Thursday, September 25, 2025

MALICE + INEXTINGUISHABLE FIRE

 

น่าดูสุดขีด ก่อนหน้านี้เราเคยดูหนังของ Polen Ly สองเรื่อง ซึ่งก็คือ FURTHER AND FURTHER AWAY (2022, A+30) กับ UNTIL THE ORCHID BLOOMS (2024, A+30) และเราชอบหนังทั้งสองเรื่องนี้มาก ๆ

 

+++

 

เนื่องจากกำลังจะมีการจัด RETROSPECTIVE ของ HARUN FAROCKI ซึ่งถือเป็น “ปรมาจารย์แห่ง ESSAY FILMS” ที่ HOUSE SAMYAN เราก็เลยถือโอกาสนี้ copy สิ่งที่เราเคยเขียนไว้ใน blog ของ Filmsick ในปี 2007 มาแปะไว้ในที่นี้ด้วย

 

--ขอบคุณมากๆเลยค่ะที่เขียนถึง VIDEOGRAMS OF A REVOLUTION (1992, Harun Farocki) เขียนได้ดีมากๆเลยค่ะ มีหลายอย่างที่ดิฉันไม่ได้นึกถึงมาก่อน อย่างเช่นเรื่องพลังบริสุทธิ์ของภาพเคลื่อนไหว

ดูหนังเรื่องนี้แล้วดิฉันร้องไห้ตรงฉากสุดท้ายที่ขึ้นมาช่วง ENDING CREDIT ค่ะ เป็นฉากที่ผู้ชายคนนึงพูดถึงยุคของเชาเชสกูที่มีการสอนให้ประชาชนเหยียดเชื้อชาติ อารมณ์ของผู้ชายคนนั้นในฉากนี้เป็นอารมณ์ที่หนักมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่ HARUN FAROCKI เลือกฉากนี้มาใส่ไว้ในเครดิตท้ายเรื่อง มันเป็นฉากที่อารมณ์มันล้นทะลักจริงๆ

มีฉากที่สำคัญอีกฉากนึงตอนต้นเรื่องที่ดิฉันไม่ได้สังเกต แต่นักวิจารณ์ใน TIME OUT FILM GUIDE สังเกตเห็น และบอกว่าเป็นฉากที่สำคัญมาก ในฉากนั้นเป็นฉากที่ผู้ประกาศข่าวคนนึงมาประกาศข่าวที่ว่านายพลคนนึงที่คิดเป็นกบฏต่อเชาเชสกูได้ฆ่าตัวตายแล้ว เสร็จแล้วผู้ประกาศข่าวก็ทำเป็นกระแอมไอ

ฉากนี้เป็นฉากสำคัญมาก เพราะการกระแอมไอดังกล่าวเหมือนเป็นการบอกใบ้ว่าข่าวที่อ่านน่ะเป็นข่าวตอแหล ผู้ชมข่าวทางทีวีคงเดาได้ใช่มั้ยล่ะว่านายพลคนนี้ไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอก แต่น่าจะถูกพรรคพวกของเชาเชสกูฆ่าตายแน่ๆ แต่รัฐบาลก็ทำเป็นออกข่าวตอแหลมาว่าศัตรูได้ฆ่าตัวตายไปแล้ว

การกระแอมไอนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าเป็นในยุคที่เชาเชสกูยังเรืองอำนาจ ผู้ประกาศข่าวต้องไม่กล้าทำเช่นนี้แน่ๆ แต่ผู้ประกาศข่าวคนนี้กล้าทำ เพราะเขาคงเริ่มมีความหวังว่ายุคของเชาเชสกูอาจใกล้จะล่มสลายแล้ว และเขาอาจรู้สึกทนเชาเชสกูไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

วินาทีแห่งการกระแอมไอนั้นจึงอาจจะถือเป็นวินาทีประวัติศาสตร์วินาทีนึงของโรมาเนีย เพราะนั่นเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นว่า สื่อของรัฐบาลเริ่มมีใจออกห่างจากรัฐบาลแล้ว สื่อของรัฐบาลเริ่มคิดที่จะแปรพักตร์จากรัฐบาลแล้ว อย่างไรก็ดี HARUN FAROCKI ไม่ได้ขับเน้นฉากนี้ให้โดดเด่นแต่อย่างใด เขานำเสนอฉากนี้อย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้าผู้ชมสังเกตดีๆ ก็จะรู้ว่าฉากนี้สำคัญมากๆ


--พอได้อ่านที่ FILMSICK เขียน ก็เลยลองเข้าไปดู INEXTINGUSHIABLE FIRE (1969, Harun Farocki) ใน UBU ชอบหนังเรื่องนี้มากๆเหมือนกัน

ฉากตอนต้นของหนังเรื่องนี้เป็นฉากที่คลาสสิคมากๆ ฉากตอนต้นของหนังเรื่องนี้เป็นฉากที่ HARUN FAROCKI พยายามจะถ่ายทอดให้ผู้ชมฟังถึงความเลวร้ายของระเบิดนาปาล์มที่ทหารสหรัฐทิ้งใส่เวียดนาม แต่เขาก็พูดในทำนองที่ว่า มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะสามารถสื่อให้ผู้ชมรับรู้ถึงอานุภาพอันโหดร้ายของระเบิดนาปาล์มได้

"When we show you pictures of napalm victims, you'll shut your eyes. You'll close your eyes to the pictures. Then you'll close them to the memory. And then you'll close your eyes to the facts."

แล้วหลังจากนั้น FAROCKI ก็ทำให้ฉากนี้เป็นฉากคลาสสิค ด้วยการที่เขาเอาบุหรี่มาจี้ที่แขนตัวเอง (กรี๊ดดดดดดดดดดดดด) แล้วก็มีคำบรรยายขึ้นมาว่า บุหรี่มีความร้อน 400 องศาเซลเซียส แต่ระเบิดนาปาล์มมีความร้อนถึง 3,000 องศาเซลเซียส ดูฉากนี้แล้วแทบร้องไห้

หนังเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าประชาชนคนเดินถนนธรรมดาหลายๆคนมีส่วนต้อง “รับผิดชอบ” ต่อความเลวร้ายนี้อย่างไรบ้าง เพราะประชาชนหลายๆคนทำงานให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทค้าอาวุธ โดย “ไม่สนใจ” หรอกว่าตัวเองทำงานให้บริษัทอะไร

 

++++

VIDEOGRAMS OF A REVOLUTION จะมาฉายใน HARUN FAROCKI’S PROGRAM 2 ในวันเสาร์ที่ 27 SEP รอบ 17.15 น.นะ

 

INEXTINGUISHABLE FIRE จะมาฉายใน HARUN FAROCKI’S PROGRAM 3 ในวันเสาร์ที่ 27 SEP รอบ 19.10 น.นะ

 

หนังทั้งสองเรื่องนี้ต่างก็ถือเป็น ONE OF MY MOST FAVORITE DOCUMENTARIES OF ALL TIME

 

DOUBLE BILL FILM WISH LIST

 

MALICE (2025, Lai Mukuan, Yao Wenyi, China, A+30)

+ THE INEXTINGUISHABLE FIRE (1969, Harun Farocki, West Germany, documentary, A+30)

 

เราเพิ่งได้ดู MALICE ที่พารากอนเมื่อวานนี้ และหนังเรื่องนี้ก็ทำให้เรานึกถึง THE INEXTINGUISHABLE FIRE ที่กำลังจะมาฉายที่โรงหนัง HOUSE SAMYAN ในวันเสาร์ที่ 27 ก.ย.มาก ๆ เพราะว่าหนังทั้งสองเรื่องนี้ต่างก็พูดถึงการที่ “ประชาชนคนธรรมดา กลายเป็นฟันเฟืองของความชั่วร้าย” โดยที่ประชาชนแต่ละคนไม่ได้ตระหนักรู้ถึงเรื่องนี้เหมือนกัน

 

THE INEXTINGUISHABLE FIRE แสดงให้เห็นว่าประชาชนคนเดินถนนธรรมดาหลาย ๆ คนมีส่วนต้อง “รับผิดชอบ” ต่อการที่กองทัพสหรัฐเข่นฆ่าคนบริสุทธิ์จำนวนมากในสงครามเวียดนาม เพราะประชาชนหลาย ๆ คนทำงานให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทค้าอาวุธ โดย “ไม่สนใจ” หรอกว่าตัวเองทำงานให้บริษัทอะไร โดยเฉพาะกรณีที่ “อาวุธ” แต่ละอย่างสร้างขึ้นจาก “ส่วนประกอบ” มากมาย ประชาชนบางคนอาจจะทำงานในบริษัทผลิต “แท่งอะลูมิเนียม” ธรรมดา ๆ แต่เขาหารู้ไม่ว่าแท่งอะลูมิเนียมธรรมดา ๆ นั้น อาจจะถูกนำไปใช้ประกอบเป็นอาวุธเพื่อฆ่าประชาชนจำนวนมากในสงครามเวียดนาม

 

ส่วน MALICE นั้นสะท้อนภาพของ “โลกสื่อสังคม” ในยุคปัจจุบัน ที่ประชาชนหลาย ๆ คนกดไลค์ กดเลิฟ กดแชร์ “ข้อมูลผิด ๆ” หรือ “กระแสความเห็นผิด ๆ” ทางอินเทอร์เน็ต โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตัวเองกระทำ จริง ๆ แล้วมันก็ถือเป็น “ฟันเฟืองเล็ก ๆ” อันหนึ่งของความชั่วร้ายขนาดใหญ่โตมาก

 

INEXTINGUISHABLE FIRE จะมาฉายใน HARUN FAROCKI’S PROGRAM 3 ในวันเสาร์ที่ 27 SEP รอบ 19.10 น.นะ ที่ HOUSE SAMYAN

No comments: