Monday, April 27, 2020

2084 (1982, Klaus Wyborny, West Germany, 70min, A+30)



HOUSEFILM (1975, Klaus Wyborny, West Germany, 27min, A+30)

หนังทั้งเรื่องไม่มีเนื้อเรื่องและคำบรรยาย มีแต่การถ่ายภาพบ้านและอาคารต่างๆไปเรื่อยๆ และมีการตัดสลับภาพท้องถนนใส่เข้ามาบ้างเป็นระยะๆ  จุดเด่นคือการเหวี่ยงกล้องไปมาตลอดเวลา และการตัดต่อภาพอย่างรุนแรงเพื่อให้เข้ากับดนตรีประกอบ

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่

2084 (1982, Klaus Wyborny, West Germany, 70min, A+30)

1.ชอบสุดๆที่ได้ดูหนังที่ push the limit of my cinematic experience ออกไปแบบนี้ 55555 คือเราเคยนึกว่าหนังเรื่อง SOLOS (2014, Teeranit Siangsanoh, 79min) นี่ถือเป็นหนังไซไฟที่ minimal ที่สุดเท่าที่เราเคยดูมาแล้ว แต่ถ้า SOLOS มาเจอกับหนังเรื่องนี้ SOLOS ก็กลายเป็นหนัง “ดูง่าย สบายใจเฉิบ” ไปเลย

2. 2084 เป็นหนังที่เหมาะกับการดูในช่วงนี้มาก เพราะ 2084 เล่าเรื่องของโลกอนาคต ที่ผู้ชายแต่ละคนถูกจับไปขังเดี่ยว และพระเอกก็ถูกจับขังมานาน 20 ปีแล้ว เขาต้องอยู่ในห้องตลอดเวลามานาน 20 ปี และราว 80% ของหนังก็เป็นการที่กล้องจับไปที่ใบหน้าของพระเอก แล้วพระเอกก็พูดพึมพัมอย่างช้าๆไปเรื่อยๆ ส่วนอีก 20% ของหนังเป็นการที่กล้องจับภาพกิ่งไม้ไหวนอกหน้าต่างห้องของพระเอก

ดูแล้วนึกว่าหนังยาวเรื่องนี้ใช้ทุนสร้าง 30 บาท

3.ดูแล้วนึกถึงหนังประเภทที่เราขอเรียกว่า extreme minimalism และหนังประเภท “ไม่แคร์คนดูอย่างรุนแรง” อย่างเช่น RUHR (2009, James Benning), CONCRETE ROOTS รากพราย (2018, Achitaphon Piansukprasert, 90min), VINYL (1965, Andy Warhol), FILMORE (2011, Rouzbeh Rashidi, Ireland) อะไรทำนองนี้

เราว่า 2084 ดูยากกว่า RUHR นะ เพราะ RUHR มันยังสะกดจิตเราด้วยภาพของมันได้น่ะ แต่ 2084 นี่ “ภาพ” ในหนังไม่มีพลังดึงดูดเลย นึกว่าดูคนบ้าขณะสลึมสลือ live facebook ไปเรื่อยๆเป็นเวลา 70 นาที 55555

แต่ก็ชอบที่มีคนทำหนังแบบนี้ออกมานะ มันทำให้เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆในการสร้างภาพยนตร์จริงๆ คือเอาจริงๆแล้วเราว่าถ้าหากเขาจะทำให้หนังมัน “บันเทิง” มันก็ทำได้ง่ายมาก คือแค่คิดบท monologueมาดีๆเกี่ยวกับโลกอนาคต แล้วก็ให้ตัวละครพูดต่อหน้ากล้องไปเรื่อยๆ 70 นาที เราก็อาจจะได้หนังไซไฟที่สนุกและมีสาระแล้ว โดยลงทุนเพียงแค่ 30 บาท เพียงแต่ Klaus Wyborny คงไม่ได้ต้องการจะสร้างหนังแบบนั้น อย่างไรก็ดี หนังที่เขาสร้างออกมา มันก็มีไอเดียที่น่าสนใจ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหนังเรื่องอื่นๆได้

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่


No comments: