ช่วง แม่หมีสอนลูกหมี เรื่อง “ตำนานเจ้าแม่กีสะเดิด”
เมื่อวันก่อนลูกหมีเห็นคลิป “พิธีกรรมบูชาเจ้าแม่กีสะเดิด
ที่เกาะวามปี” ใน Facebook ของแม่หมี
ลูกหมีก็เลยถามแม่หมีว่า
“เจ้าแม่กีสะเดิดเป็นใครเหรอครับ
หนูเคยอ่านหนังสือ MYTHOLOGY ของ Edith Hamilton แล้ว ไม่เห็นหนังสือเล่มนี้เคยเอ่ยถึงเจ้าแม่กีสะเดิดเลยครับ หนูเคยอ่านนิตยสาร
ต่วย’ตูน พิเศษ ตั้งหลายฉบับ ก็ไม่เคยเห็นนิตยสารเล่มนี้
เอ่ยถึงเจ้าแม่กีสะเดิด เหมือนกัน”
แม่หมีก็เลยเล่าเรื่องตำนาน “เจ้าแม่กีสะเดิด”
ให้ลูกหมีฟังคร่าว ๆ ดังนี้
“คือเจ้าแม่กีสะเดิด เป็นเจ้าแม่ที่ชาวเกาะวามปีนับถือบูชากันมาก
ๆ จ้ะ แต่คนในพื้นที่อื่น ๆ เขาไม่ค่อยรู้จักเจ้าแม่องค์นี้กัน แต่ชาวเกาะนี้และนักท่องเที่ยวจากหลาย
ๆ ประเทศเขาเชื่อกันว่า เจ้าแม่องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ จ้ะ”
“ตำนานที่จารึกไว้ในสุสานโบราณที่ค้นพบในเกาะแห่งนี้
เล่าว่า เจ้าแม่องค์นี้เป็นที่มาของปรากฏการณ์ธรรมชาติหลาย ๆ อย่างบนโลกนี้จ้ะ
อย่างเช่น
1. เจ้าแม่องค์นี้มีผัวอยู่ในหลาย ๆ ทวีปบนโลก
และเธอชอบเอาลิ้นลอดใต้มหาสมุทรไปเลียผัวตามทวีปต่าง ๆ เพราะฉะนั้นคนโบราณก็เลยเชื่อกันว่า
การที่เธอเอาลิ้นลอดใต้มหาสมุทรไปเลียผัวแบบนี้ มันเลยเป็นต้นเหตุทำให้ “ทะเลมีคลื่น”
จ้ะ
2. เจ้าแม่องค์นี้ชอบเอา “น้ำของผัว” ไปต้มในหม้อต้มใหญ่ให้สุกจนเดือดพล่านเพื่อเอามาใช้เป็นน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวเจ้าแม่
และคนโบราณก็เลยเชื่อกันว่า การที่เจ้าแม่กีสะเดิดทำแบบนี้ ก็เลยเป็นที่มาของปรากฏการณ์
ภูเขาไฟระเบิดจ้ะ เพราะจริง ๆ แล้ว ภูเขาไฟก็คือหม้อต้มของเจ้าแม่ และลาวาก็คือ
น้ำของผัวเจ้าแม่ที่เดือดพล่านทะลักออกมาจากหม้อต้ม จ้ะ
3. ผัวของเจ้าแม่มีจำนวนมากมายมหาศาลยิ่งนัก
และมีอยู่ในดาวหลาย ๆ ดวงด้วย วันหนึ่งเจ้าแม่ก็เลยอยากจัดงานแข่งขันกีฬาให้กับบรรดาผัว
ๆ ของเจ้าแม่ แต่พบว่า ไม่มีสนามกีฬาและอัฒจันทร์แห่งใดบนโลกนี้ที่สามารถบรรจุผัวของเจ้าแม่ได้หมดเลย
เจ้าแม่ก็เลยต้องเอาผัว ๆ ของเจ้าแม่ไปแข่งขันกีฬาสีกันที่ดาวพฤหัสบดีจ้ะ
เพราะดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยจักรวาล แล้วก็เกิดปัญหาว่า
แล้วจะมีอัฒจันทร์ที่ไหนที่ใหญ่พอล่ะ เจ้าแม่ก็เลยสร้าง “วงแหวนดาวพฤหัสบดี”
ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นอัฒจันทร์ในการชมกีฬาสีของผัว ๆ ของเจ้าแม่จ้ะ คนโบราณเขาเชื่อกันว่า
ที่ดาวพฤหัสบดีมีวงแหวนก็เพราะสาเหตุแบบนี้แหละจ้ะ คือเพื่อใช้เป็นอัฒจันทร์ในการชมกีฬาสีของผัว
ๆ ของเจ้าแม่กีสะเดิด”
แล้วลูกหมีก็ถามแม่หมีว่า “ที่บอกว่าเจ้าแม่กีสะเดิดมีผัวจำนวนมากนี่
เจ้าแม่มีผัวกี่คนเหรอครับ”
แม่หมีก็เลยตอบว่า “ตำนานโบราณได้ให้คำตอบของเรื่องนี้ไว้ด้วยจ้ะ
เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าแม่กีสะเดิดกับ “เทพธิดามาเหม่ย”
ซึ่งเป็นคู่อริของเจ้าแม่ ต่อสู้ปะทะกันอย่างรุนแรง แล้วเจ้าแม่กีสะเดิดพลาดท่าเสียที
จะถูกเทพธิดามาเหม่ยทำร้าย แต่ผัว ๆ ของเจ้าแม่ได้ช่วยกันมาปกป้องเจ้าแม่ไว้ อย่างไรก็ดี
ผัวๆ ของเจ้าแม่โดนพลังรุนแรงของเทพธิดามาเหม่ยทำร้าย จนร่างกายของผัวแต่ละคนถูกแปลงเป็นเม็ดทราย
1 เม็ดจ้ะ
เพราะฉะนั้น จำนวนผัวของเจ้าแม่กีสะเดิด
จึงเท่ากับจำนวนเม็ดทรายที่มีอยู่บนโลกนี้จ้ะ
ตอนนี้ชาวบ้านบนเกาะวามปี
ก็ยังคงนับถือบูชาเจ้าแม่กีสะเดิดอยู่จนถึงปัจจุบันนี้จ้ะ และมีความเชื่อกันว่า
ถ้าหากชายหนุ่มคนไหนนับถือบูชาเจ้าแม่เป็นอย่างดี เขาก็จะโชคดีได้เจอปาฏิหาริย์ และเขาก็จะได้เห็นเจ้าแม่กีสะเดิดยืนอยู่ริมทะเล
เพื่อเอาลิ้นลอดใต้มหาสมุทรไปเลียผัวตามทวีปต่าง ๆ จ้ะ และเพราะเหตุนี้แหละ
ทะเลจึงมีคลื่น”
“โอ เจ้าแม่กีสะเดิดนี่น่านับถือบูชาจริง ๆ
นะครับ” ลูกหมีกล่าวหลังจากฟังตำนานจบ
------
จริง ๆ แล้วเรื่องข้างบนเราไม่ได้แต่งเองนะ
มันดัดแปลงมาจาก “คำด่า” ที่เพื่อนคนนึงสมมุติว่าชื่อ A ใช้ด่าเพื่อนที่ชื่อ
B ตอนเราอยู่ม.3 ในปี 1987 หรือเมื่อราว 37 ปีก่อน
คือตอนนั้น A ชอบด่า B โดยใช้คอนเซปท์ว่า
“ปรากฏการณ์ธรรมชาติต่าง ๆ บนโลกใบนี้ มีที่มาจากกิจกรรมที่ B ทำกับผัว”
เราชอบคำด่าชุดนั้นมาก ๆ เราก็เลยดัดแปลงเอาคำด่าเหล่านั้นมาบันทึกไว้ในนี้
แต่จริง ๆ แล้วไอเดียพวกนี้เราไม่ได้คิดเองเลย เพื่อนเราเป็นคนคิด 55555
No comments:
Post a Comment