copy from screenout webboard
http://xq28.net/s/viewtopic.php?p=208080#208080
สำหรับ BABEL (A) นั้น ดิฉันมีความเห็นคล้ายๆกับเพื่อนคนนึงค่ะว่า ชอบส่วนของญี่ปุ่นมากที่สุด เพราะส่วนอื่นๆของหนังเรื่องนี้มันดูเหมือนเป็นการส่งสารหรือบอกสอนผู้ชมมากเกินไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่ส่วนของญี่ปุ่นดูเป็นธรรมชาติมากกว่าส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ดี ส่วนของเด็กแอฟริกาเหนือก็ชอบเหมือนกัน เพราะมันดูรุนแรงดี
ความรู้สึกของดิฉันที่มีต่อ BABEL คล้ายๆกับความรู้สึกที่มีต่อหนังหลายๆเรื่อง นั่นก็คือส่วนที่ชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนั้น คือส่วนที่ “มีความสำคัญน้อยที่สุด” ต่อคอนเซปท์หรือไอเดียของหนังเรื่องนั้น หรือเป็นส่วนที่ “สามารถตัดออกไปจากหนังได้ โดยที่แทบไม่กระเทือนต่อเนื้อเรื่องเลย” เพราะในหนังหลายๆเรื่องนั้น พอผู้สร้างหนังต้องการจะส่งสาร เขาก็จะบีบบังคับเนื้อเรื่อง, การแสดง และอารมณ์ให้ออกมาสอดคล้องกับสารที่เขาต้องการจะสื่อ จนส่งผลให้เนื้อหาตรงส่วนนั้นดู “แข็งทื่อ” ไป
เมื่อเร็วๆนี้ได้อ่านคำวิจารณ์หนังเรื่อง QUIET AS A MOUSE (2004, MARCUS MITTERMEIER) แล้วก็พบว่า ความเห็นของนักวิจารณ์ที่มีต่อหนังเรื่องนี้นั้น ตรงกับความเห็นของดิฉันที่มีต่อหนังอีกหลายๆเรื่อง เพราะเขาบอกว่าฉากที่เขาชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้ คือฉากที่พระเอกร้องเพลงเป็นเวลายาวนาน ซึ่งเป็นฉากที่ไม่มีความสำคัญต่อเนื้อหาของเรื่องหรือประเด็นหลักของเรื่องเลย และเป็นฉากที่สามารถตัดออกไปจากเรื่องได้โดยไม่กระเทือนเนื้อหาของเรื่อง
http://www.jump-cut.de/germanfilmreview-muxmaeuschenstill.html
What turns out to be more interesting is a longish scene showing Mux karaoke singing in a seedy bar, a scene that seems to aim at giving the protagonist a more human side. This singing among the people you expect in such a drab location is, however, strangely touching in a way that exceeds the filmmakers' obvious intentions. This is a very sad moment and even more moving as it happens in, narratively speaking, a scene almost completely beside the point of this overly didactic film. And it does not help at all that the author and director - in the press notes - make a didactical point of not having clearly defined didactical points. This is a concept movie, which is best at the exact moments when it loses sight of its concept.
ตอบน้อง VESPERTINE
--พูดถึง THE QUEEN (2006, STEPHEN FREARS, A) แล้ว ก็ทำให้นึกได้ว่า หนึ่งในฉากที่ชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้คือฉากที่ CHERIE BLAIR (HELEN MCCRORY) ทำเดินถอยหลังขณะออกจากห้องเข้าเฝ้าราชินีในช่วงแรกของหนัง รู้สึกชอบสิ่งที่เชอรี แบลร์ทำในฉากนั้นมาก สะใจมากๆที่ราชินีเจออย่างนี้
--อันนี้เป็นรูปของ “อีอ้วน แบลร์” หรือ “EUAN BLAIR” ลูกชายตัวร้ายของ TONY BLAIR
http://editorial.jpress.co.uk/web/Upload/YPOS/26820067y2-2608-02-2508_191918.jpg
http://www.telegraphindia.com/1050627/images/27blair1.jpg
http://www.politicalfriendster.com/images/3526.jpg
--ขอบคุณมากๆค่ะที่เอาข้อมูลเกี่ยวกับหนังเยอรมันยุคใหม่มาให้อ่าน
SVEN TADDICKEN (1974) ที่กำกับ EMMA’S BLISS เป็นผู้กำกับที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะเขายัง “หนุ่ม” อยู่ อุ๊ย ไม่ใช่ เพราะว่าเขาเคยกำกับหนังตลกเรื่อง MY BROTHER THE VAMPIRE (2001, A+) ที่ดิฉันชอบมากๆ
MY BROTHER THE VAMPIRE
http://www.german-films.de/app/nextgeneration/film_view.php?film_id=631
EMMA’S BLISS
http://www.german-films.de/app/nextgeneration/film_view.php?film_id=1335
SVEN TADDICKEN
http://farm1.static.flickr.com/188/411258253_93a39daaef_b.jpg
--สำหรับ MONICA BLEIBTREU ที่นำแสดงใน FOUR MINUTES นั้นก็เป็นดาราหญิงที่น่าสนใจมากๆคนนึง เธอเกิดปี 1944 และเคยแสดงหนังเรื่อง
http://us.imdb.com/name/nm0088179/
http://www.deutsches-filmhaus.de/bio_sie/a-e_sie/bleibtreu_monica_por1vir.jpg
1.LUDWIG: REQUIEM FOR A VERGIN KING (1972, HANS-JUERGEN SYBERBERG)
2.THE CASTLE (1997, MICHAEL HANEKE, A+++++++++++++)
3.THE FAREWELL – BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER (2000, JAN SCHUETTE, A+++++++++++++)
4.RUN LOLA RUN (1998, TOM TYKWER, A+)
5.AMEN (2002, COSTA-GAVRAS, A/A-)
http://us.imdb.com/title/tt0280653/
--สำหรับ MATTHIAS GLASNER ที่กำกับ THE FREE WILL นั้น ก็คงเป็นผู้กำกับที่น่าสนใจที่สุดคนนึงของเยอรมันในตอนนี้ ดิฉันเคยดูหนังของเขาเรื่องนึง ซึ่งก็คือเรื่อง THE SUICIDE OF SARA W. (2002, A++++++++++++++) ที่เคยมาเปิดฉายที่สถาบันเกอเธ่ ซ.สาทร 1 หนังสั้นเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างเพียง 99 ยูโรเท่านั้น และเป็นหนังที่เฮี้ยนสุดๆ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับ ซาร่า ดับเบิลยู สาวเสียสติที่ออกอาละวาดตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ในโรงหนังไปจนถึงหลังคาอาคารสูง ความเฮี้ยนของหนังเรื่องนี้อยู่ในระดับน้องๆของหนังเรื่อง WHAT HAPPENED TO MAGDALENA JUNG? (1983, CHRISTOPH SCHLINGENSIEF, A+++++++) แต่การที่ความเฮี้ยนอยู่ในระดับ “น้องๆ” นั้นไม่ได้เป็นเพราะว่า MATTHIAS GLASNER มีความสามารถน้อยกว่า CHRISTOPH SCHLINGENSIEF แต่คงเป็นเพราะว่าหนังเรื่อง THE SUICIDE OF SARA W. ถูกจำกัดทุนสร้างไว้แค่ 99 ยูโรเท่านั้น
หนังเรื่อง THE SUICIDE OF SARA W. จัดอยู่ในหนังชุด 99 EURO FILMS ที่ประกอบด้วยหนังสั้นราว 12 เรื่อง โดยหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังที่ดิฉันชอบที่สุดในชุดนี้ ส่วนอันดับสองอาจจะเป็นของหนังสั้นเรื่อง MON CHERIE ที่กำกับโดย NICOLETTE KREBITZ โดยหนังสั้นเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับหญิงสาว 4 คนที่ออกไปจับจ่ายซื้อหาโสเภณีชายด้วยกัน
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B00007KGB4.03._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
MATTHIAS GLASNER
http://www.players.de/47/bild1k.jpg
--สำหรับหนังเรื่อง LONGING ของ VALESKA GRISEBACH นั้น ผู้สนใจสามารถอ่านคำวิจารณ์ที่ดีมากๆโดย ACQUARELLO ได้ที่นี่
http://filmref.com/journal/
ACQUARELLO เปรียบเทียบหนังเรื่อง LONGING นี้ว่า = BARBARA ALBERT + MICHAEL HANEKE
Recalling Barbara Albert's cinema in its episodic, extrapolative, organic narrative and the integral incorporation of zeitgeist pop songs as a generational soundtrack and tongue in cheek, short hand mode of contemporary expression that articulate the contours of interior, emotional landscapes, and infused with Michael Haneke's familiar penchant for illustrating subtle perturbations within quotidian ritual that lead to unforeseen and irreparably transformative consequences, Longing is a distilled, yet thoughtful and sensitively rendered tale of intimacy, betrayal, and elusive nature of desire.
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VALESKA GRISEBACH ได้ที่
http://www.german-films.de/en/germanfilmsquaterly/previousissues/seriesgermandirectors/valeskagrisebach/index.html
VALESKA GRISEBACH เป็นหนึ่งในผู้กำกับหนังยุคใหม่หลายคนของเยอรมนีที่โด่งดังขึ้นมาจาก “หนังวิทยานิพนธ์” หรือหนังที่ทำขึ้นเพื่อให้สำเร็จการศึกษา โดยหนังเรื่องนั้นของเธอคือเรื่อง BE MY STAR (2000) ที่ทำให้เธอโด่งดังในระดับโลก
ในความเห็นส่วนตัวของดิฉัน หนังเยอรมนียุคนี้มีจุดนึงที่น่าสนใจตรงที่ผู้กำกับชื่อดังหลายคนโด่งดังมาจาก “หนังวิทยานิพนธ์” ของตัวเอง โดยหนังเหล่านี้มีจุดเด่นที่ต่างจากหนังวิทยานิพนธ์ของประเทศอื่นๆตรงที่
1.เป็นหนังยาว ไม่ใช่หนังสั้น
2.ได้รับการเปิดฉายในโรงภาพยนตร์ปกติ
3.ดิฉันเดาว่ามหาวิทยาลัยในเยอรมนีคงมีระบบการจัดการที่ดีพอสมควร ถึงได้ผลักดันให้หนังของลูกศิษย์สามารถหาทุนมาสร้างหนังและสามารถจัดจำหน่ายได้
รู้สึกว่าผู้กำกับหนังเยอรมันที่แจ้งเกิดจากหนังวิทยานิพนธ์ของตัวเองนั้น มีจำนวนเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่ามีใครอีกบ้าง แต่จำได้ว่าเคยอ่านผ่านๆตามาเยอะมาก
นอกจาก BE MY STAR แล้ว หนังวิทยานิพนธ์ที่น่าสนใจมากๆของเยอรมนียังรวมถึง
1.ENGLAND! (2000, ACHIM VON BORRIES)
2.HOUNDS (2007, ANN-KRISTIN REYELS)
http://www.variety.com/review/VE1117932741.html?categoryid=2478&cs=1
--ส่วนของไทยนั้น หนังที่ทำโดยนักศึกษาปีสุดท้ายส่วนใหญ่รู้สึกว่าจะเป็นหนังสั้น ส่วนที่เป็นหนังยาวนั้น เท่าที่พอนึกออกก็อาจจะมีเช่น
1.AFTERNOON TIME (2005, TOSSAPOL BOONSINSUKH, A+++++++++)
2.ลี้ (CHOOKIAT SAKVIRAKUL, A+)
3.กั๊กกะกาวน์ (2004, วิทิต คำสระแก้ว, ฤทธิชัย สิริประสิทธิ์พงศ์, B)
http://content.kapook.com/hilight/pichilight/620.html
ศรุต ชัชวาล พระเอกกั๊กกะกาวน์
http://content.kapook.com/hilight/pic3/620-1-p1.jpg
--สำหรับหนังเรื่อง YOU TOLD ME, YOU LOVE ME ของ RUDOLF THOME นั้นก็อยากดูอย่างสุดๆเลยค่ะ เพราะชอบ RUDOLF THOME มากๆ เขาได้รับสมญานามว่าเป็น ERIC ROHMER แห่งเยอรมนี เพราะเขาค่อนข้างนำเสนอความสัมพันธ์ของมนุษย์อย่างเป็นธรรมชาติ เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับกลุ่ม NEW GERMAN CINEMA ในทศวรรษ 1970 และเป็นที่น่าดีใจมากๆที่เขายังคงได้สร้างหนังจนถึงปัจจุบันนี้ ในขณะที่ผู้กำกับรุ่นเดียวกับเขาหลายคนอำลาวงการไปแล้ว ดิฉันเคยดูหนังของเขาเรื่อง BERLIN CHAMISSOPLATZ (1980, A+) และ TAROT (1986, A) ค่ะ โดยหนังเรื่อง BERLIN CHAMISSOPLATZ นั้นมีฉากที่พระเอกกับนางเอกไปดูหนังเรื่อง CELINE AND JULIE GO BOATING (JACQUES RIVETTE, A+) ด้วยกันด้วย
RUDOLF THOME
http://home.snafu.de/thome/Thome/Thome.jpg
--สำหรับหนังเรื่อง PRINCESS (2006, BIRGIT GROSSKOPF) นั้นดิฉันก็อยากดูอย่างมากๆเหมือนกัน เพราะว่าหนังเรื่องนี้ท่าทางจะเป็นหนึ่งในหนังกลุ่ม “เด็กสาวอันตราย” ของเยอรมนี ซึ่งเป็นหนังกลุ่มที่ดิฉันชอบมากๆ
ในขณะที่อเมริกาถนัดสร้างหนังเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่น อย่างเช่นหนังที่นำแสดงโดยแมนดี้ มัวร์, ลินด์เซย์ โลฮาน และฮิลารี ดัฟฟ์ เยอรมนีก็ถนัดสร้างหนังเกื่ยวกับเด็กสาววัยรุ่นที่ประสบปัญหาชีวิตเช่นกัน แต่ต่างกันตรงที่เด็กสาววัยรุ่นในหนังเยอรมนีนั้นมักจะมีลักษณะ “BEYOND REDEMPTION” หรือ “หมดทางเยียวยาแก้ไขใดๆได้อีกต่อไป”
หนังกลุ่มเด็กสาวอันตรายของเยอรมนี
1.PRINCESS
หนังเล่าเรื่องของกลุ่มเด็กสาวอันธพาลเลือดร้อนที่ชอบทำร้ายคนที่โชคร้ายผ่านมาเจอพวกเธอเข้า
http://www.filmkunstfest-schwerin.de/data/images/060a2ab790359cac2cf77365688bb2ae-944_600x450.jpg
http://farm1.static.flickr.com/157/411354600_397c39c6b4_b.jpg
http://farm1.static.flickr.com/127/411354595_795d681ec4_b.jpg
http://farm1.static.flickr.com/179/411354592_527e29cea0_b.jpg
Birgit Grosskopf's hard-hitting debut feature film depicts four cigarette-smoking, alcohol-drinking, troublesome adolescents, who wander in between the concrete skyscrapers of downtrodden West-German suburbia. These uncouth youths are surprisingly not boys but girls, with attitude, quick-tempers and foul-mouths, who violently vent their scorn on any unfortunate soul who gets in their way. Surrounded by a society that is obsessed with health and sex, the alienated foursome are left to prick-tease their male peers and pick fights with their female rivals. Grosskopf's fine direction is coupled with a witty yet gritty script that contains daring sexual humour and brutal imagery. This is a fascinating and coldly told tale of friendship, abandonment and the beauty of youth, minus the innocence.
2.CHRISTIANE F. – WE CHILDREN FROM BAHNHOF ZOO (1981, ULI EDEL)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B00005KH2B.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
หนังเรื่องนี้มีขายในรูปแบบวีซีดีลิขสิทธิ์ในไทย และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กสาวที่ติดยาเสพติด
This movie portrays the drug scene in Berlin in the 70s, following tape recordings of Christiane F. 14 years old Christiane lives with her mother and little sister in a typical multi-storey apartment building in Berlin. She's fascinated by the 'Sound', a new disco with most modern equipment. Although she's legally too young, she asks a friend to take her. There she meets Detlef, who's in a clique where everybody's on drugs. Step by step she gets drawn deeper into the scene.
คุณ pc แห่งเว็บบอร์ด BIOSCOPE แนะนำคลิปหนังเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ สามารถดูได้ที่นี่
http://www.youtube.com/watch?v=N1_wJVhAIsA
3.THE STATE I AM IN (CHRISTIAN PETZOLD, A+++++)
เรื่องราวของเด็กสาวที่เป็นลูกของผู้ก่อการร้ายชาย-หญิงคู่นึงที่เคยก่อคดีใหญ่ไว้ในเยอรมนีในทศวรรษ 1970
รูปของ JULIA HUMMER นางเอก THE STATE I AM IN + GHOSTS
http://farm1.static.flickr.com/188/411354586_5988b01512_b.jpg
4.GHOSTS (2005, CHRISTIAN PETZOLD, A++++++++)
เรื่องราวของเด็กสาวกำพร้า-ยากจน-เร่ร่อนคนนึงที่อาจจะมีปัญหาทางจิต แต่มีหญิงวัยกลางคนคนนึงที่อาจจะเป็นโรคจิตมาอ้างว่าเด็กสาวคนนี้อาจจะเป็นลูกสาวของเธอที่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่เด็ก ในขณะเดียวกัน เด็กสาวคนแรกก็ได้มาสนิทสนมรักใคร่กับหญิงสาวอีกคนที่เป็นอาชญากร
หนึ่งในฉากที่ติดตาที่สุดในหนังเรื่องนี้คือฉากที่หญิงสาวอาชญากรเงื้ออาวุธขึ้นมาหมายจะฆ่าหญิงวัยกลางคนคนนึงที่ทะเลาะกับเธอ
5.SOPHIIIIE! (2002, MICHAEL HOFMANN)
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B000KJU2R2.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V46856324_.jpg
หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ และเธอก็ตั้งใจจะไปทำแท้ง โดยหนังเรื่องนี้เล่าเฉพาะช่วงเวลาในคืนวันสุดท้ายก่อนที่เธอจะไปทำแท้ง
หนังเรื่องนี้ได้รับคำชมว่าเท่ากับ KEN LOACH + THE DARDENNE BROTHERS + LUKAS MOODYSSON และเป็นหนึ่งในหนังกลุ่ม MISERABILISM
Michael Hofmann's film follows a vulnerable young woman as she spends her last self-destructive night on the town, before the next morning's appointment at the abortion clinic - to erase from history the effect of a date-rape. It's a movie in a tough, compassionate-realist tradition stretching from Loach to the Dardennes brothers and now Lukas Moodysson with his Lilya 4-Ever. I have to say I found the visual tropes and narrative scheme very familiar, bordering uncomfortably on cliche and miserablism. But it's a powerful, often very funny performance from Katharina Schuettler as Sophie, and writer-director Hofmann devises some excruciating moments.
http://www.rtsi.ch/prog/images/Trasm/locarno02_sophiiie1-b.jpg
6. KROKO (2003, SYLKE ENDERS)
http://us.imdb.com/title/tt0404183/
http://ec1.images-amazon.com/images/P/B0002X7IUA.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg
http://farm1.static.flickr.com/132/411354589_0522875600_b.jpg
หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กสาวที่ก้าวร้าวและทำผิดกฎหมาย เธอขับรถชนคน และถูกลงโทษด้วยการส่งไปทำงานในสถานดูแลผู้ป่วย แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สำนึกผิดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
16 years old Julia calls herself Kroko and plays the role of a tough and ruthless girly gang leader in Berlin-Wedding, home of the losers within the German capital. She dominates her surrounding with her hyper- coolness and her attractiveness. Her life is made up of hanging around with her gang, visiting the local clubs and discotheques, occasional robberies, and a big deal of boredom. At home, she terrorizes her mother with ignorance, who desparately tries to get through her live of alcoholism and the obligations of a mother of 2 children - Kroko and her little sister Cora. One night, she and her gang capture a car, drive through the town -- but then she runs over a man who suddenly crosses the street. She is caught and the judge sentences her to 60 hours work in a social service where disabled persons are cared for. Instead of showing some repentance of what she's done, Kroko is indignant of having to get in touch with cripples and spastics. During the first phase of her punishment, she is aggressive, insulting the disabled, refusing to do any kind of work at the station.
SYLKE ENDERS
http://new.heimat.de/hpg/media/41833.jpg
7.SILENT STORM (2001, TOMASZ THOMSON)
http://www.german-films.de/app/filmarchive/images/silent_storm.jpg
แอนนาเป็นหญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ริมแม่น้ำ เธออาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ข้างหลังสวนสัตว์ และเธอก็ได้ยินเสียงสัตว์ร้องทุกค่ำคืน เธอรู้สึกเปล่าเปลี่ยวหงอยเหงา และเธอก็มีเพื่อนบ้านเป็นหญิงชราคนนึงที่อาศัยอยู่ตามลำพังกับแมวสองตัว
แอนนาต้องการแสวงหาความรัก, ความอบอุ่น และความมั่นคง แต่ในฤดูร้อนปีนี้นั้น แสงอาทิตย์ช่างแผดกล้าทารุณอย่างมากๆ และชีวิตของเธอก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่ง อย่างไรก็ดี ผู้ชายสี่คนกำลังจะก้าวเข้ามาในชีวิตของแอนนา และทำให้จิตวิญญาณของแอนนาต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะในใจของแอนนาตอนนี้นั้น พายุกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆแล้ว
Anna is a young woman who lives in a large city on a river. She has her own apartment behind the zoo. Day and night she hears the cries of the captured animals. In her heart she is lonely, but not alone. There is her best friend, Nora, who tries to pull Anne out of her lethargy, to get her to join in her own wild life. There is Stefanie, who works with Anne at a bar, and Andrea, the bar owner. There is also Anne’s neighbor, an old, lonely woman, who only lives for her two cats.
In her life, Anne is searching for love, warmth and security. This summer, the sun shines mercilessly, life stagnates, and the city’s pulse slows down. Four men will cross Anne’s path, leaving their tracks on her life, on her soul.
8.LOVE CHILD (2005, JEANNETTE WAGNER)
เรื่องราวแบบ INCEST ระหว่างหญิงสาววัย 17 ปีกับพ่อของตัวเอง
9.ALONE (2004, THOMAS DURCHSCHLAG)
http://www.allein-derfilm.de/
http://www.buchxpress.de/j/5/4041658221535.jpg
http://www.herner-netz.de/Allein-090806/Allein-2.jpg
http://farm1.static.flickr.com/169/411354581_887d48f61b_b.jpg
Maria’s life is marked by her longing for closeness. Her greatest enemy is loneliness, which she tries to combat with numerous one-night stands, drugs and alcohol. One morning, Jan appears in her life, and as the two grow closer, Maria realizes that for the first time ever a close and honest relationship might be possible. She tries to break with her former life but, being afraid of failure, doesn’t know how to do it. She tries hard to hide her past from Jan but by doing so unwittingly heads toward catastrophe.
10.TRUTH OR DARE (2005, JAN MARTIN SCHARF + ARNE NOLTING)
หนังเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่นที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่หาทางปิดบังพ่อแม่ไม่ให้รู้เรื่องนี้เป็นเวลานาน
http://www.variety.com/review/VE1117928522.html?categoryid=31&cs=1&p=0
Quasi-comic study in extended truancy, psychologically situated somewhere between the social rootlessness of "Time Out" and the adolescent escapism of "Ferris Bueller's Day Off," Jan Martin Scharf and Arne Nolting's freshman opus, "Truth or Dare," recounts the predicament of Annika, a girl who can never quite bring herself to tell her parents that she flunked out of school. Sustained by a kick-ass performance by Katharina Schuttler ("Sophiiiie!"), pic succeeds in capturing puberty's wavering uncertainty about the seriousness of any situation hyped by grownups.
http://www.moviereporter.net/fotos/438/WahrheitOderPflicht_01.jpg
http://www.moviereporter.net/fotos/438/WahrheitOderPflicht_02.jpg
http://www.moviereporter.net/fotos/438/WahrheitOderPflicht_03.jpg
http://www.moviereporter.net/fotos/438/WahrheitOderPflicht_04.jpg
http://www.moviereporter.net/fotos/438/WahrheitOderPflicht_05.jpg
11.MY BROTHER THE VAMPIRE (2001, SVEN TADDICKEN, A+)
หนังเกี่ยวกับเด็กสาววัยรุ่นที่พยายามหาทางมีเพศสัมพันธ์ให้ได้
Monday, March 05, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment