THE BUNNY’S TALE (2025, Ratirat Taiyaithiang, 32min, B+ )
หนังมีความน่ารักง้องแง้งดี
และอาจจะเป็นหนังที่เหมาะสำหรับเด็ก
ชอบความพยายามในการสร้างโลกแฟนตาซี/โลกนิทานของหนัง
แต่เสียดายที่เรามีนิสัยตรงข้ามกับตัวละครนางเอกของเรื่องนี้
เราก็เลยไม่อินกับหนังเรื่องนี้เลย ซึ่งสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของหนังนะ
+++
ในที่สุดเราก็อาจจะได้ไปดูหนังบางเรื่องใน
"เทศกาลหนังกวางตุ้ง" นะ ตอนนี้เราวางแผนว่าวันศุกร์ที่ 14 พ.ย.เราอาจจะไปดูเทศกาลหนังกวางตุ้ง ส่วนวันเสาร์กับอาทิตย์ที่ 15-16
พ.ย.เราค่อยดูเทศกาลหนังไต้หวัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า
เราตามเก็บงาน video installations ใน GHOST 2568 ได้ครบหมดทันเวลาหรือเปล่า ถ้ายังเก็บไม่หมด แผนทั้งหมดก็อาจจะเปลี่ยนไป 55555
+++
GOD WILL NOT HELP (2025, Hana Jusic, Croatia, 137min, A+30)
หนังที่ติดอันดับ 10 ของเราในบรรดาหนังทั้งหมด
89 เรื่องที่ได้ดูใน Bangkok International Film Festival 2025
SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
1. ตลกดีที่มีหนัง 3
เรื่องที่เราได้ดูในเทศกาลภาพยนตร์ Bangkok International Film Festival
2025 ปีนี้ ที่นำเสนอตัวละครนางเอกที่เป็น “ผู้หญิงที่รู้สึกผิดบาปกับการกระทำของตนเองมากเกินไป
หรือพยายามหาทางไถ่บาปด้วยวิธีที่รุนแรงจนเกินไป” 55555 โดยหนัง 3 เรื่องนี้ก็คือ
1.1 GOD WILL NOT HELP
1.2 KONTINENTAL’25 (2025, Radu Jude, Romania, A+30)
1.3 THE SUN RISES ON US ALL (2025, Cai Shangjun, China,
A+30)
ซี่งโดยปกติแล้วเรามักจะไม่อินกับตัวละครนางเอกทำนองนี้
แต่เราก็ยังคงชอบหนังทั้ง 3 เรื่องนี้อย่างสุด ๆ อยู่ดี เพราะมันมีอะไรอย่างอื่น ๆ
ในหนังที่เราชอบมาก ๆ
อย่าง KONTINENTAL’25 นี่
ถ้าหากเราเป็นนางเอก เราก็อาจจะไม่รู้สึกผิดบาปอะไรเลยนะ 55555
เพราะฉะนั้นเราก็เลยอาจจะไม่ได้อินกับเธอตรงจุดนี้ แต่หนังเรื่องนี้ก็นำเสนอประเด็นอะไรต่าง
ๆ มากมายที่น่าสนใจในหนัง
ส่วน THE SUN RISES ON US ALL นั้น เรารู้สึกว่านางเอกทำผิดจริงในอดีต เธอเหี้ยจริง แต่ถ้าหากเราเป็นเธอ
เราก็อาจจะไม่ได้พยายามใช้วิธีการไถ่บาปแบบเดียวกับเธอ คือเราคงไม่สามารถทนทำอะไรแบบเดียวกับเธอได้
ส่วน GOD WILL NOT HELP นั้น
หนังไม่ได้บอกเรื่องความผิดบาปของนางเอกตั้งแต่ต้นเรื่อง
เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ได้รู้สึก “มีความเห็นตรงข้าม” กับนางเอกตั้งแต่ต้นเรื่อง
หนังค่อยมาเฉลยช่วงท้ายเรื่องว่านางเอกเคยทำผิดบาปอะไรมาก่อนในอดีต
และเธอพยายามไถ่บาปด้วยวิธีการที่ radical เพียงใด
เหมือนพอหนังใช้วิธีการแบบนี้
มันก็เลยอาจจะช่วยให้เราไม่ได้ดีดตัวออกห่างจากหนังหรือตัวละครนางเอกตั้งแต่ต้นเรื่อง
2. จุดนึงที่เราชอบมากใน GOD WILL NOT
HELP คือช่วงที่ตัวละครพระเอก (ไม่รู้ว่าเรียกแบบนี้ได้หรือเปล่า)
เล่าว่าตอนเด็ก ๆ เขาเคยคุยกับพระเจ้า เคยสื่อสารกับพระเจ้าได้ แต่พอคนอื่น ๆ
พาเขาไป “เข้าโบสถ์” หรือพาเขาไป “คุยกับบาทหลวง” หลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถสื่อสารกับพระเจ้าได้อีกเลย
3. ถึงแม้เราอาจจะไม่ได้เห็นด้วยกับ “ความพยายามในการไถ่บาปของนางเอก”
เพราะเอาจริงแล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเธอทำผิดบาปอะไร เราก็รู้สึกว่า
ตัวละครนางเอกมันน่าสนใจสุด ๆ อยู่ดี เพราะเธอเป็นคนที่ “ตัดสินตัวเองว่าได้ทำบาปไปแล้ว”
และ “พยายามค้นหาวิธีการไถ่บาปด้วยตัวเอง” ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ได้รับการรับรองหรือไม่ได้รับการสนับสนุนจากโบสถ์หรือจากองค์การทางศาสนาใด
ๆ คือเหมือนเธอ “ค้นหาวิธีการหลุดพ้นจากบาป” หรือ “ค้นหาวิธีการหลุดพ้นจากทุกข์”
ด้วยตัวของตัวเอง
คือเธอไม่ใช่ “แม่ชี” หรือ “นักบวชหญิง” หรือ “ผู้ทรงศีล”
ที่ทำตาม “หลักคำสอนทางศาสนา” ที่คนอื่น ๆ ได้เขียนไว้แล้ว ได้กำหนดไว้แล้ว
ได้ทำให้คนหมู่มากเชื่อถือคล้อยตามกันไปแล้ว แต่เธอคือคนที่ “บัญญัติวิธีการพ้นทุกข์”
หรือ “บัญญัติวิธีการไถ่บาป” ด้วยตัวของเธอเอง
4. ฉากจบของหนังเรื่องนี้กราบตีนมาก ๆ ๆ ๆ
ๆๆๆๆๆๆๆ ขอยกให้เป็น ONE OF MY MOST FAVORITE FILM ENDINGS OF ALL TIME ไปเลย
คือเราไม่รู้นะว่าจุดประสงค์ของผู้กำกับคืออะไร
แต่ฉากจบของหนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกราวกับว่า นางเอกนี่แหละ คือ “เจ้าลัทธิ”
คนใหม่ เธอเคยเป็นกะหรี่ เธอเคยเป็นฆาตกรฆ่าคน แต่เธอ “บัญญัติวิธีการไถ่บาปด้วยตัวเอง”
โดยไม่ต้องเชื่อฟังคำสอนทางศาสนาใด ๆ และตอนนี้เธอก็ได้รับ “สานุศิษย์” คนแรกแล้ว
หรือได้รับ “สาวก” คนแรกแล้ว และสานุศิษย์คนแรกของเธอก็เป็น “ฆาตกรหญิง”
เหมือนกันด้วย หนักที่สุดในชีวิตการแสดง กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
คือเรารู้สึกราวกับว่า ฉากจบของหนังเรื่องนี้
ที่เป็นผู้หญิงสองคนลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำ จริง ๆ แล้ว มันคือ “พิธีกรรม” ที่ “ท่านเจ้าลัทธิ”
คนใหม่ ซึ่งเป็นฆาตกรหญิง ต้อนรับ “สานุศิษย์คนแรกของลัทธิ” ซึ่งเป็น “ฆาตกรหญิง”
เหมือนกันน่ะ แต่เราไม่มีความรู้เรื่องศาสนาคริสต์นะ
เราก็เลยไม่สามารถเทียบเคียงได้ว่า ฉากจบของหนังเรื่องนี้มันต้องการพาดพิงถึง
Baptism หรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า อาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ไม่ว่าฉากจบของหนังเรื่องนี้จะมีนัยทางศาสนาหรือไม่ก็ตาม
เราก็รู้สึกว่ามันคล้ายกับ “พิธีกรรมทางศาสนา” มาก ๆ
และในฉากจบของหนังเรื่องนี้
นางเอกได้หันมามองผู้ชมในโรงภาพยนตร์ด้วย เราก็เลยรู้สึกขนลุกซู่มาก ๆ
ราวกับว่าตัวละครนางเอกไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็น “ท่านเจ้าลัทธิ” จริง ๆ
เราก็เลยชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีด
และก็ชอบชื่อหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีดด้วย GOD WILL NOT HELP
No comments:
Post a Comment