Sunday, February 10, 2008

SAKARIN, RIRKRIT, MONTRI AND "RICE" IN THAI ART

This is my comment in Bioscope Webboard:
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=924.0

ดิฉันใช้วิธีนั่งรถไฟฟ้าแล้วไปลงที่สถานีสุรศักดิ์เลยน่ะค่ะ แล้วค่อยเดินย้อนกลับมาทางถนนปั้น คิดว่าถ้าหากเดินแบบนี้ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ ใช้เวลาเดินช้าๆแค่ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น

ที่ CONFERENCE OF BIRDS GALLERY ตอนนี้มีฉายหนังสารคดีแนวทดลองของ HANNA SHELL ด้วยค่ะ เป็นหนังเกี่ยวกับสัตว์น้ำ ดูเพลินดี หนังสารคดีเกี่ยวกับสัตว์น้ำจะฉายที่ชั้น 3 ของแกลเลอรี่ ส่วนหนังเรื่อง I-BE AREA ฉายที่ชั้นสองของแกลเลอรี่

แต่ที่น่าสนใจมากๆก็คือว่า หลังจาก I-BE AREA ฉายวันสุดท้ายในวันที่ 14 ก.พ.แล้ว ในวันที่ 16 ก.พ.ถึงวันที่ 3 มี.ค. ทาง CONFERENCE OF BIRDS GALLERY ก็จะจัดฉายหนังการเมืองของ PAUL CHAN ซึ่งมีคำบรรยายถึงหนังของเขาไว้ดังนี้

“A firebrand activist, Chan’s didactic, politically aligned video works tackle issues sensitive to America, including the aftermath of Hurricane Katrina, and a film shot illegally in Iraq just weeks before the outbreak of war.”

ในขณะที่คุณคนมองหนังอยากเข้ามาในกทม. ดิฉันก็อยากเดินทางออกไปที่ชายขอบของกทม.อย่างมากๆค่ะ เพราะขณะนี้ดิฉันอยากไปดูงาน RIPE PROJECT: THE VILLAGE AND HARVEST TIME ของ Sakarin Krue-on อย่างมากๆ งานนี้จัดแสดงที่ ARDEL GALLERY ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเบลวิลล์ ถ.บรมราชชนนี กม.10.5 ไม่แน่ใจว่าแถวนั้นอยู่ใกล้บ้านของคุณคนมองหนังหรือเปล่า ดิฉันไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็เลยไม่กล้าไป กลัวว่าขาไปอาจจะเรียกแท็กซี่ไปได้ แต่ขากลับไม่รู้ว่าแถวนั้นจะมีแท็กซี่ให้เรียกกลับเข้ามาในเมืองได้ง่ายๆหรือเปล่า

งาน RIPE PROJECT นี้เป็นงานศิลปะเกี่ยวกับการปลูกข้าว และเคยจัดแสดงที่ DOCUMENTA 12 ในเยอรมนีมาแล้ว อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับงานนี้ได้ที่
http://www.ardelgallery.com/html/detail_exhibition.php?id=17

งานนี้มีจัดแสดงที่ TANG CONTEMPORARY ART ที่สีลมแกลเลอเรีย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆถนนปั้นด้วย ดิฉันยังไม่ได้ไปดูตัวงานนี้ที่ TANG แต่ถ้าเข้าใจไม่ผิด งานที่จัดแสดงที่ ARDEL GALLERY จะเป็นการจัดแสดงนาข้าวจริงๆ ส่วนงานที่จัดแสดงที่ TANG จะเป็น “การถ่ายทอดสดภาพต้นข้าวขณะกำลังเติบโตที่อาร์เดล แกลเลอรี่”

รู้สึกว่าข้าวเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินไทยหลายคนดีจริงๆ ถ้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้คุณมนตรี เติมสมบัติก็เคยทำงานศิลปะเกี่ยวกับข้าวมาแล้ว ซึ่งรวมถึงวิดีโอเรื่อง RICE/LIFE EVER-PRESENCE (2006, A+) ที่เคยมาแสดงที่หอกลาง จุฬา ในขณะที่คุณฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิชก็เคยนำเมล็ดข้าวมาจัดแสดงราวกับว่ามันเป็นอัญมณีอันทรงคุณค่ายิ่ง

No comments: