This is my comment in Twilight Virus’ blog:
http://twilightvirus.blogspot.com/2008/02/blog-post.html
มีหนังผีเกาหลีที่ชอบมากๆเรื่อง THE RED SHOES (2005, Kim Yong-gyun, A+) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพนิยายของ Hans Christian Andersen เหมือนกับหนังเรื่อง THE RED SHOES (1948, Michael Powell + Emeric Pressburger) กรณีนี้คงไม่ใช่การขโมยชื่อหนัง แต่เป็นการตั้งชื่อหนังซ้ำกันเพราะมีที่มาจากแหล่งเดียวกัน
------------------------------------
This is my comment in Bioscope Webboard:
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=71.msg5712#msg5712
ตอบคุณ pc
--เห็นคุณ pc เขียนถึง Stockhausen ก็เลยทำให้นึกถึงที่คุณ Twilight Virus เพิ่งเขียนถึง Stockhausen เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ดิฉันไม่เคยได้ยินชื่อของ Stockhausen มาก่อนเลย มาได้ยินครั้งแรกก็จากบล็อกของคุณ Twilight Virus นี่แหละค่ะ
http://twilightvirus.blogspot.com/2007/12/blog-post_13.html
--พูดถึงรายการทีวีที่น่าสนใจของเมืองนอกแล้ว ดิฉันก็นึกถึง
1.ภาพยนตร์เกย์สำหรับฉายทางโทรทัศน์ที่สร้างโดยสถานี BBC ของอังกฤษเรื่อง TWO OF US (1987, Roger Tonge, A) ภาพยนตร์เรื่องนี้ฮือฮามากในยุคนั้น เพราะสร้างโดยสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล, นำเสนอภาพลักษณ์ของเกย์ในแง่บวก และนำเสนอความรักของเกย์หนุ่มวัยรุ่นสองคนได้อย่างน่าเอาใจช่วยมากๆ ผลก็คือหนังสือพิมพ์ฝ่ายขวาจัดของอังกฤษโจมตีภาพยนตร์เรื่องนี้และสถานี BBC อย่างรุนแรง ในขณะที่ Ian McKellen ออกมาให้กำลังใจภาพยนตร์เรื่องนี้
http://www.imdb.com/title/tt0094200/
2.รายการสารคดีทางทีวีของเยอรมนีที่ทางสถาบันเกอเธ่ในกรุงเทพเคยนำมาจัดฉายเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะรายการทีวีที่ได้รับรางวัล Adolf Grimme อันทรงเกียรติ ดิฉันเคยได้ดูรายการทีวีเหล่านี้สองสามรายการ และคิดว่ามันดีกว่าหนังสารคดีที่ลงฉายโรงในสหรัฐหลายเรื่องด้วยซ้ำไป
http://www.imdb.com/Sections/Awards/Adolf_Grimme_Awards_Germany/
3.เมื่อเร็วๆนี้ทางสถาบัน Alliance Francaise ในกรุงเทพได้จัดฉายสารคดี 3 ชุดที่เปิดฉายทางโทรทัศน์ในฝรั่งเศส ซึ่งได้แก่สารคดีชุด D’ART D’ART ที่มีความยาวตอนละ 2 นาที, สารคดีชุด SUIVEZ L’ARTISTE ที่มีความยาวตอนละ 2 นาที และสารคดีชุด PALETTES ที่มีความยาวตอนละประมาณ 20 นาที โดยที่สารคดีทั้ง 3 รายการนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับผลงานศิลปะที่น่าสนใจตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือผู้ชมคนหนึ่งในงานได้แสดงความเห็นในช่วง Q&A ว่า รายการสารคดีที่ให้ความรู้และทรงคุณค่ามากๆอย่างนี้ ไม่มีโอกาสได้จัดฉายหรือได้รับการผลิตทางสถานีโทรทัศน์ในไทยแน่ๆ เพราะว่าผลงานศิลปะที่นำมาแสดงในสารคดีทีวีเหล่านี้ รวมถึงผลงานศิลปะที่เป็นภาพเปลือยของผู้หญิง โดยเฉพาะรายการ D’ART D’ART นั้น ได้นำภาพเปลือยของผู้หญิงมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของไตเติลของรายการด้วยซ้ำไป
ส่วนของไทยนั้น ทุกคนคงจำกันได้ดีว่า อย่าว่าแต่ภาพจิตรกรรมที่เป็นรูปเปลือยของผู้หญิงเลย ขณะภาพศิลปินคาบไปป์ ยังถูกเซ็นเซอร์ในทีวีไทยมาแล้ว ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในยุคมืดจริงๆ
--ดีใจมากค่ะที่คุณ pc ชอบเนื้อเพลง Enola Gay
สำหรับเพลงที่ดิฉันชอบมากๆในช่วงนี้ ก็คือเพลง JULIAN ของ Boy George ค่ะ ดิฉันคิดว่าเนื้อเพลงนี้มันแสดงอารมณ์คลั่งรักได้ดีมากๆ
My favorite song for the moment is JULIAN by Boy George. I like the lyrics of this song very much.
You can listen to this song from
http://www.youtube.com/watch?v=n0VVN9BMOyc
Felt like my world revolved around your hazel eyes
Those scatter-cushion lips, eyelashes that flutter like a butterfly
Your arms around me in the morning oh but the catalogue of lies
So many things just don't add up
you’re just a child why should I be surprised
Why can't you pick up the phone
Oh how gutless can you be
Run as far as you can
You'll never escape me
Oh Julian don't tell me it was all just lies
Oh Julian don't keep it all internalized
Oh Julian you’re just a small boy in a big man’s world
I said some foolish things but you took my voice away
Like an audience of one, such a lonely game to play
Hey you feel so much, have you nothing more to say
Except just leave me alone
we'll both laugh about this one day
Don't tell me the world is changing
You're living proof of how uptight it can be
And a fag who hates himself is her own worse enemy
Oh Julian was it anything for fame
Oh Julian will ya do it all again
Oh Julian the fizz has gone from your champagne
I hold nothing back, I give it all away
I am Thunder 317
blue eyed, vulnerable, seeking similar
Camp-acting, fairy scene, I’m flaming, I‘m screaming
looking for someone brave enough to love me
Oh Julian don't tell me it was all just lies
Oh Julian don't keep it all internalized
Oh Julian you’re just a small boy in a big man’s world
ตอบน้อง NANOGUY
ดีใจมากค่ะที่น้องชอบ FROZEN DAYS (2005, Danny Lerner, A+) ไม่ทราบว่าน้องได้ดู THE TENANT (1976, Roman Polanski, A) แล้วยัง เพราะ FROZEN DAYS น่าจะได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงมาจาก THE TENANT ค่ะ แต่ดิฉันดูแล้วชอบ FROZEN DAYS มากกว่า THE TENANT เสียอีก (บางทีอาจจะเป็นเพราะดู THE TENANT มานานหลายปีแล้ว)
http://ecx.images-amazon.com/images/I/51WAXATXB2L._SS500_.jpg
หนังอีกเรื่องนึงที่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงมาจาก THE TENANT ก็คือ THE IDOL (2002, Samantha Lang, A) ที่นำแสดงโดย LeeLee Sobieski ดิฉันคิดว่าน่าสนใจดีเหมือนกันที่ทั้ง FROZEN DAYS และ THE IDOL ต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงมาจาก THE TENANT เหมือนกัน แต่หนังสองเรื่องนี้กลับฉีกกันไปคนละทาง ถ้าไม่บอกมาก่อนก็ไม่รู้ว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องเดียวกัน
http://www.imdb.com/title/tt0291259/
ตอบน้อง merveillesxx
พี่ชอบ RETRIBUTION (2006, Kiyoshi Kurosawa, A+/A) มากค่ะ และชอบ SOUND EFFECTS ของหนังเรื่องนี้มากๆ ดีใจมากๆที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรง ก็เลยได้ฟังเสียงกรีดร้องของวิญญาณอย่างเต็มๆหู เพราะถ้าหากดิฉันดูหนังเรื่องนี้ทางดีวีดีในอพาร์ทเมนท์ ดิฉันก็คงไม่สามารถเปิดเสียงดังๆได้อย่างเต็มที่ เพราะจะเป็นการรบกวนห้องข้างๆ
ต้องขอบคุณทางโรง SF WORLD CINEMA อย่างมากๆ ที่ฉายหนังเรื่องนี้ให้ได้ดูกัน ถึงแม้ว่ารอบที่ดิฉันดู จะมีดิฉันดูอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
บางทีผู้สร้างหนัง RETRIBUTION อาจไม่ได้ตั้งใจนำเสนอในจุดนี้ แต่การที่ตัวละครในหนัง RETRIBUTION หมกมุ่นกับการ “กลบ/ฝัง/ขัง/ฆ่า” อดีตของตัวเอง หรือพยายาม WIPE OUT อดีตของตัวเองนั้น ก็ทำให้ดิฉันนึกไปถึงพฤติกรรมของชาวญี่ปุ่นบางคนในยุคปัจจุบัน ที่พยายามจะชำระบทเรียนประวัติศาสตร์ใหม่อยู่เสมอเพื่อปกปิดความผิดที่ตัวเองกระทำไว้กับเกาหลีและจีน
ดีใจมากๆที่ RETRIBUTION ติดอันดับประจำปีของนักวิจารณ์หลายคนใน MIDNIGHT EYE และก็ดีใจที่คุณ filmsick เขียนถึง RETRIBUTION ไว้อย่างน่าสนใจมากๆด้วย
http://www.midnighteye.com/features/best-of-2007.shtml
จริงๆแล้ว RETRIBUTION ก็มีสิ่งที่ฮาโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่เหมือนกัน นอกจากหนังเรื่องนี้จะนำเสนอการเหาะของผีแบบไม่ธรรมดาแล้ว สิ่งที่ดิฉันรู้สึกว่าฮามากใน RETRIBUTION ก็คือการที่ตัวละครต้องลำบากไปขนน้ำทะเลมาอย่างทุลักทุเลเพื่อนำมาใช้ในการฆาตกรรม
พูดถึงความฮาโดยไม่ได้ตั้งใจแล้ว ก็เลยนึกถึง MURDER OF THE INUGAMI CLAN (Kon Ichikawa, A+) ที่มีฉากสามสาวสวมหน้ากากขณะจะไปทำร้ายคน แต่ทั้งสามต่างถอดหน้ากากออกเวลาทำร้ายคน ดิฉันก็เลยสงสัยว่าสามสาวนี้จะสวมหน้ากากไปทำไม พวกเธอคงไม่ได้สวมหน้ากากเพื่อจงใจปกปิดฐานะที่แท้จริงของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะพวกเธอต่างก็ถอดหน้ากากออกเวลาทำร้ายคน ดิฉันก็เลยสันนิษฐานว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงในการสวมหน้ากากของทั้งสามสาว ก็คือเพื่อ “สไตล์ที่เก๋ไก๋”
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment