Saturday, February 12, 2005

SUPPOSING HE LOVES ME

เคยฟังเพลง NIGHT AND DAY เวอร์ชันของ U2 เมื่อราว 14-15 ปีก่อน ชอบสุดๆเลย เวอร์ชันนั้นจะช้าๆเหมือนมีเวทมนตร์บางอย่างปกคลุมอยู่ ได้ฟังเวอร์ชันของ U2 จากวิดีโอเทป RED HOT & BLUE ที่รวมผลงานของโคล พอร์เทอร์ค่ะ มิวสิควิดีโอเพลงนี้ได้วิม เวนเดอร์สมากำกับให้ ลองฟังตัวอย่างเพลงในอัลบัมชุด RED HOT & BLUE ได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ http://www.amazon.com/exec/obidos/ASIN/B000008JUM/qid=1108141548/sr=2-1/ref=pd_ka_b_2_1/103-1123839-6899821

มิวสิควิดีโอของอัลบัมชุดนี้สุดยอดมากๆค่ะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้จะหาซื้อได้ที่ไหน ดิฉันเคยซื้อจากร้านลูกแมวเมื่อราว 14 ปีก่อน

Released on: BMG
Video Date of release: 1990

Approximate Running Time: 90 Minutes.
1. David Byrne - Don't Fence Me In - (directed by David Byrne)
2. Neneh Cherry - I've Got You Under My Skin - (directed by Jean Baptiste Mondino)
3. Jimmy Somerville - From This Moment On - (directed by Steve Mclean) สตีฟ แมคลีนเคยกำกับหนังเกย์เรื่อง POSTCARDS FROM AMERICA
4. Jody Watley - After You, Who? - (directed by Matthew Rolston) A-
5. Salif Keita - Begin The Beguine - (directed by Zak Ove)
6. Erasure - Too Darn Hot - (directed by Adelle Lutz & Sandy McLeod)
7. Sinead O'Connor - You Do Something To Me - (directed by John Maybury) A+++++
ชีนเนดใส่วิกผมยาวแล้วสวยมากในมิวสิควิดีโอนี้ เธออยู่ในเมืองแฟนซีอะไรสักอย่าง ส่วนจอห์น เมย์บิวรีเคยกำกับหนังเกย์เรื่อง LOVE IS THE DEVIL (B+) http://www.imdb.com/name/nm0562266/
8. The Jungle Brothers - I Get A Kick Out Of You - (directed by Mark Pellington) มาร์ค เพลลิงตันเคยกำกับ ARLINGTON ROAD กับ THE MOTHMAN PROPHECIES (B+/B)
9. The Neville Brothers - In The Still Of The Night - (directed by Jonathan Demme) ดิฉันเฉยๆกับ mv ของเขาค่ะ คิดว่าเขาอาจจะเหมาะกำกับหนังมากกว่า
10. k. d. lang - So In Love - (directed by Percy Adlon) เค.ดี.แลงเคยเล่นหนังเรื่อง SALMONBERRIES ที่กำกับโดยเพอร์ซี แอดลอนด้วย
11. Les Negresses Vertes - I Love Paris - (directed by Roger Pomphrey)
12. Aztec Camera - Do I Love You - (directed by John Scarlett-Davies) ชอบแอซเทค คาเมรา เขาน่ารักมากๆ เพลงของเขาก็เพราะดี
13. Deborah Harry & Iggy Pop - Well, Did You Evah! - (directed by Alex Cox) A+++++++ นี่คือหนึ่งในมิวสิควิดีโอที่ชอบที่สุดในชีวิตค่ะ อเล็กซ์ ค็อกซ์ก็ชอบกำกับหนังแปลกๆเพี้ยนๆไม่แพ้มิวสิควีดีโอของเขาเช่นกัน
14. Lisa Stansfield - Down In The Depths - (directed by Philippe Gautier) A++++++
15. Kirsty MacColl & The Pogues - Miss Otis Regrets/Just One Of Those Things - (directed by Neil Jordan) ดิฉันเฉยๆกับ MV นี้เช่นกัน ถึงแม้จะชอบหนังของนีล จอร์แดนมากพอสมควร
16. Tom Waits - It's Alright With Me - (directed by Jim Jarmusch) A+++++++ mv เพลงนี้หลอนสุดฤทธิ์ ดูแล้วชอบทอม เวทส์ไปเลย ดิฉันชอบหนังของจิม จาร์มุชค่ะ แต่ชอบ MV เพลงนี้มากกว่าหนังของเขา
17. U2 - Night And Day - (directed by Wim Wenders)
18. Annie Lennox - Ev'ry Time We Say Goodbye - (directed by Ed Lachman) เพลงนี้เพราะสุดฤทธิ์
19. Bill Irwin Comedy Sketch - (directed by Adelle Lutz & Sandy McLeod)

KUNG FU HUSTLE
ใช่แล้วค่ะ ชอบตัวประกอบ 3 คนในตรอกเล้าหมูมากๆ จริงๆแล้วอยากให้ตัวละครที่เป็นเกย์ (หรือเปล่า) ได้กับหนุ่มกรรมกรมากเลยค่ะ หนุ่มกรรมกรในเรื่องนี้หน้าตาไม่ดี แต่รูปร่างกับเสน่ห์แบบแมนๆของเขาดูดีมาก ถ้าหากกรรมกรกับช่างตัดเสื้อได้เสียกัน หนังเรื่องนี้คงคลาสสิคขึ้นอีกเยอะ

หลังจากได้ดู “เดชคัมภีร์เทวดาภาค 2” เมื่อ 13 ปีก่อน ก็แทบไม่ค่อยได้ดู “หนังจีนกำลังภายในเกย์” อีก รู้สึกดีมากๆที่ KUNG FU HUSTLE มีตัวประกอบเป็นเกย์ยอดฝีมือ หวังว่าในอนาคตจะมี “หนังจีนกำลังภายในเกย์” แบบ “เดชคัมภีร์เทวดาภาค 2” ออกมาอีก แต่คราวนี้ขอให้เปลี่ยนจากความสัมพันธ์ระหว่าง “จอมยุทธหนุ่มกับจอมยุทธสาวแปลงเพศ” มาเป็น “จอมยุทธหนุ่มกับจอมยุทธหนุ่ม” ไปเลย คงจะ “เซ็กซี่” ไม่ใช่น้อย จะจับเอา “กั๊วะฟู่เฉิง” กับ “กู่เทียนเล่อ” มาประกบกันอีกครั้งแบบ THROWDOWN (JOHNNY TO, A-) ก็คงจะดีมาก แต่สองคนนี้คงไม่ยอมมารับบทเกย์ง่ายๆ ไม่เป็นไร เอาดาราหนุ่มหน้าใสๆหน้าใหม่ๆมาเล่นก็ได้ค่ะ

ความฝันเล่นๆของดิฉัน

1.ถ้าหากมีการสร้างหนังจีนกำลังภายในเกย์ออกมาอีก อยากให้มีฉากนึงในเรื่องที่ดัดแปลงมาจาก “ดาบมังกรหยก” ค่ะ เพราะใน “ดาบมังกรหยก” มีอยู่ฉากนึงที่ดิฉันรู้สึกว่าคลาสสิคมากๆ (จริงๆแล้วรู้สึกว่าดาบมังกรหยกมีฉากคลาสสิคราวๆ 30 ฉาก) นั่นก็คือฉากที่เตียบ่อกี้กำลังจะแต่งงานกับเจ้าสำนักง้อไบ๊ จิวจี้เยียก แต่ในพิธีแต่งงานที่มีแขกเหรื่อจากทั่วยุทธภพมาร่วมงานนั้นเอง องค์หญิงเตี๋ยเมี่ยงก็ปรากฏกายขึ้นเพื่อขัดขวางงานแต่งงานของทั้งสอง เธอทวงคำสัญญาที่เตียบ่อกี้ให้ไว้ และใช้วิธีบีบบังคับให้เตียบ่อกี้ตามเธอออกจากงานแต่งงาน แต่สิ่งที่ทำให้ฉากนี้คลาสสิคมากๆในความเห็นของดิฉันก็คือ การที่จิวจี้เยียกเข้าต่อสู้กับองค์หญิงเตี๋ยเมี่ยงอย่างรุนแรงในงานแต่งงานเพื่อแย่งผัวของเธอกลับคืนมา เธอบู๊สะบั้นหั่นแหลกในชุดเจ้าสาว และใช้วิชากรงเล็บกระดูกขาวอันโหดเหี้ยมอำมหิตจากคัมภีร์เก้าอิมจินเก็งทำร้ายองค์หญิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดิฉันชอบฉากนี้มากค่ะเพราะแทบไม่เคยเจอฉากงานแต่งงานฉากไหนที่มันจะลุ้นระทึกสุดมันขนาดนี้มาก่อน งานแต่งงานทั่วไป ถ้ามีคนเข้ามาขัดขวาง ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นนี้ ในหนังฮ่องกงเรื่อง BLACK CAT (หรือ “หัวใจเธอมันน่ากราบ”) และใน KILL BILL มีฉากตัวละครบุกเข้าไปในงานแต่งงานเพื่อฆ่าเจ้าสาว แต่เจ้าสาวก็แทบไม่ได้ต่อสู้อะไรในฉากนั้น ดิฉันอยากให้มีฉากผู้หญิงที่อยู่ในชุดเจ้าสาวบู๊อย่างสุดฤทธิ์แบบใน “ดาบมังกรหยก” ค่ะ อยากให้หนังเรื่องใดเรื่องนึงมีฉากพระเอกกำลังจะแต่งงานกับนังตัวร้าย แต่ “พระเอกคนที่สอง” ก็โผล่เข้ามาเพื่อขัดขวางงานแต่งงาน เขาไม่ได้ต้องการจะแย่งเจ้าสาว แต่เขามาเพื่อแย่งเจ้าบ่าว และเขาต้องใช้วิทยายุทธต่อสู้กับเจ้าสาวและบรรดาเพื่อนเจ้าสาวให้ได้เสียก่อนถึงจะชิงตัวเจ้าบ่าวออกไปได้

2.อยากให้นำพล็อตจาก “มังกรหยก” หรืออะไรทำนองนี้มาดัดแปลงเป็นหนังจอมยุทธเกย์ค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ในพล็อตของ “มังกรหยก”นั้น พ่อของก๊วยเจ๋ง (ไม่แน่ใจว่าชื่อ “ก๊วยเซียวเทียน” หรือเปล่า) กับพ่อของเอี้ยคัง (ไม่แน่ใจว่าชื่อ “เอี้ยทิซิม” หรือเปล่า) เคยตกลงกันว่าถ้าหากลูกของทั้งสองออกมาเป็นชายหญิง ก็จะจับให้หมั้นหมายกันตั้งแต่เกิด แต่พอดีลูกของทั้งสองดันออกมาเป็นผู้ชายทั้งคู่ ก็เลยแค่ให้เป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน รู้สึกว่าพล็อตเดิมของมังกรหยกมันไม่ยุติธรรมค่ะ อยากให้ในหนังเรื่องใหม่ มีตัวละครที่สาบานกันว่าถ้าหากแต่ละคนมีลูก ก็จะให้ลูกของทั้งสองมาแต่งงานกัน แต่เนื่องจากทั้งสองมีลูกชายทั้งคู่ ลูกชายของทั้งสองก็เลยถูกจับให้หมั้นกันตั้งแต่ยังเล็กๆ โฮะโฮะโฮะโฮะโฮะ ในหนังกำลังภายในเรื่องนี้ ตัวละครถูก “คลุมถุงชน” และ “คลุมถุงยาง” ไปด้วยพร้อมๆกันค่ะ

เคยดู LOVE IS THE DEVIL (1998, JOHN MAYBURY, B+) ที่ศาลาเฉลิมกรุงแบบไม่มีซับไตเติล ก็เลยดูไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ถ้าได้ดูแบบมีซับไตเติลอาจจะชอบมากยิ่งขึ้น ชอบ DANIEL CRAIG ที่รับบทเป็นโจรหนุ่มใน LOVE IS THE DEVIL มากๆค่ะ เขาไม่หล่อ หน้าตาเขาไม่ค่อยดี แต่ชอบเขามากๆในเรื่อง SYLVIA (A+) และก็เลยทำให้ชอบเขาไปเลยค่ะ
http://www.imdb.com/name/nm0185819/

เคยดู COAL MINER’S DAUGHTER ทางช่อง 3 เมื่อหลายปีก่อน ส่วน SWEET DREAMS เคยดูทางช่อง 7 ค่ะ น่าเสียดายที่ไม่ได้อัดเก็บไว้ทั้งสองเรื่อง

พูดถึงนิยายไทย ดิฉันได้อ่านแค่ไม่กี่เรื่องเองค่ะ หนึ่งในเรื่องที่ชอบมากที่สุดในชีวิตคือเรื่อง “สมมุติว่า...เขารักฉัน” ของกฤษณา อโศกสินค่ะ นางเอกของเรื่องนี้ไปรักผู้ชายที่มีสามีแล้ว แต่ถึงแม้เขาทิ้งเธอไป เธอก็ยังคง “สมมุติ” ว่าเขายังอยู่กับเธอ ร่วมรักกับเธอ รักเธออยู่

ฉากที่ชอบมากในนิยายเรื่องนี้รวมถึง

1.ฉากที่นางเอกตบเพื่อนๆในที่ทำงานอย่างรุนแรง นางเอกเผชิญกับความเครียดในที่ทำงานมานาน พอช่วงหลังของเรื่อง เธอเริ่มจิตแตก พอเพื่อนที่ทำงานจะมาเอารัดเอาเปรียบเธอ เธอก็กลายเป็นเขื่อนทำนบแตก ตบแบบไม่ยั้งมือยั้งตีนอีกต่อไป

2.ฉากที่หญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนนางเอกในโรงพยาบาลบ้า แสดงอาการยินดีอย่างมากเมื่อรู้ว่า ความพยายามของ “คุณหมอสาวผู้แสนดี” ในการรักษาคนไข้บางคนไม่ประสบความสำเร็จ โดยหญิงสาวคนนั้นพูดในทำนองที่ว่า “ชีวิตของคุณหมอน่ะมีความสุขมามากพอแล้ว เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นก็ดีแล้วล่ะ คุณหมอจะได้หัดรู้จักลิ้มรสชาติของความผิดหวังเหมือนอย่างคนอื่นซะบ้าง”

อีกจุดนึงที่น่าคิดมากในนิยายเรื่องนี้ ก็คือครอบครัวของนางเอกทำอาชีพ “ขายพระเครื่องปลอม” ค่ะ โดยครอบครัวของนางเอกทำพระเครื่องขึ้นมาใหม่ แต่เอาของผลิตใหม่เหล่านี้ไปทำกรรมวิธีบางอย่างให้มันดูเหมือนของเก่าแก่ตกทอดมานาน และเอาไปขายในฐานะของแท้ โขกราคาแพงๆจากลูกค้าที่โดนหลอก ที่บอกว่าจุดนี้น่าติดใจ เพราะประเด็นนี้มันทำให้นึกถึงเรื่องของ “การติดยึดในสิ่งสมมุติ” ค่ะ อาชีพของครอบครัวของนางเอกอาจไม่เกี่ยวข้องกับอาการหลอนของนางเอกโดยตรง แต่หากคิดถึงความหมายเชิงสัญลักษณ์แล้ว บางทีนิยายเรื่องนี้อาจจะสะท้อน “การติดยึดกับสิ่งสมมุติ สิ่งที่ไม่มีคุณค่าอันแท้จริง ค่านิยมจอมปลอม” มากมายหลายรูปแบบในสังคมก็เป็นได้ เพราะตัวละครหญิงสาวที่ “ยินดีเมื่อเห็นคุณหมอสาวเป็นทุกข์” ในข้อสองนั้น ถ้าจำไม่ผิด เธอกลายเป็นบ้าเพราะเอ็นท์ไม่ติด เธอเองก็ตกเป็นเหยื่อค่านิยมปลอมๆด้วยเหมือนกัน

ถ้าดิฉันเข้าใจไม่ผิด “สมมุติว่า...เขารักฉัน” เป็นนิยายที่ออกมานานราว 30 ปีแล้ว แต่ไม่เห็นเคยได้ดูหนังหรือดูละครที่สร้างจากนิยายเรื่องนี้เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร หรืออาจจะเป็นเพราะเนื้อเรื่องในส่วนของอาชีพของครอบครัวนางเอกที่มันเป็นการวิพากษ์สถาบันศาสนาอย่างรุนแรงมาก ก็เลยไม่มีใครกล้าเสี่ยงนำนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นหนังหรือละครเสียที

เพิ่งมารู้ทีหลังว่า FORMULA 17 อาจจะไม่ใช่หนังที่ออกมาเพื่อเน้นจับตลาดผู้ชมที่เป็นเกย์ในไต้หวันเป็นกลุ่มหลัก แต่เป็นหนังที่ออกมาเพื่อจับตลาดผู้ชม “กลุ่มเด็กสาว” เสียมากกว่า หนังก็เลยออกมาดูหน่อมแน้มอย่างรุนแรงเหมาะกับเด็กสาวๆวัยมัธยมเป็นอย่างมาก ถ้าหากเปลี่ยนบทพระเอกผู้ไร้เดียงสาให้กลายเป็นบทนางเอกซะ เนื้อหาของหนังเรื่องนี้ก็คงจะแทบไม่ต่างไปจากเรื่องสั้นที่มักลงในนิตยสาร “เธอกับฉัน”

หนังที่ได้ดูในช่วงนี้
ALL ABOUT LILY CHOU-CHOU (A+)
FINDING NEVERLAND (A)
SHALL WE DANCE (A-)

No comments: