ดู LAST DAY กับ LEITFADEN: PANUT แล้ว
เราก็เลยนึกถึงสิ่งที่ Filmsick พูดไว้ว่า
คนกำกับหนังสารคดีที่ทรงพลังบางคน มันต้อง “ใจร้าย” กับ subject ที่มันถ่ายน่ะ คือเราว่า LAST DAY กับ LEITFADEN:
PANUT มันมีความน่าเบื่ออยู่บ้างสำหรับเรา เพราะว่า
1.มันดูผิวเผินเกินไปกับสิ่งที่มันถ่าย
2.เราอยากเห็น “ความเลว” หรือ “ความ controversial” ของ subject
ของหนังน่ะ แต่หนังสองเรื่องนี้ดูเหมือนจะนำเสนอแต่ด้านดีของ subject
มันก็เลยทำให้พลังของหนังมันลดลงไปสำหรับคนดูที่ติดใจสิ่งชั่วๆอย่างเรา
มันมีหนัง “สารคดีชีวิตเพื่อน” ที่เราชอบมากๆนะ อย่างเช่น
“เรื่องธรรมดา” ของเมธัส ศิรินาวิน หรือ “สุทธ์” ของพัฒนะ จิระวงศ์
แต่หนังสองเรื่องนี้มันมีความใจร้ายกับ subject ของมันมากพอสมควร เพราะ
“เรื่องธรรมดา” มันเป็นการแอบตั้งกล้องถ่ายเพื่อนโดยเพื่อนไม่รู้ตัวเป็นเวลานานหลายเดือน
ส่วน “สุทธ์” ก็นำเสนอความผิดปกติทางจิตของเพื่อนอย่างเต็มที่
หนังสองเรื่องนี้ก็เลยทรงพลังมากๆสำหรับเรา ในขณะที่ LEITFADEN: PANUT จะไม่ได้เป็นแบบนั้น
แต่สิ่งที่เราชอบใน LEITFADEN: PANUT ก็คือการที่หนังบอกว่า
subject ที่มันถ่ายเป็นคนธรรมดาที่อาจจะกลายเป็นคนดังในอนาคต
ซึ่งเราว่าตรงนี้มันน่าสนใจมากๆ เพราะหนังสารคดีทั่วๆไปจะถ่ายคนที่
“โด่งดังอยู่แล้ว” คือ “ความโด่งดังของบุคคลคนนั้น” เป็นสิ่งที่เกิดก่อน
“หนังสารคดีเกี่ยวกับบุคคลคนนั้น” ในขณะที่ LEITFADEN: PANUT ทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะหนังสารคดีเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ตัว subject
จะโด่งดัง (หรือเปล่า)
การสลับกระบวนการกันตรงจุดนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจดี
แต่น่าเสียดายที่ภาพและเนื้อหาในหนังค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับเราจ้ะ
1 comment:
You are invited to follow my Christian blog
Post a Comment