Tuesday, June 18, 2024

GEESADERD LEGEND

 

ช่วง แม่หมีสอนลูกหมี เรื่อง “ตำนานเจ้าแม่กีสะเดิด”

 

เมื่อวันก่อนลูกหมีเห็นคลิป “พิธีกรรมบูชาเจ้าแม่กีสะเดิด ที่เกาะวามปี” ใน Facebook ของแม่หมี ลูกหมีก็เลยถามแม่หมีว่า

 

“เจ้าแม่กีสะเดิดเป็นใครเหรอครับ หนูเคยอ่านหนังสือ MYTHOLOGY ของ Edith Hamilton แล้ว ไม่เห็นหนังสือเล่มนี้เคยเอ่ยถึงเจ้าแม่กีสะเดิดเลยครับ หนูเคยอ่านนิตยสาร ต่วยตูน พิเศษ ตั้งหลายฉบับ ก็ไม่เคยเห็นนิตยสารเล่มนี้ เอ่ยถึงเจ้าแม่กีสะเดิด เหมือนกัน”

 

แม่หมีก็เลยเล่าเรื่องตำนาน “เจ้าแม่กีสะเดิด” ให้ลูกหมีฟังคร่าว ๆ ดังนี้

 

“คือเจ้าแม่กีสะเดิด เป็นเจ้าแม่ที่ชาวเกาะวามปีนับถือบูชากันมาก ๆ จ้ะ แต่คนในพื้นที่อื่น ๆ เขาไม่ค่อยรู้จักเจ้าแม่องค์นี้กัน แต่ชาวเกาะนี้และนักท่องเที่ยวจากหลาย ๆ ประเทศเขาเชื่อกันว่า เจ้าแม่องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ จ้ะ”

 

“ตำนานที่จารึกไว้ในสุสานโบราณที่ค้นพบในเกาะแห่งนี้ เล่าว่า เจ้าแม่องค์นี้เป็นที่มาของปรากฏการณ์ธรรมชาติหลาย ๆ อย่างบนโลกนี้จ้ะ อย่างเช่น

 

1. เจ้าแม่องค์นี้มีผัวอยู่ในหลาย ๆ ทวีปบนโลก และเธอชอบเอาลิ้นลอดใต้มหาสมุทรไปเลียผัวตามทวีปต่าง ๆ เพราะฉะนั้นคนโบราณก็เลยเชื่อกันว่า การที่เธอเอาลิ้นลอดใต้มหาสมุทรไปเลียผัวแบบนี้ มันเลยเป็นต้นเหตุทำให้ “ทะเลมีคลื่น” จ้ะ

 

2. เจ้าแม่องค์นี้ชอบเอา “น้ำของผัว” ไปต้มในหม้อต้มใหญ่ให้สุกจนเดือดพล่านเพื่อเอามาใช้เป็นน้ำยาศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวเจ้าแม่ และคนโบราณก็เลยเชื่อกันว่า การที่เจ้าแม่กีสะเดิดทำแบบนี้ ก็เลยเป็นที่มาของปรากฏการณ์ ภูเขาไฟระเบิดจ้ะ เพราะจริง ๆ แล้ว ภูเขาไฟก็คือหม้อต้มของเจ้าแม่ และลาวาก็คือ น้ำของผัวเจ้าแม่ที่เดือดพล่านทะลักออกมาจากหม้อต้ม จ้ะ

 

3. ผัวของเจ้าแม่มีจำนวนมากมายมหาศาลยิ่งนัก และมีอยู่ในดาวหลาย ๆ ดวงด้วย วันหนึ่งเจ้าแม่ก็เลยอยากจัดงานแข่งขันกีฬาให้กับบรรดาผัว ๆ ของเจ้าแม่ แต่พบว่า ไม่มีสนามกีฬาและอัฒจันทร์แห่งใดบนโลกนี้ที่สามารถบรรจุผัวของเจ้าแม่ได้หมดเลย

 

เจ้าแม่ก็เลยต้องเอาผัว ๆ ของเจ้าแม่ไปแข่งขันกีฬาสีกันที่ดาวพฤหัสบดีจ้ะ เพราะดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยจักรวาล แล้วก็เกิดปัญหาว่า แล้วจะมีอัฒจันทร์ที่ไหนที่ใหญ่พอล่ะ เจ้าแม่ก็เลยสร้าง “วงแหวนดาวพฤหัสบดี” ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นอัฒจันทร์ในการชมกีฬาสีของผัว ๆ ของเจ้าแม่จ้ะ คนโบราณเขาเชื่อกันว่า ที่ดาวพฤหัสบดีมีวงแหวนก็เพราะสาเหตุแบบนี้แหละจ้ะ คือเพื่อใช้เป็นอัฒจันทร์ในการชมกีฬาสีของผัว ๆ ของเจ้าแม่กีสะเดิด”

 

แล้วลูกหมีก็ถามแม่หมีว่า “ที่บอกว่าเจ้าแม่กีสะเดิดมีผัวจำนวนมากนี่ เจ้าแม่มีผัวกี่คนเหรอครับ”

 

แม่หมีก็เลยตอบว่า “ตำนานโบราณได้ให้คำตอบของเรื่องนี้ไว้ด้วยจ้ะ เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เจ้าแม่กีสะเดิดกับ “เทพธิดามาเหม่ย” ซึ่งเป็นคู่อริของเจ้าแม่ ต่อสู้ปะทะกันอย่างรุนแรง แล้วเจ้าแม่กีสะเดิดพลาดท่าเสียที จะถูกเทพธิดามาเหม่ยทำร้าย แต่ผัว ๆ ของเจ้าแม่ได้ช่วยกันมาปกป้องเจ้าแม่ไว้ อย่างไรก็ดี ผัวๆ ของเจ้าแม่โดนพลังรุนแรงของเทพธิดามาเหม่ยทำร้าย จนร่างกายของผัวแต่ละคนถูกแปลงเป็นเม็ดทราย 1 เม็ดจ้ะ

 

เพราะฉะนั้น จำนวนผัวของเจ้าแม่กีสะเดิด จึงเท่ากับจำนวนเม็ดทรายที่มีอยู่บนโลกนี้จ้ะ

 

ตอนนี้ชาวบ้านบนเกาะวามปี ก็ยังคงนับถือบูชาเจ้าแม่กีสะเดิดอยู่จนถึงปัจจุบันนี้จ้ะ และมีความเชื่อกันว่า ถ้าหากชายหนุ่มคนไหนนับถือบูชาเจ้าแม่เป็นอย่างดี เขาก็จะโชคดีได้เจอปาฏิหาริย์ และเขาก็จะได้เห็นเจ้าแม่กีสะเดิดยืนอยู่ริมทะเล เพื่อเอาลิ้นลอดใต้มหาสมุทรไปเลียผัวตามทวีปต่าง ๆ จ้ะ และเพราะเหตุนี้แหละ ทะเลจึงมีคลื่น”

 

“โอ เจ้าแม่กีสะเดิดนี่น่านับถือบูชาจริง ๆ นะครับ” ลูกหมีกล่าวหลังจากฟังตำนานจบ

------

จริง ๆ แล้วเรื่องข้างบนเราไม่ได้แต่งเองนะ มันดัดแปลงมาจาก “คำด่า” ที่เพื่อนคนนึงสมมุติว่าชื่อ A ใช้ด่าเพื่อนที่ชื่อ B ตอนเราอยู่ม.3 ในปี 1987 หรือเมื่อราว 37 ปีก่อน คือตอนนั้น A ชอบด่า B โดยใช้คอนเซปท์ว่า “ปรากฏการณ์ธรรมชาติต่าง ๆ บนโลกใบนี้ มีที่มาจากกิจกรรมที่ B ทำกับผัว”

 

เราชอบคำด่าชุดนั้นมาก ๆ เราก็เลยดัดแปลงเอาคำด่าเหล่านั้นมาบันทึกไว้ในนี้ แต่จริง ๆ แล้วไอเดียพวกนี้เราไม่ได้คิดเองเลย เพื่อนเราเป็นคนคิด 55555

No comments: