TING ติ่ง (2014, Kwin Bhichitkul, stage play,
A+10)
ชอบช่วงแรกๆของเรื่องมากเลยนะ คือมันเหมือนเป็นการผจญภัยเจออะไรเหี้ยๆห่าๆไปเรื่อยๆน่ะ
ซึ่งมันสนุกมากๆสำหรับเรา และมันดูเหมือนเป็นอะไรที่ไร้ขอบเขตดีด้วย
คือช่วงแรกๆของเรื่องนี้ เราดูแล้วจะนึกถึงความสนุกตอนอ่าน GULLIVER’S TRAVELS (1726, Jonathan
Swift) หรือตอนดูหนังอย่าง FANDO AND LIS (1968, Alejandro
Jodorowsky, A+30) น่ะ
คือมันเป็นการเดินทางไปในโลกที่เซอร์เรียลสุดๆ เจอแต่อะไรที่เฮี้ยนๆ
บ้าบอคอแตกไปเรื่อยๆ
แต่พอเข้าช่วงครึ่งหลังของเรื่อง ตั้งแต่เข้าหมู่บ้านใหม่เป็นต้นไป
เราก็รู้สึกว่าละครมันพยายามจะสะท้อนประเด็นอะไรบางอย่างออกมา
ซึ่งเราอาจจะไม่เห็นด้วยกับประเด็นนั้นสักเท่าไหร่
เราก็เลยรู้สึกว่าความสนุกมันหายไปเยอะมากสำหรับเรา คือความรู้สึกที่ “ไร้ขอบเขต”
ในช่วงครึ่งแรกของเรื่องมันหายไปเลย มันกลายเป็นการเดินทางออกจาก “ดินแดนที่เซอร์เรียลสุดๆ”
ในช่วงครึ่งแรกของเรื่อง เข้าสู่ “ดินแดนแห่งประเด็น หรือคติสอนใจ” แทน
จินตนาการของเราที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งแรกของเรื่องก็เลยหายไป
ชอบการใช้อุปกรณ์ของละครเรื่องนี้มากๆ ละครเรื่องนี้ใช้อุปกรณ์ได้อย่างสร้างสรรค์และคุ้มค่ามากๆ
คุณอรอนงค์ มีกุลที่เล่นเป็น “อุปสรรค” ในเรื่องนี้ เห็นแล้วนึกถึงพวกนักแสดงในหนังคัลท์ของญี่ปุ่นน่ะ
คือหนังคัลท์ของญี่ปุ่นหลายๆเรื่องมันจะมีตัวละครที่ทำหน้าตายแบบนี้ 555
No comments:
Post a Comment