Monday, September 15, 2025

A USEFUL GHOST VS. THE FAREWELL

 

หนังที่อยากฉายควบกับ A USEFUL GHOST ผีใช้ได้ค่ะ (2025, Ratchapoom Boonbunchachoke, A+30) ชุดที่ 9

DOUBLE BILL FILM WISH LIST

THE FAREWELL – BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER (2000, Jan Schütte, Germany, A+30)
+ A USEFUL GHOST ผีใช้ได้ค่ะ (2025, Ratchapoom Boonbunchachoke, A+30)

 

อย่างที่เราได้เขียนไปแล้วว่า หนึ่งในสิ่งที่เราชอบมากใน A USEFUL GHOST ก็คือการที่ตัวละคร Nat เผชิญกับ dilemma ที่ยากจะตัดสินใจ ความรักความผูกพันที่เธอมีต่อสามีของเธอ ทำให้เธอต้องตัดสินใจเลือกว่า เธอจะทำในสิ่งที่เลวร้ายด้วยการให้ความร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลในการทำลายผี Tok และผีการเมืองตัวอื่น ๆ หรือไม่

 

สิ่งนี้ทำให้นึกถึงตัวเราเองหรือมนุษย์คนอื่น ๆ ที่ในบางครั้งต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากในชีวิต เพราะในบางครั้ง ชีวิตก็บังคับให้เราต้องเลือกว่า เราจะให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุดในแต่ละสถานการณ์ คือในบางครั้งเราก็จะเผชิญกับตัวเลือกสลับกันไปมาระหว่างสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้

 

1. อุดมการณ์

2. เพื่อน

3. ผัว หรือ ผู้ชาย

4. ครอบครัว

5. ความปลอดภัยของชีวิตตนเอง

6. เสียงสรรเสริญจากผู้อื่น (แต่เสียงสรรเสริญจากคนบางกลุ่ม ก็ต้องแลกมาด้วยเสียงสาปแช่งจากคนอีกกลุ่ม)

7. การนับถือตนเอง

 

เนื่องจากเราชอบ dilemma ของตัวละคร Nat มาก ๆ เราก็เลยนึกถึงหนังเรื่อง THE FAREWELL – BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER (2000, Jan Schütte, Germany, A+30) ที่สร้างจากเรื่องจริง โดยในหนังเรื่องนี้ ตัวละคร Helene Weigel (Monica Bleibtreu) ก็เผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากคล้าย ๆ กัน

 

หนังเรื่อง THE FAREWELL – BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER ที่เคยเข้ามาฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Bangkok International Film Festival เล่าเรื่องของ “เวลาเพียงหนึ่งวัน” ในหน้าร้อนปี 1956 ก่อนที่ Bertolt Brecht (ที่ทุกคนรู้จักกันดี) จะเสียชีวิตในอีกไม่กี่เดือนต่อมา

 

ในวันนั้น Brecht กับ Helene Weigel ซึ่งเป็นภรรยาของเขา กับกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันที่ริมทะเลสาบ พวกเขาพูดคุยกันไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาอย่างเรื่อยเปื่อยกันไปเรื่อย ๆ หนังเรื่องนี้เหมือนนำเสนอ “การไปเที่ยวพักผ่อนริมทะเลสาบของคนกลุ่มหนึ่งในเวลาเพียงหนึ่งวัน” แต่มันกลับกลายเป็นหนึ่งในหนังที่ประทับใจเราอย่างไม่รู้ลืมในช่วงเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา

 

Brecht เป็นนักประพันธ์ชื่อดัง เขาเชื่อใน Marxist เขาเป็นศัตรูคนสำคัญของ Nazi เขาหนีออกจากเยอรมนีในปี 1933 เมื่อนาซีเริ่มเรืองอำนาจ และเขาก็ไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงในสหรัฐ แต่เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เขาก็โดนทางการสหรัฐหมายหัวว่าเป็นพวกคอมมิวนิสต์ เขาก็เลยหนีภัยจากทางการสหรัฐมาใช้ชีวิตอยู่ในเยอรมันตะวันออก และเขาก็พบว่า รัฐบาลคอมมิวนิสต์ในเยอรมันตะวันออก ก็มีความเป็นเผด็จการไม่แพ้กัน

 

คือชีวิตเขาหนักมาก คือต้องหนีภัย “นาซี” ไปอยู่อเมริกา แต่พอมาอยู่อเมริกา ก็เผชิญกับ “การล่าแม่มดคอมมิวนิสต์” เขาก็เลยหนีไปอยู่เยอรมันตะวันออก แล้วก็เผชิญกับ “เผด็จการคอมมิวนิสต์” อีก

 

แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เล่าเหตุการณ์เหล่านี้โดยตรง หนังเรื่องนี้เล่าเพียงแค่ “การไปพักผ่อนทะเลสาบหนึ่งวันของ Brecht” เท่านั้น แต่ก็สามารถสะท้อนชีวิตของเขาออกมาได้อย่างประทับใจไม่รู้ลืมมาก ๆ

 

สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจให้เราอย่างรุนแรงสุดขีดในหนังเรื่องนี้ ก็คือเรื่องของ Helene Weigel เธอถูกเจ้าหน้าที่เยอรมันตะวันออกมายื่นข้อเสนอให้ในช่วงต้นเรื่องในทำนองที่ว่า ถ้าหากเธออยากให้สามีของเธออยู่รอดปลอดภัย เธอก็จะต้องแอบให้ความช่วยเหลือทางการเยอรมันตะวันออกในการจับตัวเพื่อน ๆ ของเธอ ที่ทางการมองว่ามีแนวคิดกระด้างกระเดื่อง เป็นภัยต่อรัฐบาลเผด็จการเยอรมันตะวันออก (ถ้าหากเราจำไม่ผิดนะ เพราะเราดูหนังเรื่องนี้มานาน 20 กว่าปีแล้ว)

เพราะฉะนั้นในขณะที่ตัวละครตัวอื่น ๆ พักผ่อนกันอย่างสงบสุข มองดูแสงแดด และหมู่เมฆคล้อยเคลื่อนไปเรื่อย ๆ ที่ริมทะเลสาบ Helene Weigel ก็ต้องเผชิญกับ dilemma อันหนักอึ้งในใจตลอดเวลาว่า เธอจะเลือกเส้นทางไหนดี เธอคงรู้อยู่แล้วว่า การให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเยอรมันตะวันออก เป็นสิ่งที่ผิด และเป็นสิ่งที่เลวร้าย แต่ถ้าหากเธอไม่ทำเช่นนั้น ชีวิตของ Brecht ก็จะไม่อยู่รอดปลอดภัย เธอจะเลือกอะไร ระหว่างชีวิตของผัว กับอุดมการณ์ความถูกต้อง

 

เพราะฉะนั้นตอนที่เราดู A USEFUL GHOST เราก็เลยนึกถึงหนังเรื่อง THE FAREWELL – BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER มาก ๆ เพราะเรารู้สึกว่า dilemma ของตัวละครหญิงสองตัวในหนังเรื่องนี้ มันมีบางส่วนที่ทำให้นึกถึงกันโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

แน่นอนว่า ตอนจบของ THE FAREWELL – BERTOLT BRECHT’S LAST SUMMER ถือเป็นหนึ่งในตอนจบของภาพยนตร์ที่เราชื่นชอบมากที่สุดในชีวิต คิดถึงทีไรก็รู้สึกอยากร้องไห้ แต่ร้องไม่ออก มันเจ็บปวดจนสุดจะทานทนสำหรับเรา

+++

ฉันรักเขา Zhou Zhengjie from THE SHADOW’S EDGE (2025, Larry Yang, Hong Kong/China, A+30)

No comments: