เราก็ไม่ได้ชอบ LAAPATAA LADIES มากที่สุดนะ เพราะสัปดาห์นี้เราได้ดูทั้ง SANS SOLEIL (1983, Chris Marker, France, second viewing, A+30) ที่เราขอยกให้เป็นหนึ่งในหนังที่งดงามที่สุดเท่าที่เราเคยดูมาในชีวิตนี้ และ LOOKING FOR GILLES CARON (2019, Mariana Otero, France, documentary, A+30) ที่ฉายที่สมาคมฝรั่งเศสในวันพุธที่ 28 ก.พ. และเหมือนเป็นหนังที่บรรจุ all the sorrows of the world เข้ามาไว้ในหนัง แน่นอนว่า ตอนนี้ LOOKING FOR GILLES CARON กลายเป็นหนังที่เตรียมลุ้นอันดับหนึ่งประจำปีนี้ของเราควบคู่ไปกับ PERFECT DAYS และ KACHUA MEE PEEK กะจั๊วมีปีก (2022, Wairun Akarawinake, 60min, A+30) ไปแล้ว

No comments: