Saturday, August 29, 2015

TRUE FRIENDS (2012, Stéphan Archinard + François Prévôt-Leygonie, France, A+10)

TRUE FRIENDS (2012, Stéphan Archinard + François Prévôt-Leygonie, France, A+10)

รู้สึกว่ามันเป็นหนังฝรั่งเศสระดับปานกลาง ซึ่งถ้าหากเป็นหนังไทยมันก็คงจะจัดเป็นหนังที่ดีมาก 555 คือเวลาเราดูหนังฝรั่งเศสเราจะคาดหวังสูงหน่อยว่าเราจะเจอหนังที่กระแทกเราอย่างรุนแรงหรือลงลึกถึงจิตวิญญาณตัวละครอะไรทำนองนี้

แต่มันจะมีหนังฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งที่เราชอบในระดับปานกลาง คือหนังกลุ่มนี้จะคุมตัวละครและโทนเรื่องได้ดี บทดี การแสดงดี ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติ ราบรื่นดี ไม่มีอะไรที่เราร้องยี้ หรือตรรกะล่ม นำเสนอตัวละครได้อย่างเป็นมนุษย์น่าพึงพอใจ เพียงแต่มันขาดความมหัศจรรย์บางอย่าง หรือไม่สามารถลงลึกได้ถึงจิตวิญญาณของตัวละครน่ะ คือหนังกลุ่มนี้มันทำได้ดีในส่วนของ การกระทำของตัวละครและ อารมณ์ความรู้สึกของตัวละครแล้วแหละ เพียงแต่มันยังไม่ลึกไปกว่านั้น ซึ่งเราว่าหนังของ Pierre Jolivet, Anne Fontaine, Marion Vernoux, Carine Tardieu หรือหนังอย่าง I’VE BEEN WAITING SO LONG (2004, Thierry Klifa) เข้าข่ายนี้

ซึ่งถ้าหากมีหนังโรงของไทยทำได้แค่ระดับข้างต้น มันก็จะกลายเป็นหนังไทยที่น่าพอใจมากแล้วนะ เพียงแต่ว่าถ้าหากมันเป็นหนังฝรั่งเศส มันจะกลายเป็นหนังระดับปานกลางในทันที 555

เราว่า TRUE FRIENDS ก็เข้าข่ายหนัง ปานกลางของฝรั่งเศสในสายตาของเราเหมือนกัน คือเราว่าหนังมีอะไรดีๆและน่าสนใจเยอะ โดยเฉพาะเรื่องการหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมือง 2 คน ที่เป็นคู่แข่งกัน โดยทั้งสองคนเป็นเกย์ และเคยเป็นคู่ขากันมาก่อน แต่ต้องมาหาเสียงแข่งขันกันเอง


อีกจุดที่เราชอบมากใน TRUE FRIENDS คือตัวละครภรรยาของพอล เพราะตัวละครภรรยาของพอลปล่อยให้สามีคบชู้กับผู้หญิงอื่นๆได้ตามสบาย เพราะพอลเป็นนักแต่งนิยาย และภรรยาของพอลรู้ดีว่าการคบชู้จะช่วยให้พอลมีวัตถุดิบในการเขียนหนังสือ และนั่นจะทำให้เขาแต่งนิยายได้ดี และนั่นจะส่งผลดีต่อฐานะการเงินของตัวภรรยาเองด้วย

อย่างไรก็ดี ในขณะที่หนังนำเสนอลักษณะนิสัยต่างๆของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ แต่พอดูจบแล้ว เราก็พบว่าเราชอบมันแค่ในระดับ A+10 เท่านั้นแหละ และถ้าหากเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆที่นำเสนอชีวิตกลุ่มผู้ชายวัยกลางคนเหมือนๆกันแล้ว เราก็พบว่าเราชอบมันในระดับใกล้เคียงกับหนังอย่าง NICKEL AND DIME (2003, Sam Karmann) เราว่ามันไม่ลึกซึ่งเท่าหนังอย่าง VINCENT, FRANÇOIS, PAUL AND THE OTHERS (1974, Claude Sautet, A+30) หรือ MY FRIENDS (1975, Mario Monicelli, Italy)


ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรเราถึงรู้สึกว่า TRUE FRIENDS ไม่ลึกพอ เราว่าหนังมันมีแต่ฉากตัวละครพูดคุยกันเพื่อให้เนื้อเรื่องเดินหน้าไปเรื่อยๆน่ะ มันเหมือนไม่มีเวลาช่วงเวลาหยุดพักเพื่อให้คนดูได้ซึมซับกับบรรยากาศ หรือไม่มีฉากที่แสดงให้เห็นตัวละครขณะอยู่เฉยๆโดยไม่ต้องพูดคุยกับใคร ซึ่งฉากแบบนั้นมันจะค่อนข้างเข้าทางเรา หรือในแง่หนึ่งเราก็คิดว่า ถ้าหากผู้กำกับเก่งพอ เขาจะสามารถสะท้อนจิตวิญญาณของตัวละครออกมาได้โดยผ่านทาง คำพูดหรือ ฉากที่ตัวละครไม่ต้องพูดกับใครหรือ บรรยากาศของหนังได้ แต่หนังเรื่องนี้มันมีแต่ฉากตัวละครพูดกัน และบทสนทนาของตัวละครมันก็ไม่สามารถสะท้อนส่วนลึกของตัวละครได้มากเท่าหนังของ Eric Rohmer ด้วย

No comments: