อันนี้เป็นความเห็นของดิฉันในบล็อกของคุณสุดค่ะ
http://autonomybeans.exteen.com/20070324/entry?page=1#
ชอบประโยคที่ว่า “พอตัดสินใจได้ ร่างกายก็ขยับ” ค่ะ เพราะมันทำให้นึกถึงปัญหาของตัวเอง เพราะมีอยู่หลายครั้งที่ตัวเองนั่งนิ่งๆอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนหลังดี รู้สึกเหมือนมีเรื่องให้ต้องทำประมาณหนึ่งล้านอย่าง อย่างเช่น อ่านหนังสือ, อ่านนิตยสาร, อ่านข่าว, จัดตู้เสื้อผ้า, ดูวิดีโอ, กวาดห้อง, ซักผ้า, ฟังเพลง แล้วก็จะนั่งคิดว่าตัวเองควรทำอะไรก่อนดี คิดหาเหตุผลข้อดีข้อเสียจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่างๆในหัวตัวเองไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าเวลาผ่านไป 10 นาทีกับการตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำอะไรเป็นลำดับแรกสุด ซึ่งดิฉันพบว่ามันเป็นสิ่งที่เสียสติเป็นอย่างยิ่ง และเป็นการเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เป็นที่สุด
หลังจากค้นพบข้อเสียของตัวเองแล้ว คราวหลังดิฉันก็จะพยายามมีสติมากขึ้นค่ะ พอตัวเองเริ่มตกอยู่ในภวังค์ความคิดว่า “เราควรจะทำอะไรก่อนหลังดี” แล้วตัดสินใจไม่ได้ภายในเวลาประมาณ 1 นาที ดิฉันก็จะรีบออกจากภวังค์แล้วทำงานอะไรก็ได้ที่ตัวเองคิดขึ้นมาในตอนนั้น จะไม่ยอมเสียเวลาไปกับการ “มัวแต่ตัดสินใจเลือกไม่ได้” อีกต่อไป เพราะอย่างน้อยเวลา 10 นาทีที่หมดไปกับการตัดสินใจไม่ได้นี่ ถ้าใช้ไปกับการอ่านนิตยสารก็อ่านไปได้หนึ่งคอลัมน์แล้ว
ความเห็นของคุณ pc ในเว็บบอร์ดไบโอสโคป
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=71.30
ตอบคุณ Madeleine
ได้ดูมิวสิควิดิโอของ KODE9 ที่คุณทำลิงค์ไว้ให้แล้วครับ ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งครับ บรรยากาศของภาพในมิวสิควิดิโอนี้เข้ากับดนตรีในแนว Dubstep ได้ดีทีเดียวครับ เป็นบรรกาศที่ดูแล้วชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในอันตราย เหตุการณ์ที่ชวนช็อคพร้อมจะปรากฏให้เห็นได้ทุกเมื่อ เพราะฉากในช่วงต้นเรื่องมีสิ่งที่บ่งบอกถึงความวิปริตที่จะเกิดขึ้นตามมาแทบทุกฉาก และดนตรีของวงนี้ก็เป็นไปตามที่บรรยายไว้ในบทความเลยครับ แทนที่จะขยายขอบเขตของเสียงในดนตรีแนวนี้ให้กว้างออกไปด้วยการนำเอาองค์ประกอบจากแนวดนตรีอื่นๆเข้ามาผสม วงนี้กลับหันเข้าไปภายในที่แก่นของตัวมันเองในดนตรีแนวนี้ ด้วยการเน้นไปที่โครงสร้างชั้นในสุดที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ ผลก็คือเสียงที่แห้งและเย็นเยียบจนขนลุก
เวลาที่ผมฟังดนตรีพวก Dubstep หรือพวก Grime (ผมยังแยกแนวดนตรีสองแนวนี้ไม่ออกเลยครับ) โทนสีของดนตรีจะออกดำๆ ภาพที่นึกถึงมักจะเป็นเมืองร้างในโลกอนาคตที่ดูวิปริต น่าสะพรึงกลัว จังหวะที่รวดเร็วที่ไม่เน้นท่วงทำนองของดนตรีแนวนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงโลกดิจิตอลที่มืดมนและแห้งแล้ง ถ้าเป็นดนตรีแนว dub เฉยๆ ผมยังรู้สึกถึงท่วงทำนองและบรรยากาศที่เคลิบเคลิ้มล่องลอย แต่ Dubstep นี่ มันแทบจะไม่เหลือบรรยากาศโรแมนติคแบบไซคีเดลลิคหลงเหลือให้ได้ชื่นชมกันบ้างเลยครับ
ผมมักจะฟังเพลงแนวนี้จากรายการของ Mary Anne Hobbs ใน Radio 1 แม้ว่าผมจะรู้สึกว่าดนตรีแนวนี้ฮาร์ดคอร์เกินไป แต่ผมชอบเสียงของเธอครับ เสียงของเธอจะฟังดูสะลึมสะลือเหมือนกับว่าเธอจัดรายการไปพร้อมๆกับเล่นยาไปด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเธอได้เปิดแทร็คของ Shapleton - 'Blood on My Hands' (Villa Lobos remix) ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ เธอบอกว่าตอนนี้ผลงานของ Shapleton ได้รับความนิยมจนเป็นที่เสาะแสวงหาอย่างแพร่หลาย ผมฟังดูแล้วก็ยังเข้าไม่ถึงจริงๆครับ
ผมเคยได้ดูมิวสิควิดิโอเพลงนั้นของ RICK ASTLEY มาเมื่อเกือบจะสิบแปดปีมาได้แล้วล่ะครับ จำได้ว่าสมัยนั้นเวลาฟังเสียงของเขาทีไร ผมมักจะนึกไปถึงนักร้องอเมริกันรุ่นเก่าๆ เพราะเสียงทุ้มใหญ่ของเขาฟังดูเป็นแบบเก่าๆดีครับ
เมื่อหลายปีที่แล้วผมได้ดู ALFIE ต้นฉบับ สมัยที่ Michael Caine ยังเพิ่งจะสามสิบต้นๆ เนื้อเรื่องอาจจะต่างจากเวอร์ชั่นในยุคนี้ไปบ้าง การเดินเรื่องของต้นฉบับจะเรียบกว่า แตฉากเศร้าบางฉากก็เชื่อมต่อกับฉากอื่นๆที่แฝงอารมณ์ขันได้อย่างแนบเนียนครับ ฉากที่ผมชอบที่สุดในเวอร์ชั่นใหม่นี่ จะเป็นฉากที่พระเอกได้ทราบความจริงว่าเมียของเพื่อนที่เพิ่งคลอด ได้ตั้งท้องและให้กำเนิดลูกของเขา ในขณะที่เพื่อนของเขาก็ต้องรับสภาพความจริงว่าแฟนของเขารับปากแต่งงานก็เพราะต้องการให้เด็กที่เกิดมาได้มีพ่อ ที่ชอบที่สุดก็คือฉากที่พระเอกยืนประจันหน้ากับเพื่อนผิวดำของเขาที่ยืนมองเขาเหมือนกับจะร้องไห้ และพระเอกก็ได้บอกกับเพื่อนของเขาไปเสียงอ่อยๆว่า “ฉันไม่ได้ต้องการจะทำร้ายใคร” และเพื่อนของเขาก็ตอบกลับมาว่า “แต่นายก็ได้ทำไปแล้ว” ไม่ทราบเหมือนกันนะครับ มันควรจะเป็นฉากเศร้าหรือฉากตลกร้าย แต่ผมกลับรู้สึกขำกับสถานการณ์ที่พระเอกต้องเผชิญมากเลยครับ ยิ่งนึกไปถึงความรู้สึกผิดที่เขาต้องแบกรับ ที่จะทำให้เขาเป็นนักรักได้ไม่เต็มที่อีกต่อไป พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มไม่ออกของเขา มันก็ตลกได้ประหลาดๆดีครับ
ตอบคุณ pc
--คุณ pc บรรยายถึงเพลงของ KODE9 ได้ดีมากๆเลยค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว ตอนที่ดิฉันดูมิวสิควิดีโอเพลง SAMURAI ของ KODE9 & SPACEAPE ดิฉันก็นึกไปถึงหนังของ STANLEY KUBRICK ค่ะ เพราะมันทำให้นึกถึงโลกอนาคตที่โหดร้ายและเย็นชา
--เห็นด้วยค่ะว่าเสียงของ RICK ASTLEY ทำให้นึกถึงนักร้องรุ่นเก่า โดยเฉพาะตอนที่เขาร้องเพลง WHEN I FALL IN LOVE นี่เหมือนนักร้องเมื่อ 50 ปีก่อนมากๆ
ดูมิวสิควิดีโอ WHEN I FALL IN LOVE ของ RICK ASTLEY ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=SwLL8mBkDxQ
--ชอบพล็อตเรื่องของ ALFIE (2004, CHARLES SHYER, A+/A) ตรงส่วนความสัมพันธ์ของพระเอกกับสาวผิวดำมากๆเหมือนกันค่ะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด บทสาวผิวดำคนนี้แสดงโดย NIA LONG แต่สาเหตุที่ดิฉันชอบเนื้อเรื่องตรงส่วนนี้อาจจะต่างไปจากเหตุผลของคุณ pc เพราะว่าดิฉันชอบเนื้อเรื่องตรงส่วนนี้ เพราะมัน “พาฝัน” ดีสำหรับผู้ชมอย่างดิฉันซึ่งเป็นคนผิวสี ถ้าหากหนังเรื่องนี้ให้พระเอกซึ่งเป็นหนุ่มหล่อมีเพศสัมพันธ์แต่กับสาวสวยผิวขาวอายุน้อย ดิฉันอาจจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้มากเท่านี้ก็ได้ เพราะดิฉันคงไม่สามารถ identify ตัวเองกับสาวสวยผิวขาวอายุน้อยได้ง่ายนัก แต่การที่พระเอกหนังเรื่องนี้มีเพศสัมพันธ์กับสาวผิวสีและสาวแก่ มันเหมือนกับเป็นการตอบสนองจินตนาการของผู้ชมอย่างดิฉันได้ดีมากๆ และทำให้ความสุขที่ได้รับจากการดูหนังเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น ฮ่าๆๆๆๆ
http://xq28.net/s/viewtopic.php?p=212801#212801
--สำหรับหนังสือ ดนตรี คีตา เวหา อิเล็กทรอนิกส์ ของคุณนรเศรษฐ หมัดคง นั้น ดิฉันคิดว่าเป็นการรวบรวมสิ่งที่เขาเคยเขียนไว้ในมติชนสุดสัปดาห์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่ะ อ่านรายละเอียดเกียวกับหนังสือเล่มนี้ได้ที่นี่
http://www.onopenbooks.com/product.detail.php?lang=th&id=917406
--เห็นคุณ pc พูดถึงการแยกแนวดนตรีในอังกฤษไม่ค่อยออก พอดีดิฉันได้ไปเปิดดูนิตยสาร GENERATION TERRORIST เล่มเก่าๆ ก็เจอบทความที่น่าสนใจในเล่ม 9 ค่ะ บทความนี้เป็นของคุณอาทิตย์ พรหมประสิทธิ์ (หรือที่ดิฉันชอบเรียกว่า คุณสนธยา ทรัพย์เย็น แห่งวงการเพลง) ที่พูดถึงแนวเพลงต่างๆในอังกฤษในปี 1995 ที่อาจจะเกี่ยวพันกับแนวเพลงหลายๆแนวในอดีต
เราลองย้อนกลับไปรำลึกความหลังกันดีกว่าว่า แนวเพลงในอังกฤษเมื่อ 12 ปีก่อนหน้านี้มีแนวอะไรกันบ้าง และอาจจะมีพื้นฐานมาจากแนวเพลงแนวใด รวมทั้งศิลปินในแต่ละแนวมีใครกันบ้าง
(ข้อมูลข้างล่างนี้คัดลอกมาจากบทความที่ระบุไว้ข้างต้น)
1.DISCO
2.NORTHERN SOUL (ต่อยอดมาจากดนตรีของ MOTOWN)
2.1 BEGGAR & CO
MV (SOMEBODY) HELP ME OUT
http://www.youtube.com/watch?v=CMcqmn6kOgI
2.2 FREEEZ
MV SOUTHERN FREEEZ
http://www.youtube.com/watch?v=1BnIAKArwBk
3.DUB
3.1 KING TUBBY
http://www.youtube.com/watch?v=xRSw6rKn9Fk
4.EURO OR TEUTONIC
4.1 KRAFTWERK
5.OLD SCHOOL RAP
5.1 KOOL HERC
http://www.youtube.com/watch?v=u0iddb0BcnE
5.2 GRANDMASTER FLASH
MV THE MESSAGE
http://www.youtube.com/watch?v=F6e9G-ump3Y
6.HI-NRG (ต่อยอดมาจากดนตรีดิสโก้)
6.1 MIGUEL BROWN
MV SO MANY MEN SO LITTLE TIME
http://www.youtube.com/watch?v=t3LNWpsscAY
6.2 WATERFRONT HOME
TAKE A CHANCE (ON ME) (HOT TRACKS REMIX) (1983)
http://www.youtube.com/watch?v=G-FqArg5IrA
6.3 ALPHONSE MOUZON
MIND TRANSPLANT (with Tommy Bolin)
http://www.youtube.com/watch?v=KRj02qk1K0o
7.NEW ROMANTIC
8.ALTERNATIVE GROOVE (PUNK + DANCE)
8.1 NEW ORDER
8.2 CABARET VOLTAIRE
MV SENSORIA (1984)
http://www.youtube.com/watch?v=pBEj7T7WYM8
8.3 THE POP GROUP
MV SHE’S BEYOND GOOD AND EVIL
http://www.youtube.com/watch?v=GpTng0zgjS4
8.4 23 SKIDOO
MV KUNDALINI (1982)
http://www.youtube.com/watch?v=GpTng0zgjS4
9. ELECTRO
9.1 AFRIKA BAMBAATAA
9.2 ARTHUR BAKER
9.3 MAN PARRISH
MV MALE STRIPPER BY MAN 2 MAN FEATURING MAN PARRISH
http://www.youtube.com/watch?v=OT_kV4z-9xM
9.4 GEORGE KRANZ
MV DIN DAA DAA
http://www.youtube.com/watch?v=9h3q8mQoZKk
เพลง DIN DAA DAA นี้เคยได้รับการนำมาทำใหม่ในทศวรรษ 1990 โดย KEVIN AVIANCE นักร้องเกย์แถวหน้าของสหรัฐ และก็ทำออกมาได้เริ่ดสะแมนแตนมากๆ
9.5 MANTRONIX
http://www.youtube.com/watch?v=wk2Arb_Z-8M
10. LATIN HIP HOP
10.1 MADONNA
11. HOUSE
11.1 FRANKIE KNUCKLES
11.2 MR.FINGERS (LARRY HEARD)
http://www.youtube.com/watch?v=ueOAgmJmbnA
11.3 KRUSH
HOUSE ARREST (BUG ON OUT)
http://www.youtube.com/watch?v=dpAXV38yiTU
12.GO-GO
12.1 TROUBLE FUNK
MV MISTER MAGIC (1988)
http://www.youtube.com/watch?v=ZdzR3YRN_mQ
13. RARE GROOVE (ต่อยอดมาจาก JAMES BROWN และวิวัฒนาการต่อไปจนกลายเป็น ACID HOUSE + ACID JAZZ)
13.1 NORMAN JAY
http://www.youtube.com/watch?v=rB0k4ciWmHo
13.2 BRAND NEW HEAVIES
13.3 BARRIE SHARPE & DIANA BROWN
14.BHANGRA
14.1 ALAAP
http://www.youtube.com/watch?v=a4BrF0F8Zbc
15.MIXED BEAT
15.1 S-EXPRESS
MV THEME FROM S-EXPRESS
http://www.youtube.com/watch?v=yZCDxv627Ww
15.2 BOMB THE BASS
MV BEAT DIS
http://www.youtube.com/watch?v=TQf32OG_ASQ
15.3 COLDCUT FEATURING YAZZ
MV DOCTORIN’ THE HOUSE
http://www.youtube.com/watch?v=nGYplxhNf4Q
16.NEW GENERATION RAP
16.1 PUBLIC ENEMY
16.2 DE LA SOUL
16.3 ICE T
16.4 N.W.A.
16.5 ICE CUBE
17.G-FUNK
17.1 WARREN G
17.2 SNOOP DOGGY DOGG
17.3 DR. BRAT
17.4 COOLIO
18. ACID HOUSE
18.1 MARSHALL JEFFERSON
http://www.youtube.com/watch?v=UEfkVgbXOzY
19.GARAGE (ต่อยอดมาจาก ACID HOUSE)
20.TECHNO
20.1 INNER CITY
MV GOOD LIFE หนึ่งในเพลงที่ชอบที่สุดในชีวิต
http://www.youtube.com/watch?v=wVuCKdRWTWs
20.2 DERRICK MAY
http://www.youtube.com/watch?v=MdbZMSLhfHM
21.EURO DISCO
21.1 GIORGIO MORODER
MV FROM HERE TO ETERNITY
http://www.youtube.com/watch?v=0OU7Hka_--U
22.ACID JAZZ
22.1 GILLES PETERSON
http://www.youtube.com/watch?v=WGRcVOUc53g
22.2 JTQ (JAMES TAYLOR QUARTET)
MV J.T.Q. THEME
http://www.youtube.com/watch?v=4hwvfIFgSb8
22.3 JAMIROQUAI
22.4 BRAND NEW HEAVIES
22.5 INCOGNITO
23.ELECTRONIC BODY MUSIC
23.1 FRONT 242
MV QUITE UNUSUAL
http://www.youtube.com/watch?v=urd8tG0xvoM
23.2 FRONT LINE ASSEMBLY
MV MINDPHASER (the mv comes from the Japanese movie “GUNHED” (1989, MASATO HARADA)
http://www.youtube.com/watch?v=u8W6ID8jk4A
23.3 JADE 4 U
MV INJECTED WITH A POISON BY PRAGA KHAN FEATURING JADE 4 U
http://www.youtube.com/watch?v=bTZg5jcgMdE
23.4 MEAT BEAT MANIFESTO
MV HELTER SKELTER ‘97
http://www.youtube.com/watch?v=woCX7s_cTl4
24. SWING BEAT/NEW JACK
24.1 TONY TONI TONE!
MV THE BLUES
http://www.youtube.com/watch?v=PCTT_F3Ji8M
24.2 SWV
25.HIP HOUSE (RAP + HOUSE)
25.1 THE BEATMASTERS
MV LIP SERVICE (1985)
http://www.youtube.com/watch?v=si0wR2FnS2s
26. ITALIAN HOUSE
26.1 BLACKBOX
26.2 STARLIGHT
27. RAGGA
28.INTELLIGENT TECHNO
28.1 SPRING HEEL JACK
29.BAGGY
29.1 THE STONE ROSES
29.2 HAPPY MONDAYS
29.3 SOUP DRAGONS
30.RAVE
30.1 KLF
31. HARDCORE
31.1 PRODIGY
32. GABBA (DUTCH HARDCORE)
http://www.youtube.com/watch?v=aYxQacYmhoc
33.TRIBAL TECHNO (HIPPIE + TECHNO)
33.1 EAT STATIC
http://www.youtube.com/watch?v=e5YVNxGHicU
33.2 SPIRAL TRIBE
http://www.youtube.com/watch?v=4rbde8Kkfek
34.PROGRESSIVE HOUSE
34.1 FUTURE SOUND OF LONDON
34.2 UNDERWORLD
34.3 LEFTFIELD
34.4 ORBITAL
35. TRANCE
35.1 PETE NAMLOOK
MV A MILLION MILES TO EARTH (1994)
http://www.youtube.com/watch?v=KQ5giP3nH4c
35.2 BIOSPHERE
http://www.youtube.com/watch?v=uxr5CorWQvI
35.3 APHEX TWIN
36.JUNGLE (HARDCORE + RAGGA)
36.1 BABY D
36.2 OMNI TRIO
MV THRU THE VIBE (JESTA MIX)
http://www.youtube.com/watch?v=ZY9fylJW6ec
36.3 FOUL PLAY
37.GLOBAL GROOVE
37.1 TRANSGLOBAL UNDERGROUND
MV TAL ZAMAAN BY TRANSGLOBAL UNDERGROUND + NATACHA ATLAS
http://www.youtube.com/watch?v=X11dnQ8F3F0
37.2 LOOP GURU
37.3 ULTRAMARINE
38.AMBIENT
38.1 GLOBAL COMMUNICATION
38.2 AUTECHRE
MV SECOND BAD VIBEL (DIRECTED BY CHRIS CUNNINGHAM)
http://www.youtube.com/watch?v=X11dnQ8F3F0
บล็อกของคุณอาทิตย์ พรหมประสิทธิ์
http://www.myspace.com/noisysonny
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=95.0
ตอบคุณคนมองหนัง
--ดีใจมากๆค่ะที่คุณคนมองหนังชอบตัวละครเชอรี่ แบลร์ใน THE QUEEN
--พูดถึงละครโทรทัศน์ที่ถูกเซ็นเซอร์แล้ว ก็นึกถึง
1.เลือดขัตติยา ที่สร้างจากบทประพันธ์ของทมยันตี เมื่อราวช่วงต้นทศวรรษ 1980 ช่อง 3 เคยลงทุนสร้างละครเรื่องนี้ และมีการโปรโมทกันอย่างมาก มีดาราดังๆมาร่วมเล่น แต่ในที่สุดก็ถูกสั่งห้ามฉาย โดยมีข่าวลือว่าเพราะเนื้อหาคล้ายกับชีวิตจริงของใครบางคน
จำได้ว่าทมยันตีเคยให้สัมภาษณ์ว่า “กบว.” ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมโทรทัศน์ในตอนนั้นย่อมาจากคำว่า “กระบวยวัด”
2.หมาๆแมวๆ (A+)
สร้างจากบทประพันธ์ของบรรจบ พันธุเมธา และเป็นละครที่น่ารักสุดๆ ฉายทางช่อง 3 แต่พอออกอากาศไปได้ไม่กี่ตอน ก็ถูกสั่งห้ามฉาย เพราะใครบางคนไม่พอใจที่เห็นคนมาแสดงเป็นหมาๆแมวๆ
3.ศึกลำน้ำเลือด (A+)
ละครฮ่องกง ฉายทางช่อง 3 แต่ฉายไม่ครบทุกตอน หายไปหลายตอน โดยเฉพาะในช่วงที่องค์ชายที่แสดงโดย “อู๋ฉี่หัว” กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นฮ่องเต้
4.ละครฮ่องกงจำชื่อเรื่องไม่ได้ รู้สึกจะชื่อเรื่องประมาณ “เลือดรักเลือดแผ่นดิน” หรืออะไรทำนองนี้ เป็นละครที่ดังมากในเมืองนอก รู้สึกว่าจะยาวประมาณ 300 ตอน และเล่าถึงประวัติศาสตร์จีนในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ละครเรื่องนี้เคยมีข่าวว่าจะนำมาฉายทางช่อง 3 แต่พอถึงเวลาก็ถูกสั่งห้ามฉาย โดยมีข่าวลือว่าเป็นเพราะละครเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิวัติในจีน
ดิฉันจำชื่อดารานำในละครเรื่องนี้ไม่ได้ จำได้แต่ว่าเธอเคยเล่นเป็น “อีเบลซ่า” ซึ่งเป็นลูกสมุนคนสำคัญของ “เจ้าหญิงอนัตตา” ใน “กระบี่ไร้เทียมทาน”
--พูดถึงการเซ็นเซอร์แล้ว ก็ทำให้นึกถึงหนังสั้นของไทยเรื่อง “คงกระพันชาติไทย” (1998, สุรชัย พัฒนากิจไพบูลย์, A) ที่พูดถึงการเซ็นเซอร์ในหนังไทยด้วย
--พูดถึงการเซ็นเซอร์แล้ว ก็ทำให้นึกถึงหนังเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น
1.FRIENDLY PERSUASION: IRANIAN CINEMA AFTER THE 1979 REVOLUTION (2000, JAMSHEED AKRAMI, A-)
หนังสารคดีเรื่องนี้พูดถึงกฎข้อห้ามมากมายในหนังอิหร่าน
http://www.imdb.com/title/tt0261699/
2.UNFINISHED SONG (2001, MAZIAR MIRI, A+)
หนังที่พูดถึงกฎข้อห้ามในอิหร่านที่ห้ามผู้หญิงร้องเพลง
http://www.imdb.com/title/tt0277975/
3.IRAN IS MY HOMELAND (1999, PARVIZ KIMIAVI)
http://movies2.nytimes.com/gst/movies/movie.html?v_id=177579
โซห์ราบ (BEHZAD KHODAVEYSI) กำลังศึกษาผลงานของกวีชาวเปอร์เชียยุคคลาสสิก 5 คนเพราะเขากำลังจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับกวีเหล่านี้ แต่เขาก็พบกับปัญหาอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากมีการเซ็นเซอร์วรรณกรรมในอิหร่าน อย่างไรก็ดี อยู่ดีๆวันหนึ่งกวีที่ตายไปนานแล้ว 5 คนนี้ก็กลับมาปรากฏตัวในรูปของมนุษย์อีกครั้ง และกวีเหล่านี้ก็ท่องโคลงกลอนของตัวเองออกมา ในขณะที่ทางการพยายามจะตัดสินว่าการตีความบทกลอนของพวกเขาในแบบใดจึงจะถูกต้องที่สุด
IRAN IS MY HOMELAND เป็นหนังเสียดสีการเมืองในอิหร่านที่ยกย่องเชิดชูมรดกทางวรรณคดีของประเทศไปด้วยในเวลาเดียวกัน
อันนี้เป็นรูปจากหนังเรื่อง OH GUARDIAN OF DEERS (1970) ของ PARVIZ KIMIAVI
http://home.tele2.ch/richterfilm/gazellen3.jpg
http://home.tele2.ch/richterfilm/gazellen2.jpg
http://home.tele2.ch/richterfilm/gazellen1.jpg
ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้
http://home.tele2.ch/richterfilm/gazellen.html
A masterpiece of the history of documentary cinema. The film which was shelved for many years focuses on men and women visiting the shrine of Imam Reza, the eighth Shiite Imam, in the city of Mashad in the North East of Iran.
--พูดถึงเรื่องการฆ่าๆแกงๆกันสมัยอยุธยาแล้ว ดิฉันก็มักจะนึกถึงคอลัมน์เรื่องราวในอดีตในนิตยสาร “ดิฉัน” เมื่อราว 20 ปีก่อนค่ะ ช่วงนั้นดิฉันไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์อยุธยาหรือประวัติศาสตร์ไทยแต่อย่างใด แต่เคยมองผ่านๆตาคอลัมน์นี้ ก็มักจะรู้สึกว่าชีวิตในสมัยนั้นมันไม่มีเสถียรภาพเอาเสียเลย พอเปลี่ยนกษัตริย์ที ก็ฆ่าขุนนางของกษัตริย์องค์ก่อนๆกันใหญ่ และอีกจุดที่ดิฉันรู้สึกรุนแรงมากตอนเด็กๆก็คือกฎหมายในอดีตมันเต็มไปด้วยความอยุติธรรมอย่างรุนแรง คนบริสุทธิ์สามารถถูกสั่งประหารชีวิตได้อย่างง่ายๆโดยถูกต้องตามกฎหมายทั้งๆที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
ตัวอย่างกฎหมายที่อยุติธรรมในอดีต อันนี้ได้มาจาก WIKIPEDIA เกี่ยวกับ สาเหตุที่ทำให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์เสด็จทิวงคต ซึ่งดิฉันไม่รู้ว่าข้อมูลในนี้จริงหรือเปล่า
“ในขณะนั้นบริเวณที่เกิดเหตุมีพวกมอญกำลังขุดทรายอยู่ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะกฎมณเฑียรบาลได้ห้ามให้ผู้ใดแตะต้องพระวรกายของพระมเหสี มิฉะนั้นจะถูกประหารทั้งตระกูล”
--แต่ที่รู้สึกนี้ไม่ได้รู้สึกแต่กับประเทศไทยในอดีตเท่านั้น แต่รู้สึกว่าการแย่งชิงอำนาจในอดีตทั่วโลกเป็นสิ่งที่โหดร้ายมาก ทั้งในอังกฤษ (ELIZABETH), ฝรั่งเศส (QUEEN MARGOT ที่นำแสดงโดยอิซาเบล อัดจานี), รัสเซีย (PETER THE GREAT มินิซีรีส์ปี 1986)
--หนังที่ปลุกเร้าอารมณ์ดิฉันได้อย่างรุนแรงที่สุดเรื่องนึงเกี่ยวกับกฎหมายในอดีต ก็คงจะเป็นเรื่อง “อำแดงเหมือนกับนายริด” (MUEN & RID) (1994, CHERD SONGSRI, A+/A) ที่แสดงให้เห็นถึงความอยุติธรรมของกฎหมาย
http://www.fivestarent.com/movies/movies.asp?MoviesID=186
--ส่วนละครโทรทัศน์แนวรบพุ่งในอดีตที่อยากดูซ้ำนั้น ดิฉันมักจะนึกถึง “ขุนศึก” ที่นำแสดงโดยโกวิท วัฒนกุล กับนิภาพร นงนุชค่ะ เพราะตอนเด็กๆดิฉันเหมือนจะจำฝังใจว่า โกวิท วัฒนกุลหล่อดีใน “ขุนศึก” แต่พอโตขึ้นก็นึกไม่ออกแล้วว่าตอนที่เขาหล่อนั้น เขาหน้าตาเป็นอย่างไร ก็เลยทำให้อยากหาละครเรื่องนี้มาดูซ้ำอีกครั้งว่าเขาหล่อจริงหรือเปล่า หรือความทรงจำของตัวเองในวัยเด็กได้บิดเบือนไปตามกาลเวลา ฮ่าๆๆๆๆ
--พูดถึงเรื่องอาณานิคมแล้ว ก็ทำให้รู้สึกว่ามีจุดนึงที่น่าสนใจในหนังเรื่อง “พระเด็กเสือไก่วอก” THE MAGNIFICENT FIVE (2006, BHANDIT RITTAKOL, A) เพราะถ้าจำไม่ผิด ในหนังที่ค่อนข้างเป็นแฟนตาซีเรื่องนี้ มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการค้าทาสในยุคอาณานิคมด้วย โดยเป็นการจับคนไทยไปขายเป็นทาสให้เรือฝรั่งต่างชาติผ่านทางพม่า
พอดูหนังเรื่องนี้ก็เลยทำให้สะกิดใจว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นจริงในอดีตหรือเปล่า เพราะปกติแล้วดิฉันมักได้ดูแต่หนัง/ละครทีวีย้อนยุค ที่มีเรื่องของเจ้านาย-ทาส ที่เป็นคนไทยด้วยกันเองในประเทศไทย แต่เหมือนไม่เคยได้ยินเรื่องของทาสคนไทยที่ถูกส่งไปทำงานในต่างประเทศมาก่อน
รู้สึกว่าคนไทยในอดีตอาจจะมีข้อดีตรงจุดนี้ ตรงที่ไม่ต้องประสบชะตากรรมเหมือนอย่างคนในแอฟริกากับอเมริกาใต้ ที่ถูกเจ้าอาณานิคมจับไปเป็นทาสอย่างทารุณโหดร้ายมากๆ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ดิฉันก็ได้รับทราบผ่านทางภาพยนตร์นี่แหละ
หนังเกี่ยวกับค้าทาสในอเมริกาใต้ที่โหดร้ายมากๆ สำหรับดิฉันก็คงจะเป็นเรื่อง THE MISSION (1986, ROLAND JOFFE, A+), หนังเกี่ยวกับการค้าทาสในแอฟริกาที่โหดร้ายมากๆสำหรับดิฉันคือเรื่อง COBRA VERDE (1987, WERNER HERZOG, A) ส่วนเรื่องราวเกี่ยวกับทาสในอเมริกาที่น่าสนใจที่สุดเรื่องนึง คงจะเป็นมินิซีรีส์เรื่อง ROOTS (1977) ที่เคยมาฉายทางช่อง 3 น่าเสียดายที่ดิฉันแทบจำอะไรในมินิซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้แล้ว
A saga of African-American life, based on Alex Haley's family history. Kunta Kinte is abducted from his African village, sold into slavery, and taken to America. He makes several escape attempts until he is finally caught and maimed. He marries Bell, his plantation's cook, and they have a daughter, Kizzy, who is eventually sold away from them. Kizzy has a son by her new master, and the boy grows up to become Chicken George, a legendary cock fighter who leads his family into freedom. Throughout the series, the family observes notable events in U.S. history, such as the Revolutionary and Civil Wars, slave uprisings, and emancipation.
http://ec2.images-amazon.com/images/P/B000NA21S6.01._SS500_SCLZZZZZZZ_V42192569_.jpg
--ส่วนละครเรื่อง "นางทาส" กับ "ลูกทาส" นั้น ดิฉันงงๆ เล็กน้อยค่ะว่าละครเรื่องไหนเป็นเรื่องไหน รู้สึกว่าตัวเองจะเคยดูแค่ "ลูกทาส" เวอร์ชันที่หม่อมน้อยกำกับ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment