Friday, February 23, 2024

M PASS THIRD YEAR

 

บันทึกเรื่องบัตร M PASS

 

ตอนนี้บัตร M PASS ปีที่สามของเราได้หมดอายุลงแล้ว ก็เลยจดบันทึกการใช้ไว้สักหน่อย

 

บัตร M PASS ปีแรกของเราเสียค่าสมัคร 4800 บาท เราใช้ดูหนังไป 100 เรื่อง ตั้งแต่ THE HUNT (2020, Craig Zobel, A+30) ในวันที่ 23 ส.ค. 2020 และใช้บัตรนี้ดูหนังเรื่องที่ 100 ซึ่งก็คือเรื่อง HOUSE OF GUCCI (2021, Ridley Scott, A+25) ในวันที่ 29 ม.ค. 2022 (มันใช้ได้นานกว่า 1 ปีเพราะมันเจอช่วง lockdown ที่โรงหนังปิดทำการ) สรุปว่าเราจ่ายค่าตั๋วหนัง 100 เรื่องนี้ในราคาเรื่องละ 48 บาทเท่านั้น

 

บัตร M PASS ปีที่สองของเราเสียค่าสมัคร 4800 บาท เราใช้ดูหนังเรื่องแรก ซึ่งก็คือ GINTAMA: THE FINAL (2021, Chizuru Miyawaki, Japan) ในวันที่ 11 ก.พ. 2022 และใช้ดูหนังเรื่องที่ 128 ซึ่งก็คือ TÁR (2022, Todd Field, A+30) ในวันที่ 9 ก.พ. 2023

 

สรุปว่า ใช้ดูหนังไป 128 เรื่อง ในราคา 4800 บาท ซึ่งจริง ๆ มากกว่านั้น เพราะมีจ่ายส่วนเกิน 20 บาทเป็นครั้งคราว แต่รวม ๆ กันแล้วก็ไม่น่าจะเกิน 5000 บาท ซึ่งถ้าหาก 5000/128 ก็จะได้เรื่องละ 39.0625 บาท แต่ถ้าหากเป็น 4800/128 ก็จะได้เรื่องละ 37.5 บาท ก็เลยสรุปว่า เราจ่ายค่าตั๋วหนังไปเรื่องละประมาณ 37.5-39.0625 บาทในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาจากการใช้บัตร M PASS

 

บัตร M PASS ปีที่สามของเรา เสียค่าสมัคร 4600 บาท เราใช้ดูหนังเรื่องแรก ซึ่งก็คือ YOU & ME & ME (2023, Wanweaw Hongvivatana, Weawwan Hongvivatana, A+30) ในวันที่ 11 ก.พ. 2023  และใช้ดูหนังเรื่องที่ 120 ซึ่งก็คือ PERFECT DAYS (2023, Wim Wenders, Japan, A+30) ในวันที่ 3 ก.พ. 2024 สรุปว่า เสียเงินค่าตั๋วหนังราวเรื่องละ 4600/120 = 38.33 บาทต่อเรื่อง ซึ่งก็ถือว่าคุ้มมากสำหรับเรา

 

ตอนนี้เราสมัครบัตร M PASS ปีที่สี่ไปแล้วในราคา 4800 บาท แต่ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้ดูหนังทาง M PASS กี่เรื่อง เพราะเราสมัคร SF+ UNLIMITED 180 DAY ในราคา 2499 บาทไปด้วย 555 เพราะเหมือน SF มักจะจัดรอบหนังได้ตรงกับตารางชีวิตของเรามากกว่า โดยตอนนี้เราใช้โปรโมชั่นของ SF ในการซื้อตั๋วหนังไปแล้ว 7 เรื่องนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เรากะว่าจะต้องใช้โปรโมชั่นนี้ซื้อตั๋วหนังรวมกันอย่างน้อย 11 เรื่อง ถึงจะนับว่าเริ่มคุ้มทุน

 

 

 

No comments: