Friday, April 03, 2020

JUNK FOOD FABLE (2020, Theerapat Wongpaisarnkit, 63min, A+30)


JUNK FOOD FABLE (2020, Theerapat Wongpaisarnkit, 63min, A+30)

1.ชอบมาก รู้สึกว่าหนังมันมีความประหลาดในแบบที่เป็นตัวของตัวเองดี

2.ดีใจที่หนังทั้งเรื่องมันไม่ได้เป็นอย่าง MGB: SOFTWHERE (2018, Theerapat Wongpaisarnkit) 555 เพราะเราว่า MGB: SOFTWHERE มันดูหนักข้อเกินไปสำหรับเรา มันดูนิ่ง ช้าเกินไปสำหรับเรา คือจริงๆแล้วเราก็ชอบ MGB: SOFTWHERE มากในระดับนึงนะ แต่ก็รู้สึกว่าอยากดูอะไรที่มันสนุกกว่านี้น่ะ เราก็เลยดีใจที่ JUNK FOOD FABLE มันไม่ได้นิ่ง ช้าแบบนั้นตลอดทั้งเรื่อง

ตัวหนัง JUNK FOOD FABLE ก็ได้นำเอา MGB: SOFTWHERE มาใช้ในช่วงต้นเรื่อง ก่อนที่เนื้อเรื่องจะพลิกไป เราไม่แน่ใจว่าเนื้อหาในส่วนที่เป็น MGB: SOFTWHERE หมายถึงอะไร แต่มันทำให้เรานึกถึงประเทศไทยที่ไม่เดินหน้าไปไหนสักที เหมือนถูกแช่แข็งให้อยู่ในอดีต ไม่มีทางไปถึงวันพรุ่งนี้ได้ ชีวิตแต่ละคนเหมือนไปไม่ถึงจุดหมาย 555

3.ชอบการเล่นกับนักแสดง เหมือนมีนักแสดง 2 คนที่ต้องเล่นคนละ 3 บท นั่นก็คือรับบทเป็นตัวละครใน MGB: SOFTWHERE (ซึ่งกลายเป็น part ที่เรียกว่า STICKY NIGHT ใน JUNK FOOD FABLE) , รับบทเป็นสมาชิกวง ONION RING และรับบทเป็นผู้กำกับ MV กับกลุ่มเพื่อน

การที่นักแสดงคนเดียวกันต้องรับบทถึง 3 บทในหนังเรื่องนี้ มันช่วยสร้างความแปลกประหลาดพิสดารในหนังได้ดี เหมือนมันเบลอเส้นแบ่งระหว่าง “คนที่อยู่หน้ากล้อง” กับ “คนที่อยู่หลังกล้อง”, คนธรรมดา กับดารา, ตัวละครในเรื่องแต่ง กับผู้ชมเรื่องแต่ง, ความจริง กับจินตนาการ, ความจริง กับ ความใฝ่ฝัน และมันช่วยให้โลกในหนังเรื่องนี้กลายเป็นจักรวาลที่แปลกประหลาดเฉพาะตัว

4.บทสนทนาในหนังก็แปลกประหลาดดีมาก

5.การตัดต่อก็ประหลาดดี ชอบฉากขยี้โดนัทจนเละคามือ ซึ่งเหมือนใส่เข้ามาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย

6.สิ่งที่ติดใจมากๆในหนัง คือการที่ตัวละครเหมือนจะหาเวลานอนไม่ได้ และคาดหวังว่าตัวเองจะได้นอนก็เมื่อได้ขึ้นเครื่องบิน



No comments: