Wednesday, April 29, 2020

(.........) (2012, Teeranit Siangsanoh, 35min)


FIVE FAVORITE FILMS

ล็อตนี้จะพยายามเลือกหนังที่แทบที่ไม่มีมนุษย์ปรากฏตัวอยู่ในหนัง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง HOUSEFILM (1975, Klaus Wyborny, West Germany) ที่เราเพิ่งได้ดูทาง VIMEO

DAY 2 

(.........) (2012, Teeranit Siangsanoh, 35min)

หนังที่จับจ้องมองพระจันทร์เป็นเวลา 35 นาที

Tuesday, April 28, 2020

30 (2010, Tossapol Boonsinsuk)


ได้รับแท็ก #FivePerfectMovies จากคุณ Jumpol

เนื่องจากเราไม่เคยคิดว่าหนังเรื่องไหนไร้ที่ติ หรือสมบูรณ์แบบ เราก็เลยไม่เล่นเกมนี้แล้วกัน 55555 แต่ก็ถือโอกาสนี้โพสรูปจากหนังที่เราชื่นชอบสุดๆแทน โดยล็อตนี้จะพยายามเลือกหนังที่แทบที่ไม่มีมนุษย์ปรากฏตัวอยู่ในหนัง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง HOUSEFILM (1975, Klaus Wyborny, West Germany) ที่เราเพิ่งได้ดูทาง VIMEO

FIVE FAVORITE FILMS

DAY 1

30 (2010, Tossapol Boonsinsuk)

หนังทั้งเรื่องเล่าเรื่องผ่านทาง voiceover ในขณะที่ภาพที่เราได้เห็นในหนังจะเป็นจุดต่างๆเคลื่อนไปเคลื่อนมา โดยจุดเหล่านี้จะคล้ายๆเป็นภาพแทนของตัวละครแต่ละตัว เราชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆตรงที่มันสามารถเล่าเรื่องแบบหนัง narrative ทั่วไปได้ โดยผ่านทางภาพ “จุด” ต่างๆนี่แหละ และสามารถสร้างอารมณ์สะเทือนใจอย่างรุนแรงผ่านทาง “จุด” เหล่านี้ได้ด้วย โดยไม่ต้องพึ่งพานักแสดงอะไรแต่อย่างใด

Monday, April 27, 2020

2084 (1982, Klaus Wyborny, West Germany, 70min, A+30)



HOUSEFILM (1975, Klaus Wyborny, West Germany, 27min, A+30)

หนังทั้งเรื่องไม่มีเนื้อเรื่องและคำบรรยาย มีแต่การถ่ายภาพบ้านและอาคารต่างๆไปเรื่อยๆ และมีการตัดสลับภาพท้องถนนใส่เข้ามาบ้างเป็นระยะๆ  จุดเด่นคือการเหวี่ยงกล้องไปมาตลอดเวลา และการตัดต่อภาพอย่างรุนแรงเพื่อให้เข้ากับดนตรีประกอบ

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่

2084 (1982, Klaus Wyborny, West Germany, 70min, A+30)

1.ชอบสุดๆที่ได้ดูหนังที่ push the limit of my cinematic experience ออกไปแบบนี้ 55555 คือเราเคยนึกว่าหนังเรื่อง SOLOS (2014, Teeranit Siangsanoh, 79min) นี่ถือเป็นหนังไซไฟที่ minimal ที่สุดเท่าที่เราเคยดูมาแล้ว แต่ถ้า SOLOS มาเจอกับหนังเรื่องนี้ SOLOS ก็กลายเป็นหนัง “ดูง่าย สบายใจเฉิบ” ไปเลย

2. 2084 เป็นหนังที่เหมาะกับการดูในช่วงนี้มาก เพราะ 2084 เล่าเรื่องของโลกอนาคต ที่ผู้ชายแต่ละคนถูกจับไปขังเดี่ยว และพระเอกก็ถูกจับขังมานาน 20 ปีแล้ว เขาต้องอยู่ในห้องตลอดเวลามานาน 20 ปี และราว 80% ของหนังก็เป็นการที่กล้องจับไปที่ใบหน้าของพระเอก แล้วพระเอกก็พูดพึมพัมอย่างช้าๆไปเรื่อยๆ ส่วนอีก 20% ของหนังเป็นการที่กล้องจับภาพกิ่งไม้ไหวนอกหน้าต่างห้องของพระเอก

ดูแล้วนึกว่าหนังยาวเรื่องนี้ใช้ทุนสร้าง 30 บาท

3.ดูแล้วนึกถึงหนังประเภทที่เราขอเรียกว่า extreme minimalism และหนังประเภท “ไม่แคร์คนดูอย่างรุนแรง” อย่างเช่น RUHR (2009, James Benning), CONCRETE ROOTS รากพราย (2018, Achitaphon Piansukprasert, 90min), VINYL (1965, Andy Warhol), FILMORE (2011, Rouzbeh Rashidi, Ireland) อะไรทำนองนี้

เราว่า 2084 ดูยากกว่า RUHR นะ เพราะ RUHR มันยังสะกดจิตเราด้วยภาพของมันได้น่ะ แต่ 2084 นี่ “ภาพ” ในหนังไม่มีพลังดึงดูดเลย นึกว่าดูคนบ้าขณะสลึมสลือ live facebook ไปเรื่อยๆเป็นเวลา 70 นาที 55555

แต่ก็ชอบที่มีคนทำหนังแบบนี้ออกมานะ มันทำให้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆในการสร้างภาพยนตร์จริงๆ คือเอาจริงๆแล้วเราว่าถ้าหากเขาจะทำให้หนังมัน “บันเทิง” มันก็ทำได้ง่ายมาก คือแค่คิดบท monologueมาดีๆเกี่ยวกับโลกอนาคต แล้วก็ให้ตัวละครพูดต่อหน้ากล้องไปเรื่อยๆ 70 นาที เราก็อาจจะได้หนังไซไฟที่สนุกและมีสาระแล้ว โดยลงทุนเพียงแค่ 30 บาท เพียงแต่ Klaus Wyborny คงไม่ได้ต้องการจะสร้างหนังแบบนั้น อย่างไรก็ดี หนังที่เขาสร้างออกมา มันก็มีไอเดียที่น่าสนใจ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหนังเรื่องอื่นๆได้

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่


Sunday, April 26, 2020

BARTLEBY (1976, Klaus Wyborny, West Germany, 44min, A+30)


BARTLEBY (1976, Klaus Wyborny, West Germany, 44min, A+30)

ดูจบแล้วก็กราบตีนทั้ง Hermann Melville และ Klaus Wyborny ไม่รู้ Melville คิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไงในปี 1853 คือเวลาผ่านมาเกือบ 200 ปีแล้ว เรายังรู้สึกว่าตัวละคร Bartleby นี่คลาสสิกมากๆ สุดตีนมากๆ

หนังเล่าเรื่องของทนายความคนหนึ่งในแมนฮัตตันที่จ้างเสมียนหนุ่มคนใหม่มาทำงาน เสมียนคนนื้ชื่อ Bartleby ซึ่งตอนแรกก็ตั้งใจทำงานหนักมาก แต่อยู่ดีๆเขาก็หยุดทำงาน และไม่ทำอะไรนอกจากยืนจ้องกำแพงไปเรื่อยๆ

หนังทำออกมาได้หลอนมากๆ ชอบมากๆที่หลายๆฉากในหนังเป็นการให้กล้องถ่ายกำแพงไปเรื่อยๆ

ตอนช่วงแรกๆนึกว่าหนังจะเป็นแนว Kafka แต่ปรากฏว่าไม่ใช่เลย เพราะเหมือนมันไม่ได้วิพากษ์ระบบอะไร แต่พาเราไปเผชิญกับความยากแท้หยั่งถึงของจิตวิญญาณมนุษย์ และพอเราดูหนังจนจบแล้ว เราก็ตอบไม่ได้แม้แต่นิดเดียวว่าหนังเรื่องนี้ต้องการจะ “สั่งสอน” คนดูว่าอะไร แต่มันทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจอย่างรุนแรงมากๆกับโลกมนุษย์

คือถ้าจะมีตัวละครตัวไหนสามารถปะทะกับพระเอกของ THE DEVIL, PROBABLY (1977, Robert Bresson) ได้ ตัวละครตัวนั้นก็คือ Bartleby นี่แหละ

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนโปรแกรม


Saturday, April 25, 2020

MY LIFE 30 YEARS AGO


บันทึกความทรงจำเมื่อ 30 ปีก่อน

รายงาน “อันดับเพลงเมื่อ 30 ปีก่อน” ของเรา จะกลับมาอีกทีในเดือนมิ.ย. 2020 นะ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะว่า ในช่วงปี 1990 นั้น เราไม่ได้ทำอันดับเพลงในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. และเรากลับมาทำอันดับเพลงอีกทีในเดือนมิ.ย.และก.ค. 1990

หลังจากเดือนก.ค. 1990 เราก็เหมือนไม่ได้ทำอันดับเพลงประจำสัปดาห์อีกระยะนึง เหมือนเรากลับมาทำอันดับเพลงอีกทีในเดือนก.ย. 1990 แต่ปรากฏว่าเราทำอันดับหาย เราหาอันดับที่เคยทำไว้ในเดือนก.ย.-ต้นธ.ค. 1990 ไม่เจอเลย มาเจออีกทีก็เป็นอันดับประจำสัปดาห์ 16 ธ.ค. 1990 แล้ว และหลังจากนั้นเราก็ทำอันดับเพลงอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์จนถึงกลางปี 1994

สาเหตุที่เราไม่ได้ทำอันดับเพลงในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 1990 เป็นเพราะว่า ช่วงนั้นเป็นช่วงสอบเอ็นทรานซ์ของเรา เราเรียนจบม.5 แล้ว และสอบเทียบมอหกได้ เราก็เลยต้องท่องหนังสือสอบในช่วงต้นเดือนเม.ย. หีแตกมากๆ จำได้ว่าสิ่งที่หนักที่สุดในชีวิตคือการสอบคณิตศาสตร์ตอนเอ็นทรานซ์ เหมือนข้อสอบมี 100 ข้อ แต่กูทำไปได้แค่ 30 ข้อก็หมดเวลาแล้ว อีก 70 ข้อกูกามั่วหมด หนักมากๆ แล้วพอสอบเสร็จก็ได้ยินเพื่อนคนนึงบอกว่าสอบเลขสนุกสุดๆ (คนนี้เอ็นท์ติดสถาปัตย์) ส่วนอีกคนบอกว่าสอบเลขง่ายมากๆ (คนนี้เอ็นท์ติดแพทย์)  เราก็เลยอิจฉาพวกเขามาก ๆ หลังจากนั้นเราก็เอ็นท์ติดคณะบัญชี ต้องวุ่นวายกับการเตรียมตัวเข้ามหาลัย เราก็เลยไม่ได้ทำอันดับเพลงเลยในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. 1990

แล้วพอเราเริ่มเข้าไปเรียนในคณะบัญชี  (เราเลือก บัญชี-บัญชี) เราก็มีปัญหากับการซ้อมเชียร์ เราไม่ชอบอะไรแบบนี้ เราก็เลยไปซ้อมเชียร์แค่ 3 วันแรก แล้วก็ไม่ไปซ้อมเชียร์อีกเลย เราก็เลยไม่ได้เข้ากลุ่มที่เขาจัดไว้ให้ ไม่มีเพื่อนในคณะ (ยกเว้นเพื่อนผู้ชายคนนึง ชื่อ ปืน) เราปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในมหาลัยไม่ได้ เหมือนเจอมรสุมชีวิต เราเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาค ทำข้อสอบที่มีคะแนนเต็ม 25 คะแนน ปรากฏว่าเราได้แค่ 2.5 คะแนน!!!! อะไรต่างๆเหล่านี้ก็เลยส่งผลให้เราไม่ได้ทำอันดับเพลงอย่างต่อเนื่องในปี 1990 แล้วพอเราเรียนจบปี 1 ด้วยเกรด 3.3 เราก็เลยเอ็นท์ใหม่ เข้าคณะอักษร จุฬา และทำอันดับเพลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เรียนอยู่อักษร ยกเว้นในช่วงเทอมสุดท้ายในปี 1994 (เราเรียนจบใน 3 ปีครึ่ง เทอมสุดท้ายของเราคือเทอมต้นในเดือนมิ.ย.-ก.ย. 1994) ที่เราเรียนหนักมาก เราก็เลยทำอันดับเพลงครั้งสุดท้ายในชีวิตในช่วงปลายเดือนมิ.ย. 1994 แล้วก็ไม่มีเวลาทำอันดับเพลงอีกต่อไป เราต้องตั้งใจเรียนหนังสือในเทอมสุดท้าย แล้วเราก็ไม่ได้หวนกลับมาทำอันดับเพลงอีกเลย

พอในช่วงนี้เราได้มาย้อนฟังเพลงต่างๆที่เคยติดอันดับของเราในปี 1990 มันก็เลยทำให้เราได้รำลึกถึงความทรงจำอันแสนสุขในช่วงนั้น เราก็เลยขอบันทึกมันไว้ด้วยแล้วกัน ถือเป็น diary ที่เขียนขึ้นหลังจากเวลาผ่านมา 30 ปีแล้ว

1.ช่วงเวลาที่ “สนุก” ที่สุดในชีวิตของเรา คงเป็นปี 1989 ปีสุดท้ายในชีวิตมัธยมของเรา

2.หนึ่งในช่วงที่มีความสุขที่สุดในชีวิต คือเดือนมี.ค. 1990 หรือหนึ่งเดือนก่อนสอบเอ็นท์ เพราะตอนนั้นเราเพิ่งเรียนจบม. 5 เราก็เลยไม่ซีเรียสกับการเอ็นท์ เรามองว่า เราเอ็นท์ติดก็ได้ ไม่ติดก็ได้ ถ้าเอ็นท์ไม่ติด เราก็แค่เรียนม.6 ต่อ

ตอนนั้นเรามาเรียนพิเศษที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ แล้วพอมันเป็นการ “เรียนพิเศษ” มันก็เลยไม่มีกฎเกณฑ์ เราจะเข้าเรียนก็ได้ ไม่เข้าเรียนก็ได้ เพราะฉะนั้นการมาเรียนพิเศษในเดือนมี.ค. 1990 มันก็เลยกลายเป็นการมาเมาท์กับเพื่อนๆที่โรงเรียน, คุยกันเรื่องวิดีโอคอนเสิร์ต AKINA EAST LIVE ที่ซื้อมาจากร้านลูกแมว, มานั่งเล่นไพ่ UNO กัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมา dance กันที่โรงยิม โดยตอนนั้นพวกเราเน้นเต้นเพลงของ Janet Jackson เป็นหลัก พวกเพลง RHYTHM NATION, ESCAPADE และเหมือนมีการเต้นเพลงของ Karyn White ด้วย ถ้าจำไม่ผิด

เพราะฉะนั้น ช่วงเวลา 1 เดือนก่อนสอบเอ็นท์ เลยกลายเป็นหนึ่งในช่วงที่เรามีความสุขที่สุดในชีวิต เพราะเราได้มาเจอเพื่อนๆที่โรงเรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์ แต่เราไม่ต้องเข้าห้องเรียน เราไป dance กันกระจายที่โรงยิมแทน

แต่พอเข้าเดือนเม.ย. ทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันไปสอบเอ็นท์ เราก็เลยไปเครียดช่วงต้นเดือนเม.ย.แทน

3.หลังสอบเอ็นท์เสร็จในช่วงกลางเดือนเม.ย. เราก็นัดกลุ่มเพื่อนสนิทมา dance กันที่โรงยิมเป็นครั้งคราว จำได้ว่า หนึ่งในเพลงที่ dance กันแล้วมีความสุขสุดๆในช่วงนั้น คือเพลง GIRL TO GIRL ของวง 49ERS เพลงนี้ก็เลยเหมือนกลายเป็นหมุดหมายความทรงจำของเราสำหรับเดือนเม.ย.-พ.ค. 1990

4.อีกเหตุการณ์ที่เราจำได้ดีในช่วงนั้น ก็คือการ “ดังระเบิดอย่างไม่คาดคิด” ของหนังเรื่อง A ROOM WITH A VIEW (1985, James Ivory, UK) ที่มาลงโรงฉายที่โรงหนังในสยามเซ็นเตอร์ในช่วงนั้น ไม่แน่ใจว่าเดือนไหน แต่น่าจะอยู่ในช่วงเดือนมี.ค.-พ.ค. 1990 นี่แหละ

หนังเรื่องนี้ฮือฮาในหมู่พวกเราเป็นอย่างมาก เพราะมันมีฉากโชว์จู๋ในหนัง รู้สึกว่าจะเป็นของ Julian Sands กับ Rupert Graves รู้สึกว่าเพื่อนเราคนนึงจะไปดูหนังเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 3 รอบ

5.การที่เราเอ็นท์ติดคณะบัญชี แล้วลาออกในเวลาต่อมา มันกลายเป็นปมอย่างนึงในใจเราจนถึงบัดนี้ เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรารู้สึกว่าเราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เราก็เลยชอบจินตนาการหลายครั้งหลายหนว่า ถ้าหากเราย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีก่อน แล้วเราซ้อมเชียร์ต่อ ทำตัวให้เข้ากับคนในคณะ แล้วเรียนบัญชีต่อจนจบ 4 ปี ตอนนี้เราจะกลายเป็นคนรวยไปแล้วหรือเปล่านะ 55555 หรือเราอาจจะฆ่าตัวตายไปนานแล้วก็ได้

แต่ถึงเราย้อนเวลากลับไปได้จริง เราก็คงเลือกเอ็นท์ใหม่เข้าอักษรในช่วงต้นปี 1991 อยู่ดี เราคิดว่าถ้าหากเราย้อนเวลากลับไปได้ เราก็อาจจะลองซ้อมเชียร์ต่อ ผูกมิตรกับคนในคณะบัญชี ตั้งใจเรียนวิชาต่างๆในคณะบัญชีให้มากๆ เพราะเราพบว่า ความรู้ที่เราเคยเรียนมาในช่วง 1 ปีในคณะบัญชี มันกลับกลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อเรามากๆในเวลาต่อมา เพราะพอเราเรียนจบอักษร เราก็ออกมาทำงานแปลข่าวการเงิน ซึ่งต้องใช้ความรู้ทั้งด้านภาษา (อักษร) และการเงินการคลัง (บัญชี) เราก็เลยรู้สึกว่า การที่เราเคยเรียนบัญชีมา 1 ปี มันไม่ใช่การเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์แต่อย่างใด มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆ  แต่เราก็คงกลับมาเอ็นท์อักษรใหม่ในปี 1991 อยู่ดีน่ะแหละ เพราะเรารู้สึกว่าช่วงเวลาที่เราเรียนอักษรเรามีความสุขสุดๆ มันเป็น 3 ปีครึ่งที่เรา happy อย่างรุนแรงมากๆ และเราไม่อยากจะสูญเสียช่วงเวลา 3 ปีครึ่งนี้ไป

6.เสียดายเหมือนกันที่พอเราเอ็นท์ติดอักษร เราก็เลยไม่ได้ keep contact กับเพื่อนที่ชื่อ ปืน อีกเลย

7.อย่างไรก็ดี ไม่มีใครสามารถย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งที่เราทำได้ ก็มีแต่เพียงฟังเพลงเก่าๆเมื่อ 30 ปีก่อนนี่แหละ เพื่อรำลึกถึงความทรงจำสำหรับหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของชีวิต โดยเฉพาะช่วง 1 เดือนก่อนสอบเอ็นท์ในปี 1990 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่วงที่ชีวิตเราสบายที่สุด เราไม่จำเป็นต้องเรียนหนังสือ แต่ได้ออกมา dance กับเพื่อนๆเกือบทุกวัน

จริงๆแล้วเรา work from home มาตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.แล้วนะ แต่เราแทบไม่มีเวลาดูหนัง online เหมือนเพื่อนๆ cinephiles คนอื่นๆเลย เพราะเรามัวแต่เสียเวลาไปกับการนั่งฟังเพลงเก่าๆ นั่งรำลึกถึงคืนวันเก่าๆนี่แหละ 55555


Friday, April 24, 2020

MAE KAEH (2017, Taworn Laklaem, documentary,19min, A+30)


MAE KAEH (2017, Taworn Laklaem, documentary,19min,  A+30)
หม่อแฆะ

สารคดีตามติดชีวิตประจำวันชายชราหลังค่อมในชนบท ชอบที่หนังเฝ้ามองชีวิตประจำวันของเขาไปเรื่อยๆ ดูแล้วแอบจินตนาการว่า ถ้าหากหนังมันยาวกว่านี้ มันอาจจะกลายเป็น JEANNE DIELMAN ในอีกรูปแบบนึง

A SIMPLE TRUTH (2017, Dapho Moradokphana, documentary, 5min, A+30)

หนังเรื่องนี้มันเป็นสารคดีใช่ไหม แอบรู้สึกว่ามันสั้นไป อยากให้มันยาวกว่านี้ อยากให้หนังสัมภาษณ์ subject นานกว่านี้

ชอบฉากที่เด็กชายตัวเล็กๆร่ำร้องขอเงินแม่บาทนึงมากๆ

MY BROTHER IS A BOXER (2014, Worawit Panakrongjit, 10min, A+30)
นักมวยของน้อง

เศร้ามาก


IN THE HEART OF THE FOREST (2020, Supamok Silarak, documentary, 57min, A+30)
บ้านกลางป่า

1.ประเด็นที่สะเทือนใจที่สุดในหนัง คงเป็นเรื่องที่คล้ายๆกับเรื่องที่คุณ Paskorn Jumlongrach เพิ่งเขียนถึงในวันที่ 18 เม.ย. นั่นก็คือเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐร่วมมือกับนายทุนนักตัดไม้ทำลายป่า ในการใส่ร้ายชาวบ้านว่าลักลอบตัดไม้ พอได้ยินได้ฟังเรื่องแบบนี้แล้วก็รู้สึกเลวร้ายมากๆ

อ่านที่คุณ Paskorn เขียนได้ที่นี่

2.ประเด็นเรื่องกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน ก็เป็นอีกประเด็นที่สะเทือนใจมากๆ

3.ชอบการถ่ายทอดวิถีชีวิตของชาวบ้าน ทั้งเรื่องการปฏิบัติต่อวัวควาย, การทำน้ำผึ้ง. หวาย, ครั่ง, การลับมีด, การรับมือกับไฟป่า

4.ชอบการพูดถึงไสยาศาสตร์ในอดีตด้วย อยากให้มีคนศึกษาเรื่องพวกนี้เพื่อเอามาดัดแปลงสร้างเป็นหนังสยองขวัญมากๆ 555

TOP NICE ‘N’ EASY CHART FOR JAN-MARCH 1990


TOP NICE ‘N’ EASY CHART FOR JAN-MARCH 1990

1.  LOVE WILL LEAD YOU BACK – Taylor Dayne

2.  ANOTHER DAY IN PARADISE – Phil Collins

3. DIFFERENT AIR – Living In A Box

4. WAS IT NOTHING AT ALL – Michael Damian

5. COULD HAVE TOLD YOU SO – Halo James

6. NO MYTH – Michael Penn

7. SACRIFICE – Elton John

8. WE CAN’T GO WRONG – The Cover Girls

9. DRIVING – Everything But The Girl

10. I WISH IT WOULD RAIN DOWN – Phil Collins

11. NOTHING COMPARES 2 U – Sinéad O’Connor

12. WHEN WILL I SEE YOU AGAIN – Brother Beyond

13. DON’T KNOW MUCH – Linda Ronstadt featuring Aaron Neville https://www.youtube.com/watch?v=KyrjZbT_ZUg

14. JUST BETWEEN YOU AND ME – Lou Gramm

15. NAME AND NUMBER – Curiosity Killed the Cat

16. ENJOY THE SILENCE – Depeche Mode

17. COME BACK TO ME – Janet Jackon

18.  HOW AM I SUPPOSED TO LIVE WITHOUT YOU – Michael Bolton

19. I’LL BE YOUR EVERYTHING – Tommy Page

20. TEARS ON MY PILLOW – Kylie Minogue

21. ALL MY LIFE – Linda Ronstadt featuring Aaron Neville

22. THE KING AND QUEEN OF AMERICA -- Eurythmics

23. TOO LATE TO SAY GOODBYE – Richard Marx

24. JUST LIKE JESSE JAMES – Cher

25. HERE WE ARE – Gloria Estefan


Thursday, April 23, 2020

GUESS WHO (2005, Kevin Rodney Sullivan)


POSTER OF FAVORITE ROMANTIC FILMS

DAY 6
GUESS WHO (2005, Kevin Rodney Sullivan)

เราชอบความรักระหว่างคนต่างเชื้อชาติ สีผิว และเราก็ชอบความรักระหว่างพระเอกกับนางเอกในหนังเรื่องนี้มากๆ จุดที่เราซึ้งมากๆก็คือว่า การที่พระเอกซึ่งเป็นชายผิวขาวรักกับสาวผิวดำ ส่งผลให้เขามีปัญหาในหน้าที่การงาน ถ้าหากเราจำไม่ผิด เจ้านายของเขามีปัญหากับการที่เขารักกับสาวผิวดำ พระเอกก็เลยต้องเลือกระหว่างความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือความรัก และพระเอกก็เลยเลือกความรัก แม้ต้องแลกด้วยการตกงานก็ตาม

แต่เราไม่แน่ใจว่าเราจำรายละเอียดถูกต้องหรือเปล่านะ ถ้าหากเราจำผิดก็บอกด้วยแล้วกัน แต่เราชอบการที่พระเอกเลือกแบบนั้นมากๆ เขาดูเป็น “สามีในฝัน” สำหรับเรามากๆ

Wednesday, April 22, 2020

LES MISERABLES


ทำไมอ่านข่าวช่วงนี้แล้วนึกถึง LES MISERABLES ของ Victor Hugo นึกถึงทั้ง Jean Valjean ผู้ชายที่ติดคุก 19 ปีเพราะเขาขโมยขนมปังไปให้ sister ของเขาที่มีลูก 7 คน และนึกถึง Javert ตำรวจที่ยึดมั่นในหลักกฎหมายและความเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม

ชอบการบรรยายถึง Javert
 a personal foundation of "rectitude, order, and honesty." So devoted is he to this choice that, Hugo writes, "[h]e would have arrested his own father if he escaped from prison and turned in his own mother for breaking parole. And he would have done it with that sort of interior satisfaction that springs from virtue."[3]

LIVE (2015, Vlad Paunescu, Romania, A+30)


LIVE (2015, Vlad Paunescu, Romania, A+30)

ได้ดูหนังเรื่องนี้ที่ Alliance ในวันที่ 10 มี.ค. ชอบมากๆ หนังเล่าเรื่องของกลุ่มนักการเมือง, นักธุรกิจ, ผู้มีอิทธิพล ที่พยายามจะทำลาย “แหล่งโบราณสถาน” แห่งนึงในโรมาเนีย เพื่อจะได้เอาพื้นที่นั้นมาทำเหมือง หรืออะไรทำนองนี้ ส่วนนางเอกเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่ต่อสู้เพื่อเปิดโปงความจริงเรื่องนี้

ดูแล้วนึกถึงกรณี “ภาพเขียนสีเขายะลา” ในไทยมากๆ

MATTHIAS & MAXIME (2019, Xavier Dolan, Canada, A+30)

ได้ดูหนังเรื่องนี้ที่ Alliance ในวันที่ 11 มี.ค. Dolan น่ารักมากๆในหนังเรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นเรา เราคงไม่เอาพระเอก (Matthias) น่ะ เพราะเราเกลียดคนนิสัยแบบพระเอก ที่เคร่งครัดในอะไรบางอย่างมากเกินไป เราชอบคนที่ง่ายๆสบายๆ มากกว่าคนที่เคร่งครัดกับอะไรบางอย่างที่ไม่มีความจำเป็นต่อชีวิต แล้วไปพยายามบังคับให้คนอื่นๆเคร่งครัดเหมือนตัวเองด้วย

CARLOS JÁUREGUI: THE UNFORGETTABLE FAG (2016, Lucas Santa Ana, Argentina, documentary, A+10)

เป็นหนังสารคดีที่เนื้อหาหนักอึ้งเกินไปสำหรับเรา หนังนำเสนอชีวิตของ Carlos Jauregui ซึ่งเป็น gay activist ในอาร์เจนตินาที่เสียชีวิตไปแล้ว จริงๆแล้วเนื้อหาของหนังมันก็ดีแหละ เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องสภาพสังคมเกย์ในอาร์เจนตินาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา แต่วิธีการนำเสนอในหนังมันน่าเบื่อน่ะ เหมือนหนังสัมภาษณ์คนต่างๆที่ใกล้ชิดเขาไปเรื่อยๆ และตัดสลับกับฟุตเตจเก่าๆ แต่มันเหมือนเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้ชมอย่างตรงไปตรงมาไปเรื่อยๆ ทื่อๆน่ะ ดูแล้วก็เลยรู้สึกเหนื่อยมาก 555

ได้ดูหนังเรื่องนี้ที่ BACC ในวันที่ 12 มี.ค.

FAVORITE ALBUM CHART FOR JAN-MARCH 1990


อันดับเพลงเมื่อ 30 ปีก่อน
FAVORITE ALBUM CHART FOR JAN-MARCH 1990

1. LONDON, WARSAW, NEW YORK – Basia

2. WALTZ DARLING – Malcolm McLaren And The Bootzilla Orchestra

3. Enya – Enya

4. JANET JACKSON’S RHYTHM NATION 1814 – Janet Jackson

5. CIRCUIT OF RAINBOW – Anri

6. IVORY – Miki Imai

7. CAN’T FIGHT FATE – Taylor Dayne

8. CRY LIKE A RAINSTORM, HOWL LIKE THE WIND -- Linda Ronstadt featuring Aaron Neville

9. TWIN MEMORIES – Wink

10. THE SENSUAL WORLD – Kate Bush

11. PUMP UP THE JAM THE ALBUM – Technotronic

12. HANGIN’ TOUGH – New Kids On The Block

13. GATECRASHING – Living In A Box

14. WATERFRONT – Waterfront

15. WELCOME TO THE BEAUTIFUL SOUTH – The Beautiful South

16. SHOOTING RUBBERBANDS AT THE STARS – Edie Brickell And The New Bohemians

17. SYBIL – Sybil

18. AFFECTION – Lisa Stansfield

19. THE LOVER IN ME – Sheena Easton

20. READ MY LIPS – Jimmy Somerville

21. WICKED – Sinitta

22. GET EVEN – Brother Beyond

23. THE TIME – Bros

24. NIGHTS LIKE THIS – Stacey Q