Monday, September 29, 2025

ABOUT NARRATION (1975, Ingemo Engström, Harun Farocki, West Germany, 58min, A+30)

 

IMAGES OF THE WORLD AND THE INSCRIPTION OF WAR (1988, Harun Farocki, A+30) จะฉายที่ HOUSE SAMYAN ในวันอังคารที่ 30 ก.ย. เวลา 16.50 น.นะ ในชื่อว่า HARUN FAROCKI’S PROGRAM 8

 

เราเคยเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้ในปี 2014 หนังเรื่องนี้ถือเป็น ONE OF MY MOST FAVORITE DOCUMENTARIES OF ALL TIME จ้ะ และหนังเรื่องนี้ติดอันดับ 2 ในลิสท์หนังที่เราชื่นชอบที่สุดที่ได้ดูในปี 2014 ด้วย

 

เมื่อวานได้ดูหนังของ Harun Farocki ไป 10 เรื่อง ซึ่งรวมถึง 2 เรื่องที่เราเคยดูมาแล้ว รู้สึกปลื้มปิติยินดีเป็นล้นพ้นมาก NOTHING VENTURED นี่พอได้ดูรอบสองแล้วชอบเพิ่มขึ้นกว่ารอบแรกมาก ๆ

https://web.facebook.com/photo?fbid=10204811078380139&set=a.10204785029768940

 

++++

TRIPLE BILL FILM WISH LIST

 

1. WHAT DOES THAT NATURE SAY TO YOU (2025, Hong Sang-soo, South Korea, A+30)

 

2. KAGEMUSHA (1980, Akira Kurosawa, Japan, A+30)

 

3. BREAKING NEWS IN YUBA COUNTY (2021, Tate Taylor, A+30)

 

พอดูหนังฮองที่พารากอนในวันนี้ เราก็รู้สึกว่า จุดนึงที่เราชอบในหนังฮองเรื่องนี้ ตรงกับจุดที่เราชอบใน KAGEMUSHA และ BREAKING NEWS IN YUBA COUNTY เราก็เลยอยากฉายหนัง 3 เรื่องนี้ควบกัน

 

มีใครเดาได้ไหม ว่าสิ่งที่หนัง 3 เรื่องนี้มีตรงกัน แล้วเป็นสิ่งที่เราชอบสุด ๆ คืออะไร (ใบ้ว่า เป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ๆ และจริง ๆ แล้ว ก็มีหนังอีกหลายเรื่องที่มีสิ่งเดียวกันนี้ 55555)

 

เฉลยอยู่ใน COMMENT

 

เฉลย

 

เพราะว่าในหนังทั้ง 3 เรื่องนี้ "ตัวละครสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเนื้อเรื่องของหนัง" ไม่ได้ปรากฏตัวให้คนดูเห็นเลยตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง (หรืออาจจะปรากฏแค่นิดเดียว)

 

ในหนังฮองนั้น เรารู้สึกว่า หนึ่งในตัวละครที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้ ก็คือ Attorney Ha เขาไม่ปรากฏตัวให้คนดูเห็นเลยในหนังเรื่องนี้ แต่เขาส่งผลกระทบต่อตัวละครอื่น ๆ ในหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงมาก ๆ

 

เราก็เลยแอบสงสัยว่า การที่ Hong Sang-soo ตั้งใจให้ Attorney Ha ไม่ปรากฏตัวเลยในหนังเรื่องนี้ เป็นเพราะว่าเขาตั้งใจให้ตัวละครตัวนี้มีความเป็น abstract มีความเป็น symbol เพื่อสะท้อนปัญหาสังคมการเมืองอะไรบางอย่างในเกาหลีใต้หรือเปล่า 55555

 

ส่วนใน KAGEMUSHA นั้น เรามองว่า “ตัวละครสำคัญที่ทำให้เนื้อเรื่องทั้งหมดใน KAGEMUSHA เกิดขึ้น” ก็คือ “ทหารหนุ่มนักเป่าขลุ่ย” คือถ้าหากไม่มีนักเป่าขลุ่ยคนนี้ ตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในหนังเรื่องนี้ก็จะไม่ถูกฆ่าตาย แล้วเนื้อเรื่องทั้งหมดใน KAGEMUSHA ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น 55555

 

ซึ่งตอนที่เราดู KAGEMUSHA นั้น เรารู้สึกอยากเห็นหน้า “ทหารหนุ่มนักเป่าขลุ่ย” มาก ๆ แต่หนังเรื่องนี้ก็ไม่ยอมให้เราได้เห็นหน้าตัวละครสำคัญคนนี้เลยตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง

 

ส่วนใน BREAKING NEWS IN YUBA COUNTY นั้น ตัวละครสำคัญตัวหนึ่งในหนังก็คือ เด็กผู้หญิงชื่อ Emma Rose ซึ่งเป็นตัวละครที่เหมือนมีบทบาทสำคัญในทางอ้อมตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แต่คนดูก็แทบจะไม่ได้เห็นตัวละครตัวนี้เลย หรืออย่างมากก็อาจจะได้เห็นแว้บ ๆ จากข่าวในจอโทรทัศน์ในหนังเรื่องนี้

 

เราก็เลยประทับใจหนัง 3 เรื่องนี้มาก ๆ ในแง่ที่หนัง 3 เรื่องนี้นำเสนอ “ตัวละครสำคัญที่ไม่ปรากฏตัวให้คนดูเห็นเลยตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง แต่เป็นตัวละครที่ค้างคาใจคนดูอย่างเราอย่างรุนแรงมาก ๆ”

 

ถ้าเพื่อน ๆ มี “ตัวละคร” แบบนี้ในหนังเรื่องอื่น ๆ จะแนะนำ ก็แนะนำมาได้นะคะ

+++++

 

ABOUT NARRATION (1975, Ingemo Engström, Harun Farocki, West Germany, 58min, A+30)

 

1.เราเพิ่งได้ดูหนังเรื่องนี้ที่โรงหนัง HOUSE SAMYAN ในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย. พอดูจบก็รู้เลยว่า นี่แหละ หนังที่มีสิทธิลุ้นอันดับหนึ่งประจำปี 2025 ของเรา เป็นหนังที่ส่งผลกระทบต่อตัวเราเป็นการส่วนตัวอย่างรุนแรงมาก

 

2. จริง ๆ เราอยากจะจดบันทึกความรู้สึกอย่างยาว ๆ แต่เราไม่มีเวลา เพราะพรุ่งนี้เราต้องดูหนังตั้งแต่ 11.00 น.จนถึงตีหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราขอจดบันทึกความรู้สึกของตนเองสั้น ๆ ก็พอ

 

จุดหนึ่งที่เราชอบสุดขีดในหนังเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ก็คือว่า เราเองก็มีปัญหากับ narrative ที่นำไปสู่ completeness and closure เพราะเรามองว่า จริง ๆ แล้ว เมื่อใครแก้ปัญหาอย่างหนึ่งได้เสร็จ เขาก็ไม่ได้ live happily ever after (นอกจากว่าเขาจะตายไปเลย) มันไม่ได้นำไปสู่ completeness and closure อย่างแท้จริง แต่มันอาจจะนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ตามมา อย่างที่ Farocki แสดงให้เห็นในภาพนี้

 

คือจากสิ่งที่ Farocki พูดในหนังเรื่องนี้ เราก็เอามาคิดต่อในทางอ้อมได้ว่า

 

2.1 ปัญหาแรกคือโรงงานอุตสาหกรรมที่หนังพูดถึง ก่อให้เกิด “ความร้อนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์”

 

2.2 โรงงานก็เลยออกแบบ “ระบบที่สามารถนำความร้อนกลับมาใช้ประโยชน์ได้” แต่ถึงแม้เกิดระบบพลังงานหมุนเวียนนี้ ปัญหาก็ไม่จบ เพราะระบบนี้จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อ โรงงานใช้ full capacity

 

2.3 เจ้าของโรงงานก็เลยไปสนับสนุน “นาซี” นาซีก็สร้างระบอบการปกครองที่เอื้อต่อโรงงานอุตสาหกรรม แต่ปัญหาก็ไม่จบ

 

2.4 ปัญหาที่เกิดจากนาซี ก็คือสงครามโลกครั้งที่สอง และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

 

2.5 ถึงแม้นาซีพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ปัญหาก็ไม่จบ เพราะการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในยุโรป เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ชาวยิวอพยพออกไป และคนเหล่านี้ก็ไปเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์เพื่อจะได้ก่อตั้งประเทศอิสราเอล

 

2.6 และนั่นนำไปสู่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1940 มาจนถึงปัจจุบัน

 

เหมือน narrative ในเรื่องเล่าหลาย ๆ อัน นำไปสู่ completeness and closure แต่ Farocki ทำให้เรารู้สึกว่า สิ่งที่เขาพยายามจะถ่ายทอด มันไม่ได้นำไปสู่ completeness and closure และสิ่งนี้มันสอดคล้องกับมุมมองของเราที่มีต่อชีวิต, ต่อมนุษย์ และต่อโลก

 

3. ABOUT NARRATION ส่งผลกระทบต่อมุมมองของเราที่มีต่อชีวิตประจำวัน โดยที่หนังไม่ได้ตั้งใจด้วย อย่างเช่น

 

3.1 ปกติแล้ว เวลาที่เราเขียนอะไรลง facebook เราก็อาจจะเขียน ๆ ๆ ๆ ไป โดยไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างเช่น เราอาจจะเขียนว่า “ฉันอยากเป็นเมียครูใหญ่ เพราะเขาน่าจะใหญ่”

 

3.2 แต่พอเราดู ABOUT NARRATION เราก็เลยมองสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำด้วยมุมมองที่เราไม่เคยมองมาก่อน อย่างเช่น

 

3.2.1 เราเขียนประโยค “ฉันอยากเป็นเมียครูใหญ่ เพราะเขาน่าจะใหญ่” ด้วยจุดประสงค์อะไร อะไรคือ goal ของการเขียนประโยคนี้ goal คือแค่อยากเขียน, อยากระบายความต้องการทางเพศ หรืออะไร เราเขียนถึงหนังแต่ละเรื่องลง Facebook ด้วยจุดประสงค์อะไร

 

3.2.2 พอเราเขียนประโยค “ฉันอยากเป็นเมียครูใหญ่ เพราะเขาน่าจะใหญ่” แล้ว ประโยคนี้ก็ “ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา และเป็นสิ่งที่แยกออกจากตัวเรา” ด้วยในเวลาเดียวกัน มันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา เพราะมันเป็นสิ่งที่เราเขียน แต่มันก็แยกออกจากตัวเรา เพราะมันไม่ได้ติดอยู่กับตัวเรา มันเป็นสิ่งที่คนอื่น ๆ เห็น และทุกสิ่งที่เราเขียนอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้อ่านแต่ละคนแตกต่างกันไป โดยที่เราไม่อาจควบคุมมันได้อีกต่อไป สิ่งที่เราเขียนแล้วคนอื่น ๆ ได้อ่าน มันอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้อ่านในแบบที่เราไม่ต้องการก็ได้

 

3.2.3 พอเราเขียนประโยค “ฉันอยากเป็นเมียครูใหญ่ เพราะเขาน่าจะใหญ่” แล้ว ประโยคนี้ก็แปรสภาพเป็น “ส่วนหนึ่งของอดีตของเรา” ในทันที

 

และเช่นกัน สิ่งที่เราเขียนเกี่ยวกับหนังเรื่อง ABOUT NARRATION ก็เป็นทั้งส่วนหนึ่งของตัวเรา และเป็นสิ่งที่แยกออกจากตัวเรา ในเวลาเดียวกัน และสิ่งที่เราเขียนนี้มันก็ได้กลายเป็น “อดีตส่วนหนึ่ง” ของเราไปแล้ว

 

3. จุดอื่น ๆ ที่เราชื่นชอบอย่างสุด ๆ ใน ABOUT NARRATION ก็มีเช่น

 

3.1 การวิเคราะห์เทพนิยาย CINDERELLA ที่ทำให้เราได้เห็นพื้นฐานของเรื่องเล่าประเภท “พระเอกร่ำรวย นางเอกสาวสวย” ค่านิยมเรื่อง “เงินตรา” และ “ความงาม” ที่ยังคงส่งผลกระทบอย่างมากต่อสังคมในยุคปัจจุบัน

 

3.2 ชอบเรื่องเล่าเรื่องหญิงสาวปราบ monster มาก ๆ โดยที่เราเองก็ไม่เข้าใจเรื่องเล่านี้ 55555

 

สรุปว่า ABOUT NARRATION เตรียมลุ้นอันดับหนึ่งประจำปีได้เลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

No comments: