Saturday, September 01, 2007

MANUTSAK DOKMAI'S FILMOGRAPHY

I just found out that I had seen another film by Prap Boonpan but had forgotten all about it. This film is called AU IANG HONG: POSTMODERN (2001, 9 min). Prap directed this film together with Watcharapol Dangspha and Porames Sangwongngam. I liked this film only a little bit at that time, because I gave this film only B+. However, I wish I could see this film again. I think this time it is highly likely that I will like it much much more than in 2001.



--PARTIAL FILMOGRAPHY OF PRAP BOONPAN

1.AU IANG HONG: POSTMODERN (2001, Watcharapol Dangspha, Porames Sangwongngam, Prap Boonpan, 9 min)

2.TWO WORLDS IN ONE WORLD (TAWIPOP NAI EKAPOP) (2004, A+)

3.”POLITICAL” MOVIE (NANG GARNMUANG) (2005, 28 min)

4.THE SPECTRE: 16 YEARS LATER (NANG PHEE: 16 PEE HANG KWAMLANG) (2006, A+)

5.LETTER FROM THE SILENCE (JODMAI JAK KWAMNGIAB) (2006, 5.11 min, A+)

6.THE BANGKOK BOURGEOIS PARTY (KWAM LUKLUN NAI NGAN RUENREANG) (2007, 28.51 min, A+)

----------------------------------------------------

Seeing the new film of Manutsak Dokmai (or Manussak Dokmai) in the Thai Short Film Festival 2007 confirms me that he is one of my most favorite Thai directors. So I think I should try to collect some information about him, though his information is hard to find. He is not listed in http://www.imdb.com/ yet.

MANUTSAK DOKMAI’S PARTIAL FILMOGRAPHY

Note: 1. I wrote this partial filmography by myself. It is not complete. I would be very grateful if anyone can provide more information on his works.

2.A lot of information here is from POPCORN magazine, Issue 9, 2005. This Thai magazine has a long and very useful interview with Manutsak Dokmai. This magazine is a must-have for anyone who is a Manutsak fan like me.

The website of this magazine is here:
http://www.popcornmag.com/


3.Most of the English titles here are not the official English titles of his films. I translated these English titles from the Thai titles.

4. The budget of GAY MEGADANCE, DIALOGUE, THE DEVIL RULES METROPOLIS, and MOMENT OF DISTRACTION is about 2 US Dollars (80 baht) per each film. Before Manutsak directed these films, he used to live with only 13 baht a day. He suffered from hunger a lot at that time.


FILMOGRAPHY

1.หลอก (HAUNT) (15 min)

This is a ghost film which Manutsak co-directed with many friends in college.

2.GAY MEGADANCE (2001, 6 min, A+)

3.บทพูด (DIALOGUE) (2001, 7 min, A+)

4.มารเกาะกุมนครหลวง (THE DEVIL RULES METROPOLIS) (2001, 13 min, A+)

5.แตง: เพียงชั่วขณะหนึ่งสภาวะจิตไม่นิ่ง (MOMENT OF DISTRACTION) (2001, 8 min, A+)

6.กรุงเทพ 220 ปี (BANGKOK 220 YEARS) (2002, 7 min)

7.วิธีคิด 1: ทหารลาวขอเปลี่ยนแนวคิดคนไทย (WAY OF THINKING 1: LAOTIAN SOLDIERS WOULD LIKE TO CHANGE THAI PEOPLE’S IDEAS) (2002, 8 min, A+)


8.มารเกาะกุมนครหลวง 2 (THE DEVIL RULES METROPOLIS 2) (2002, 4 min)

9.บทพูด 3: ฆ่าทุนนิยมนั้นไม่บาป (DIALOGUE 3: KILLING CAPITALISTS IS NOT A SIN) (2002, 4 min)

10.ใครกันแน่วะที่หนักแผ่นดิน (WHO IS REALLY THE SCUM OF THE EARTH?) (2003)

11.อย่าลืมฉัน (DON’T FORGET ME) (2003, 10 min, A+)

12.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนายโดม สุขวงศ์ ตอน ภัยเงียบ (THE TRUTH ABOUT MR. DOME SUKAWONG: EPISODE—INVISIBLE THREAT) (2005, 13 min, A+)

13.SO BORED WITH MIDDLE CLASS (2005, 15.39 min)

14.DREAM WATCH FOR ANYONE WHO IS BELIEVED TO VIOLATE GOOD MORALITY (2007, 14 min, A+)


อ่านนิตยสาร POPCORN ที่สัมภาษณ์คุณมานัสศักดิ์ แล้วเจอประโยคนึงที่ชอบสุดๆ

ผู้สัมภาษณ์: แล้วคนทำหนังสั้นที่จะยืนอยู่ได้นาน ต้องเป็นยังไง

มานัสศักดิ์: ต้องมีความจริงใจ ไม่ยอมแพ้ ส่งหนังแม่งตกรอบไปเหอะ แต่ได้ทำเพื่อประกาศความคิดตัวเอง

6 comments:

celinejulie said...

มาเพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงค่ะว่า หนังเรื่อง SO BORED WITH MIDDLE CLASS มีชื่อภาษาไทยว่า "ไม่มีภาคกลาง เพราะเบื่อชนชั้นกลาง"

Anonymous said...

พี่ครับ อ่านบทสัมภาษณ์พี่โต้งต่อได้ที่ไหนอ่ะพี่
popcornmag นี่เล่มไหน ยังไงอ่ะครับ

celinejulie said...

มันคือนิตยสาร POPCORN ที่เคยวางแผงขายเมื่อ 2 ปีก่อนน่ะค่ะ หน้าปก SWING GIRLS ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตอนนี้ยังติดต่อขอสั่งซื้อจากที่ไหนได้อีกหรือเปล่า

แต่เอาเป็นว่าพี่จะซีร็อกซ์บทสัมภาษณ์คุณมานัสศักดิ์ส่งทางไปรษณีย์ไปให้น้องเต๋อแล้วกันนะจ๊ะ ที่อยู่ของน้องเต๋อเหมือนที่ลงไว้ในสูจิบัตรของเทศกาลหนังสั้นใช่มั้ย

ดีใจมากๆที่มีคนสนใจคุณมานัสศักดิ์ :-)

Anonymous said...

พี่ครับ ขอบคุณมากเลยเรื่องซีร็อกซ์บทสัมภาษณ์พี่โต้ง
ผมฝากพี่ติดไปงาน digital forum วันฉาย คนตัดหญ้าได้ไหมครับ จะได้ไม่ต้องลำบากส่งจ่ะพี่
(เอ.. พี่ไปรึเปล่าหนอ)

Anonymous said...

เรียนคุณ Mds

ขอบคุณมากเลยครับ ที่ช่วยกรุณาเรียบเรียงรายชื่อหนังสั้นที่ผมเคยทำส่งเข้าประกวดในงานของมูลนิธิหนังไทย จนทำให้ผมรู้สึกอาย ๆ เหมือนกัน ที่ไม่สามารถจะรวบรวมข้อมูลหนังสั้นของตัวเองได้ละเอียดขนาดนี้

สำหรับ "หนังสั้น" เรื่อง "อาวเอี้ยงฮง โพสต์โมเดิร์น" ก็เป็น "หนังสั้น" ที่ผมแทบจะลืมไปเลยครับ มันเป็นงานที่ผมทำร่วมกับเพื่อนสมัยมัธยมฯ แต่จริง ๆ แล้ว ผมเป็นแกนหลักในการทำ ซึ่งสำหรับผมแล้ว มันเป็นงานที่แย่มากจริง ๆ และก็อาจถือเป็น "หนังสั้น" ที่มีความเชื่อมโยงกับ "หนังสั้น" เรื่องต่อ ๆ มาของผมน้อยมาก เพราะมันเป็น "หนังสั้น" ที่ผมทำขึ้น ในช่วงรอยต่อระหว่างการเป็นนักเรียนมัธยมฯกับการเป็นนักศึกษาปี 1 ซึ่งขณะนั้น ผมยังมีความคิดที่ฟุ้งซ่านไม่เป็นระบบนัก และที่สำคัญก็คือ มันเป็น "หนังสั้น" ที่ผมทำขึ้นก่อนที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญขึ้นในระบบความคิดของตนเอง โดยความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะปรากฏให้เห็นใน "ทวิภพในเอกภพ" เป็นต้นมา
ส่วน "หนัง "การเมือง"" นั้น มันก็เป็น "หนังสั้น" ที่ผมรู้สึกไม่ค่อยชอบและไม่ค่อยสนุกกับมันเท่าใดนัก ในขณะจัดทำ และมันก็เป็น "หนังสั้น" ที่ถูกทำขึ้นอย่างลวกมาก ๆ เพราะช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่ผมยังทำงานประจำเป็นนักข่าว และไม่มีเวลามากพอที่จะปลีกเวลามาทำหนังสั้นได้ ผมจึงนำภาพนิ่งที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่นักจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ่ายเก็บไว้ขณะตามทำข่าวพรรคประชาธิปัตย์ไปหาเสียงในภาคอีสาน มาเรียงร้อยกันอย่างทื่อ ๆ แล้วคลอไปด้วยเสียงสนทนาในประเด็นเรื่อง "การเลือกตั้ง" ระหว่าง คุณชาย ไชยชิต และ คุณเทวพงษ์ พ่วงเพ็ชร เพื่อนของผมในสมัยเรียนปริญญาตรี ซึ่งถูกอัดขึ้นเพื่อนำไปเขียนเป็นสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับความคิดเห็นของนักเรียนรัฐศาสตร์สองคนที่มีต่อการเลือกตั้ง (หนที่ พรรคไทยรักไทยชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลสมัยที่2)
อย่างไรก็ตาม พอมานั่งนึกย้อนหลัง ผมก็รู้สึกว่า "หนังสั้น" เรื่องนี้มีความน่าสนใจอยู่เหมือนกัน ตรงที่มันเป็นการบันทึกช่วงชีวิตช่วงหนึ่งของตนเอง หรือเป็นการบันทึกประสบการณ์พิเศษช่วงหนึ่งในชีวิต อย่างน้อย นั่นก็ถือเป็นครั้งล่าสุด ที่ผมได้มีโอกาสเดินทางไปในหลายจังหวัดของภาคอีสานตอนล่าง


แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเหมือนกันครับ ที่ผมได้ทำม้วนมาสเตอร์ที่เป็นม้วนเทป Hi8 ของ "อาวเอี้ยงฮงฯ" หายไปเสียแล้ว ขณะเดียวกัน เมื่อครั้งที่ผมทำ "หนัง "การเมือง"" ผมก็ทำงานอย่างลวก ๆ ถึงขนาดที่ทำม้วนมาสเตอร์เพียงม้วนเดียว แล้วส่งม้วนมาสเตอร์ดังกล่าวไปให้มูลนิธิหนังไทยทันที โดยไม่คิดจะทำ copy เก็บไว้กับตัวเอง ด้วยเงื่อนไขทางด้านเวลาที่มีอยู่ไม่มากนัก (ซึ่งก็คล้าย ๆ กับกรณีของ "จดหมายจากความเงียบ" ที่ผมทำม้วนมาสเตอร์ไว้เพียงม้วนเดียว และส่งไปให้ทางมูลนิธิหนังไทย โดยที่ไม่มีม้วนเทปของหนังเรื่องดังกล่าวเก็บไว้กับตนเอง)ซึ่งเมื่อมาคิดทบทวนดูแล้ว ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนทำ "หนังสั้น" ที่เป็น มือสมัครเล่นที่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าใดนัก 555

นอกจากนี้ ผมยังเคยทำ "หนังสั้น" ส่งเข้าประกวดในงานแฟต ฟิล์ม ช่วงแรก ๆ อยู่ประมาณ 3 ครั้งครับ (นับรวมกับการประกวดหนังตลก)แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองทำ "หนังสั้น" เหล่านั้นได้ไม่ค่อยดีนัก (ไม่หนักแน่นเท่ากับ "หนังสั้น" ที่ทำส่งเข้าประกวดในงานของมูลนิธิหนังไทย ด้วยเงื่อนไขข้อจำกัดจำนวนหนึ่ง) และก็ไม่มีงานเหล่านั้นเก็บไว้กับตัวเองอีกเช่นเคย



อย่างไรก็ตาม ผมกำลังคิดที่จะไปขอ copy "หนังสั้น" จำนวนหนึ่งของตนเอง ที่ทางมูลนิธิหนังไทยได้จัดเก็บไว้ มารวบรวมเป็นดีวีดีครับ แต่ยังไม่แน่ใจนักว่า จะเป็นงาน "หนังสั้น" ทุกเรื่องที่เคยส่งเข้าประกวดกับมูลนิธิ หรือจะเลือกเอาเฉพาะงานที่ตนเองรู้สึกพอใจเพียงเท่านั้น



นอกจากนี้ ตอนนี้ผมกับคุณชาย ไชยชิต ได้จัดทำเว็บล็อกชื่อ http://agonisticfilm.exteen.com ขึ้นมา เพื่อจะสนทนาตอบกับความคิดเห็นที่คนดูจำนวนหนึ่งมี่ต่อ "หนังสั้น" ของพวกเราครับ
โดยผมจะเริ่มเขียนบทความเกี่ยวกับ "ความลักลั่นของงานรื่นเริง" ลงในเว็บล็อกดังกล่าวในวันจันทร์หน้า



ขอบคุณครับ

celinejulie said...

ขอบคุณคุณปราปต์มากๆค่ะสำหรับข้อมูล ขออนุญาตนำข้อมูลของคุณปราปต์ไปแปะในเว็บบอร์ด BIOSCOPE ด้วยนะคะ เผื่อมีคนอื่นๆที่สนใจข้อมูลเหล่านี้