Friday, July 17, 2015

UTOPIA (2015, Kirimag Boonrom, documentary, A+30)

-- UNTIL THE LAST DAY (อาลี ปรียากร, A+20) หนังเรื่องนี้พูดประเด็นเดียวกับหนังสารคดีเรื่อง คนทำบาตร (2014, เอสยาห์ สายศร) แต่ในขณะที่คนทำบาตรเป็นหนังสารคดีแบบตรงไปตรงมา UNTIL THE LAST DAY กลับมีลักษณะคล้าย video installation คือจริงๆเราชอบหนังสารคดีเรื่อง “คนทำบาตร” มากๆอยู่แล้ว และเราก็ชอบหนังเรื่อง UNTIL THE LAST DAY มากๆด้วย เพราะมันทำให้เห็นว่า “สื่อภาพเคลื่อนไหว” ที่พูดประเด็นเดียวกัน สามารถทำออกมาได้หลายรูปแบบ และทรงพลังทั้งคู่

--UNTITLE (รัชพล แสงศรี, ธันยวัตร สัจจะธีระกูล, A+15) รู้สึกว่าบทสนทนาในหนังเรื่องนี้ไม่ “เปรี้ยง” เหมือนหนังของ Prap Boonpan แต่ก็รู้สึกดีที่มีคนทำหนังแนว Prap Boonpan อยู่ เพราะคุณ Prap ดูเหมือนจะเลิกทำหนังแนวเน้นบทสนทนาไปแล้ว

--UTOPIA: บ้านใหม่คนใต้สะพาน (Kirimag Boonrom, documentary, 60min, A+30) ติดอันดับประจำปีของเราอย่างแน่นอน ดูแล้วแทบร้องไห้ มันหนักมากๆ และมันหนักตรงที่หนังแทบไม่ได้พยายามเร่งเร้าอารมณ์อะไรเราเลย นอกจากการใช้ดนตรีประกอบที่อาจจะสื่ออารมณ์มากไปนิดนึง เราชอบฉากที่เด็กๆเล่าเรื่องพ่อของตัวเองค้ายาเสพติดด้วยอารมณ์ค่อนข้างร่าเริง, ฉากที่คุณป้าเล่าด้วยอารมณ์เรียบเฉยว่าตัวเองป่วยและกำลังจะตายในอีก 8 เดือนข้างหน้า, ฉากคุณป้านินทาว่าเพื่อนบ้านค้ายาเสพติด, ภาพเด็กๆที่เคยอาศัยอยู่ในสลัมในอดีต ซึ่งทำให้เราจินตนาการว่าปัจจุบันนี้เด็กๆเหล่านี้จะมีชีวิตเป็นอย่างไร, เรื่องราวของหญิงสาวที่ขอเงินแม่ไปเรียนมหาลัย แต่จริงๆแล้วเธอหนีตามผู้ชาย แล้วก็ทิ้งแม่ไป, ฉากซาเล้งทะเลาะกับชายชรา, ฉากชายหนุ่มเล่นกีตาร์ ฯลฯ เราว่าสารคดีเรื่องนี้เรียบเรียงประเด็นได้ดีมาก และจัดว่าเข้าขั้นคลาสสิคเลยสำหรับเราถ้าหากเทียบกับสารคดีไทยด้วยกัน และสามารถเทียบชั้นกับ “สารคดีชุมชน” ชั้นนำของไทยอย่าง BEHIND THE WALL (2003, อภิวัฒน์ แสงพัทธสีมา) และ “บ้านไม่มีเลขที่” (2012, Abhichon Rattanabhayon) ได้ด้วย

--WAKE UP, BRO (อาณัฐ เตรียมจรรยา, ทิฆัมพร รัตนไทรแก้ว, ตรีวิทย์ วุฒิยานันท์, A+15) ชอบไอเดียของหนังเรื่องนี้มากๆ แต่ execution ออกมาเป็นภาพยนตร์ได้ไม่ทรงพลังเท่าไหร่ คือเราชอบความสลับซับซ้อนทางโครงสร้างการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้มากๆ คือถ้าทำดีๆมันจะกลายเป็นหนังแนว Alain Robbe-Grillet ได้เลย แต่น่าเสียดายที่ “รายละเอียดในบท” มันไม่ได้ทรงพลังมากนัก ถึงแม้ว่าโครงสร้างของบทหรือตัวไอเดียหลักของหนังมันเข้าทางเรามากๆก็ตาม

--WHAT A WONDERFUL WORLD (จิรภัทร ทวีชื่น, ธนวัฒน์ นุ่มเจริญ, ภูธน ทองตัน, A+30) เราเข้าใจว่าเป็นหนังที่อาจจะทำขึ้นเพื่อสอนให้นักเรียนรู้จักเก็บขยะ และรักษาความสะอาด แต่ดูแล้วนึกว่าเป็นหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Vera Chytilova และ Ingmar Bergman นอกจากนี้ การใช้ soundtrack ของหนังเรื่องนี้ก็รุนแรงมาก และมันรุนแรงตรงที่มันคาบเกี่ยวระหว่างความเป็น diegetic sound, non-diegetic sound ด้วย เพราะนางเอกจะมาพร้อมกับเพลงประหลาดๆตลอดเวลา ซึ่งปกติแล้วเพลงที่ปรากฏพร้อมกับตัวละครแบบนี้มันจะเป็น non-diegetic sound แต่ปรากฏว่านางเอกหนังเรื่องนี้พกวิทยุธานินทร์ติดตัวไปด้วยตลอดเวลา มันก็เลยกลายเป็น diegetic sound ในแบบที่พิสดารมากๆ


--WHAT IS HIPSTER (จักรพันธ์ ศรีวิชัย, documentary, A+20) ชอบคำถามที่ว่า “พระพุทธเจ้าเป็น hipster หรือเปล่า” มากๆ

No comments: