Thursday, October 19, 2023

THE EXORCIST: BELIEVER

 Films seen in the 35th week of the year 2023 (27 Aug -- 2 Sep)


1.TOP SPOT (2004, Tracey Emin, UK, A+30)

2.MY DONKEY, MY LOVER & I (2020, Caroline Vignal, France, A+30)

3.GRAN TURISMO (2023, Neill Blomkamp, USA/Japan, A+30)

4.WHERE THE WIND BLOWS (2022, Philip Yung, Hong Kong/China, A+30)

5.COBWEB (2023, Samuel Bodin, A+30)

6.CONCRETE UTOPIA (2023, Eom Tae-hwa, South Korea, A+30)

7.TEENAGE MUTANT NINJA TURTLES: MUTANT MAYHEM (2023, Jeff Rowe, Kyler Spears, animation, A+30)

8.MAN SUANG แมนสรวง (2023,  Ning Bhanbhassa Dhubtien, Chatchai Ketnust, Pond Krisda Witthayakhajorndet, A+25)

9.TOKYO REVENGERS 2: BLOODY HALLOWEEN -- DECISIVE BATTLE (2023, Tsutomu Hanabusa, Japan A+25)

10.POSTMAN ไปรษณีย์ 4 โลก (2023, Prueksa Amaruji, A+)

สรุปว่าใน 35 สัปดาห์แรกของปี เราดูหนังไปแล้ว 571+ 10 = 581 เรื่อง แต่เป็นหนังสั้นหลายเรื่อง

---
ฉันรักเขา Nuno Lopes from EVERYBODY LOVES JEANNE (2022, Celine Devaux, France, A+30), BLOOD OF MY BLOOD (2011, Joao Canijo, Portugal, A+30), ALICE (2005, Marco Martins, Portugal)
---

เราพยายามจะแกะปลั๊กไฟออกจากกล่องพลาสติก ปรากฏว่าถูกคมกล่องพลาสติกบาดเลือดอาบ พอเกิดเหตุการณ์นี้แล้วก็เลยอยากให้มีคนแต่งเรื่องราวปริศนาฆาตกรรมที่มีตัวละครใช้คมกล่องพลาสติกเป็นอาวุธประจำตัว

---
นึกถึงตัวเองที่คลั่งไคล้ Tom Cruise อย่างสุดขีดมาก ๆ ตอนที่เราอายุราว 14 ปี เราก็เลยตัดสินใจออกไปดูหนังโรงคนเดียวเป็นครั้งแรก ๆ ของชีวิต ด้วยการออกไปดูหนังเรื่อง THE COLOR OF MONEY (1986, Martin Scorsese) ที่โรงหนังฮอลลีวู้ด ผลก็คือว่า นอกจากเราจะได้สนองตัณหาของตัวเองด้วยการดู Tom Cruise อย่างเต็มอิ่มแล้ว เราก็เลยหลงใหลภาพยนตร์ของ Martin Scorsese ไปด้วย และก็เลยออกไปดู THE COLOR OF MONEY ถึงสองรอบ และหลงใหลในการชมภาพยนตร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คือถ้าหากเราไม่บ้าความหล่อของ Tom Cruise ในตอนนั้น ตอนนี้เราก็คงไม่ได้ cinephile ในปัจจุบัน 55555
----
RIP DARIUSH MEHRJUI

ตกใจกับข่าวการสังหารโหด Dariush Mehrjui มาก ๆ หนักมาก ๆ น่ากลัวที่สุด

เราเคยดูหนังของเขาในโรงภาพยนตร์แค่ 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ THE PEAR TREE (1998) ตอนที่หนังมาฉายที่ศาลาเฉลิมกรุง กับ BAANOO (1992) ตอนที่หนังมาฉายที่ห้างเอ็มโพเรียม

ชอบหนังของเขามาก ๆ จำได้ว่าหนัง 2 เรื่องนี้โดดเด่นแตกต่างจากหนังอิหร่านดัง ๆ ในยุคเดียวกันมาก ๆ เพราะหนังอิหร่านดัง ๆ ยุคนั้นมันเป็นหนังเกี่ยวกับ "เด็กยากจน สู้ชีวิต ตามหาสิ่งของ"  อะไรทำนองนี้ แต่  THE PEAR TREE เป็นหนังโรแมนติกคนรวยปัญญาชน ส่วน BAANOO นั้นเป็นเรื่องของสาวรวยที่พยายามช่วยเหลือคนจน แต่กลับถูกกลุ่มคนจนทรยศอย่างรุนแรง นึกว่าต้องปะทะกับ  VIRIDIANA (1961, Luis Bunuel)

อยากให้มีคนจัด  retrospective ของ Dariush Mehrjui  มาก ๆ

https://abcnews.go.com/Entertainment/wireStory/noted-iranian-film-director-wife-found-stabbed-death-103988652
---
SLEEP (2023, Jason Yu, South Korea, A+30)

Spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
1.เป็นหนังที่เนื้อเรื่องผิดไปจากที่เราคาดไว้มาก ๆ เพราะเมื่อราว 20 ปีก่อน เราเคยดูหนังเรื่อง THE SLEEPWALKER KILLING (1997, John Cosgrove, A+25) ที่นำแสดงโดย Hilary Swank และสร้างจากคดีจริง ๆ ของผู้ชายคนหนึ่งที่ละเมอ ขับรถไปที่บ้านของพ่อตาแม่ยาย (ถ้าเราจำไม่ผิด) แล้วพอพ่อตาแม่ยายพยายามจะปลุกเขาให้ตื่นจากการละเมอ เขาก็บันดาลโทสะขณะละเมอ ฆ่าแม่ยายตาย และพยายามจะฆ่าพ่อตาด้วย แต่พ่อตารอดมาได้แต่ก็บาดเจ็บสาหัส

คือเรื่องมันเหลือเชื่อมากว่าคนละเมอจะทำอะไรทั้งหมดนี้ได้ แต่เหมือนนักวิทยาศาสตร์กับแพทย์ช่วยกันตรวจคลื่นสมองของผู้ชายคนนี้ และทำการพิสูจน์ต่าง ๆ จนศาลตัดสินให้ผู้ขายคนนี้พ้นผิดในที่สุด

เราจำได้ว่า THE SLEEPWALKER KILLING เป็นหนังที่ธรรมดามาก ๆในแง่การกำกับ แต่เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ที่สร้างจากเหตุการณ์จริง ถือเป็นเนื้อเรื่องที่เราลืมไม่ลงจริง ๆ

2. เพราะฉะนั้น ตอนเราดู SLEEP เราก็เลยเดาในช่วงต้นของหนังว่า

2.1 หนังอาจจะดำเนินเรื่องแบบเดียวกับ THE SLEEPWALKER KILLING ด้วยการให้พระเอกลุกขึ้นมาฆ่าคนตายตอนละเมอ โดยไม่รู้ตัว แล้วนางเอกต้องพยายามหนีเอาตัวรอด

2.2 หนังอาจจะพลิกไปอีกขั้นหนึ่ง ด้วยการให้พระเอกละเมอฆ่าคนตาย แล้วศาลตัดสินให้พ้นผิด แล้วหนังค่อยมาเฉลยภายหลังว่าพระเอกแสร้งละเมอแต่จริง ๆ แล้วเขาฆ่าคนตายโดยเจตนา

3. แต่ปรากฏว่าเราคาดผิดหมด หนังเรื่อง SLEEP ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคาด คือในความเห็นของเรานั้น พระเอกคงละเมอจริง แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในหนังกลับกลายเป็น "ความกลัว"  ของนางเอก ที่ทำให้เธอกลายเป็นบ้า และในที่สุดพระเอกก็เลยต้องใช้ความสามารถทางการแสดงของตัวเองในการเอาตัวรอดในที่สุด
---
Favorite Actress: Blanche Gardin from EVERYBODY LOVES JEANNE (2022, Celine Devaux, A+30),  FRANCE (2021, Bruno Dumont, A+30), # Iamhere (2019, Eric Lartigau)

ชอบมาก ๆ ที่เพื่อนคนนึงเขียนว่า บทของเธอใน FRANCE คือ "ตัวชิบหาย"

อยากเห็นเธอปะทะกับ Valerie Lemercier มาก ๆ
---
Favorite Actress: Laure Calamy from MY DONKEY, MY LOVER & I (2020, Caroline Vignal), FULL TIME (2021, Eric Gravel), ANNIE COLERE (2022, Blandine Lenoir)

หนึ่งในนักแสดงที่เปรี้ยงที่สุดสำหรับเราในปีนี้ กราบตีนการแสดงของเธอที่สุด เราคิดว่าทั้ง Laure Calamy, India Hair และ Blanche Gardin นี่ สามารถเทียบชั้นกับ Sally Field และ Emily Watson ได้เลย ถ้าหากพวกเธอได้บทดี ๆ ต่อไป เพราะนักแสดงฝรั่งเศสทั้ง 3 คนนี้เล่นหนังเก่งสุด ๆๆๆๆๆ และเหมือนทั้งสามดูมีความติดดินบางอย่าง ไม่ใช่นักแสดงที่ "สวย เซ็กซี่" แบบ Lea Seydoux (แต่เราก็ชอบ Seydoux มาก ๆ นะ)   เราก็เลยนึกถึง Sally Field กับ Emily Watson

การแสดงของ Laure Calamy ใน MY LOVER, MY DONKEY & I   นี่เราขอยกให้เป็นน้อง ๆ ของการแสดงของ Marie Riviere ใน THE GREEN RAY (1986, Eric Rohmer) เลย

ก็เลยขอปวารณาตัวเป็นสาวกของ Laure Calamy, India Hair และ Blanche Gardin ตั้งแต่ปีนี้ค่ะ
---
Favorite Actress: Ann Dowd from THE EXORCIST: BELIEVER (2023, David Gordon Green, A+30)

Spoilers alert
--
--
--
--
--
--
--
--
--
--
(Copy มาจากที่เขียนตอบคุณ Chalat ในโพสท์ก่อน)

โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบตัวละครของ Ann Dowd ใน THE EXORCIST: BELIEVER อย่างรุนแรงสุดขีด เพราะเป็นตัวละครที่เริ่มต้นจากการเป็นป้าข้างบ้านที่ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ จนกลายมาเป็นตัวละครที่ลุกขึ้นท้าสู้ผีนรกอย่างรุนแรงในช่วงท้าย และเธอเป็นตัวละครที่ “มีปมทางจิตอย่างรุนแรงในอดีต” และกลายมาเป็นคนที่ “พยายามมองว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตัวเองอาจจะเป็นสิ่งที่มีความหมายบางอย่าง” ซึ่งเรา identify ตัวเองกับจุดนี้อย่างรุนแรงมาก เพราะเราก็มองว่าตัวเองอาจจะไม่มีคุณค่าในการดำรงชีวิตอยู่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามมองว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตัวเองอาจจะช่วยยืนยันได้ว่า เรามีคุณค่าที่จะมีชีวิตอยู่
---
Favorite actress -- Yum Jung-ah from SMUGGLERS (2023, Ryu Seung-wan, South Korea, A+30)
---
Favorite actress -- Kim Hye-soo from SMUGGLERS (2023, Ryu Seung-wan, South Korea, A+30)
---
IJO MIMO (2019, Ayrson Heraclito, Brazil, video installation, 6 min, A+30)

เหมือนเป็นการเต้นระบำในพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ชอบมากที่ผู้กำกับบอกว่า เขาไม่ separate ART กับ  RELIGION ออกจากกัน นึกว่าการเต้นรำใน video นี้สามารถนำมาใช้ในหนังชุด THE EXORCIST ได้ โดยมาเพื่อปะทะกับตัวละคร Doctor Beehibe (Okwui Okpokwasili) ใน THE EXORCIST: BELIEVER (2023, David Gordon Green, A+30)

ก่อนหน้านี้เราได้ดูหนังของ Onyeka Igwe ที่นำเสนอการเต้นรำของชนพื้นเมืองเหมือนกัน แต่ Onyeka นำเสนอมันเพื่อใช้ในการวิพากษ์วิจารณ์สายตาของคนขาว การเต้นรำในหนังของเธอก็เลยไม่ได้ดู "ขลัง" หรือมี "พลังลึกลับ" แบบในหนังของ Ayrson Heraclito

จัดแสดงที่ Jim Thompson
---
เพิ่มเติมรายชื่อหนังที่มีเนื้อเรื่องใกล้เคียงกัน และออกฉายในเวลาใกล้เคียงกันโดยบังเอิญ

33.ROGUE (2007, Greg McLean, Australia)
+ PRIMEVAL (2007, Michael Katleman)
คู่หนังจระเข้ยักษ์

34.HI, AI (2019, Isabella Willinger, Germany, documentary)
+ ROBOLOVE (2019, Maria Arlamovsky, Austria, documentary)
คู่หนังสารคดี AI ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ romantic  ระหว่างมนุษย์กับ AI

35. SIMULANT (2023, April Mullen, Canada)
+ THE CREATOR (2023, Gareth Edwards)
+ MARS EXPRESS (2023, Jeremie Perin, France, animation)
หนัง 3 เรื่องที่พูดถึงบุคคลสำคัญที่จะมาปลดปล่อย AI จากการถูกควบคุมโดยมนุษย์

36. A VISUAL HISTORY OF THE WORLD TRADE CENTER (2020, Monty Diamond, USA, documentary)
+ MISTY PICTURE (2021, Matthias Muller, Christoph Girardet, Germany)
คู่หนัง found footage ของตึก World Trade Center

37. CLOSE (2022, Lukas Dhont, Belgium)
+ MONSTER (2023, Hirokazu Koreeda, Japan)

38. STRAYS (2023, Josh Greenbaum)
+ DARKDOG LOCKDOWN คุณตูบสายดาร์ก ปิดเมืองกัด (2023, Tumm Kronkan)
คู่หนังกลุ่มหมาผจญภัย

39. THE COVENANT (2023, Guy Ritchie, UK)
+ KANDAHAR (2023, Ric Roman Waugh)
คู่หนังทหารฝรั่ง + interpreter ใน Afghanistan

40. ALIVE DRIFT (2022, Ten Shimoyama, Japan)
+ GRAN TURISMO (2023, Neill Blomkamp)

41. KORO (2022, Karan Wongprakarnsanti)
+ POPURAN (2022, Shinichiro Ueda, Japan)

----
THE EXORCIST: BELIEVER (2023, David Gordon Green A+30)

เรารู้สึกว่ามัน treat ตัวละครเป็นมนุษย์มากกว่าหนัง horror โดยทั่วไปในยุคนี้น่ะ โดยเฉพาะหนังไล่ผีในยุคนี้ทั้งของ Hollywood และแม้แต่หนังไทยอย่าง “ของแขก” ที่การดำรงอยู่ของตัวละคร, ฉากต่าง ๆ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ในหนังเหมือนมีจุดประสงค์เพื่อมอบความสนุกสนานตื่นเต้นลุ้นระทึกให้ผู้ชมเป็นหลัก แต่ THE EXORCIST: BELIEVER มันทำให้เรารู้สึกว่าการดำรงอยู่ของตัวละครในหนังมันค่อนไปในทางเป็นมนุษย์จริง ๆ มากกว่าดำรงอยู่เพื่อสร้างความลุ้นระทึกตื่นเต้นสนุกสนานให้ผู้ชม จบ 55555

และโดยส่วนตัวแล้ว เราก็ชอบตัวละครของ Ann Dowd ใน THE EXORCIST: BELIEVER อย่างรุนแรงสุดขีดด้วย เพราะเป็นตัวละครที่เริ่มต้นจากการเป็นป้าข้างบ้านที่ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ จนกลายมาเป็นตัวละครที่ลุกขึ้นท้าสู้ผีนรกอย่างรุนแรงในช่วงท้าย และเธอเป็นตัวละครที่ “มีปมทางจิตอย่างรุนแรงในอดีต” และกลายมาเป็นคนที่ “พยายามมองว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตัวเองอาจจะเป็นสิ่งที่มีความหมายบางอย่าง” ซึ่งเรา identify ตัวเองกับจุดนี้อย่างรุนแรงมาก เพราะเราก็มองว่าตัวเองอาจจะไม่มีคุณค่าในการดำรงชีวิตอยู่เหมือนกัน แต่เราก็พยายามมองว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตัวเองอาจจะช่วยยืนยันได้ว่า เรามีคุณค่าที่จะมีชีวิตอยู่

--'
เราเข้าใจผิดมาตลอดว่า หนัง GTH ที่เราชอบที่สุด คือ "คืนไร้เงา" ONE NIGHT HUSBAND (2003, Pimpaka Towira) แต่พอดูข้อมูลใน wikipedia เราถึงเพิ่งรู้ว่า ONE NIGHT HUSBAND เป็นหนัง GMM PICTURES แต่ไม่ใช่หนัง GTH และถ้าหากยึดตาม wikipedia หนัง GTH ที่เราชอบที่สุดก็คือ TROPICAL MALADY (2004, Apichatpong Weerasethakul) แต่เราก็เพิ่งรู้จาก wikipedia เนี่ยแหละ ว่า TROPICAL MALADY เป็นหนัง GTH
https://en.m.wikipedia.org/wiki/GMM_Tai_Hub

EDIT เพิ่ม: อันนี้คือตามที่ WIKIPEDIA ภาษาอังกฤษบอกนะ ซึ่งก็อาจจะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น เราก็ไม่รู้จ้ะ แต่อ่านเพิ่มเติมจากที่เพื่อน ๆ มา comments กันได้นะ ขอบคุณทุก ๆ comments ที่มาช่วยให้ข้อมูลมาก ๆ จ้า

----
อยากเห็นหนังเกี่ยวกับชีวิตคนทำนิตยสาร "สวิตา", "ชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์", "มิติที่ 4", "สตรีสาร", "สกุลไทย", "หนังและวิดีโอ" เหมือนตอนนี้นิตยสารที่เราเคยซื้อในวัยเด็กและยังคงมีชีวิตอยู่เหลืออยู่แค่ "ต่วย'ตูนพิเศษ"

ดีใจสุดขีดที่นิตยสาร ต่วย’ตูนพิเศษยังคงมีชีวิตอยู่มาถึงปัจจุบัน และอยู่มาได้นาน 49 ปีแล้ว เพราะเรารักนิตยสารนี้มาก ๆ ในวัยเด็ก และยังคงนึกถึงนิตยสารนี้อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะตอนที่ดูหนังเรื่อง INDIANA JONES AND THE DIAL OF DESTINY (2023, James Mangold, A+30) และ DORAEMON THE MOVIE: NOBITA’S SKY UTOPIA (2023, Takumi Doyama, Japan, animation, A+30) ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เราชอบหนังสองเรื่องนี้ในระดับ A+30 ก็เป็นเพราะว่าหนังสองเรื่องนี้มันทำให้นึกถึงนิตยสารต่วย’ตูนพิเศษนี่แหละ เพราะว่า INDIANA JONES มันพูดถึงอุปกรณ์ลึกลับจากยุคโบราณที่เรียกว่า Antikythera ซึ่งเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และเราเคยอ่านบทความเกี่ยวกับความลึกลับของวัตถุนี้จากต่วย’ตูนพิเศษ ส่วน SKY UTOPIA มันพูดถึงความเชื่อเรื่อง “เมืองลอยฟ้า” ซึ่งเราร้องกรี๊ดสุด ๆ เพราะเราจำได้ว่าเมื่อราว 40 ปีก่อนต่วย’ตูนพิเศษเคยลงบทความเกี่ยวกับบันทึกจากยุโรปยุคกลาง ที่มีประชาชนบอกว่าเห็นก้อนเมฆลอยมา แต่มีปราสาทอยู่บนก้อนเมฆ และมีผู้คนมากมายเต้นรำกันอยู่บนก้อนเมฆนั้นขณะที่ก้อนเมฆลอยผ่านไป คือบทความนั้นจากต่วย’ตูนพิเศษทำให้เราชอบ “จินตนาการภาพ” ตามบันทึกของประชาชนในยุโรปยุคกลางมาก ๆ แต่เราก็ไม่เห็นมีใครเอาบันทึกนี้มาสร้างเป็นหนังมาก่อน จนกระทั่งได้ดู DORAEMON THE MOVIE: NOBITA’S SKY UTOPIA นี่แหละ

---
จำได้ว่าเคยนัดเจอกับเพื่อนที่อนุสาวรีย์ชัย หน้าห้างโรบินสัน ตอน ตี 5 ก่อนไปสอบรด.ภาคสนามในช่วงต้นปี 1990 ซึ่งเราก็ไม่เคยไปอนุสาวรีย์ชัยตอน ตี 5 มาก่อน พอเราไปถึงอนุสาวรีย์ เจอเพื่อนรออยู่ เพื่อนก็พูดว่า "อนุสาวรีย์ชัยไม่เคยหลับ" เพราะบรรยากาศตอนตี 5 ที่อนุสาวรีย์ชัยมันคึกคักกว่าที่คาดจริง ๆ

ส่วนหนังที่คุณเอกราชพูดถึง เข้าใจว่าเป็นหนังเรื่อง THE INSIDE (2010) ที่ใช้  LOCATION ที่อนุสารีย์ชัยได้ดีมาก ๆ (ลิงค์ดูหนังอยู่ใน COMMENT)
---
THE PATH (2009, Vasco Araujo, Portugal, video installation, 13min, A+30)

จัดแสดงที่ Jim Thompson นะ
---
Favorite Actress: Du Juan   from WHERE THE WIND BLOWS (2023, Philip Yung, China/Hong Kong A+30)
---
พออ่านข่าวว่า กลุ่ม Hamas บุกเข้ามาในอิสราเอลโดยใช้ hang gliders เราก็นึกถึงหนังเรื่อง IMMORTAL SPECIES อมตะพันธุ์สยอง (2023, Jetniphat Sasing, A+) ขึ้นมาในทันที
---

FILMS SEEN IN THE 34TH WEEK OF THE YEAR 2023 (20 - 26 AUG)

1.BEATRIX (2021, Milena Czernovsky, Lilith Kraxner, Austria, A+30)

2.FULL TIME (2021, Eric Gravel, France, A+30)


3.TRIP AFTER (2022, Ukrit Sa-nguanhai, short film,A+30)

4.GARDEN OF CLAY (2022, Martin Sagadin, New Zealand, short film, A+30)

5.THE MOON (2023, Kim Yong-hwa, South Korea, A+30)

6.AND THE CREEPER KEEPS ON REACHING FOR THE FLAME TREE (2022, Sriwhana Spong, New Zealand, short film, A+30)

7.SOUTH SENTINEL (2021, Mathieu Gerault, France, A+30)

8.SUCH GREAT HEIGHTS -- THE POSTAL SERVICE (2003, Josh & Xander, music video, A+30)

9.PULL MARINE -- ISABELLE ADJANI (1984, Luc Besson, France, music video, A+30)

10.EPIFANIA (2022, Edith Amituanai, New Zealand, short film, A+30)

11.BELLE AND SEBASTIEN: THE NEW GENERATION (2022, Pierre Core, France, A+25)

12.SIMULANT (2022, April Mullen, Canada, A+15)

13.DREAM GIRL 2  (2023, Raaj Shaandilyaa, India, F)

สรุปว่า ใน 34 สัปดาห์แรกของปี เราดูหนังไปแล้ว 558 + 13 = 571 เรื่อง แต่เป็นหนังสั้นหลายเรื่อง
---

No comments: