บันทึกเรื่องบัตร
M PASS
ตอนนี้บัตร M PASS ปีที่สามของเราได้หมดอายุลงแล้ว ก็เลยจดบันทึกการใช้ไว้สักหน่อย
บัตร M PASS ปีแรกของเราเสียค่าสมัคร 4800 บาท เราใช้ดูหนังไป 100
เรื่อง ตั้งแต่ THE HUNT (2020, Craig Zobel, A+30) ในวันที่ 23 ส.ค. 2020 และใช้บัตรนี้ดูหนังเรื่องที่
100 ซึ่งก็คือเรื่อง HOUSE OF GUCCI (2021, Ridley
Scott, A+25) ในวันที่ 29 ม.ค. 2022 (มันใช้ได้นานกว่า 1 ปีเพราะมันเจอช่วง lockdown
ที่โรงหนังปิดทำการ) สรุปว่าเราจ่ายค่าตั๋วหนัง 100 เรื่องนี้ในราคาเรื่องละ 48 บาทเท่านั้น
บัตร M PASS ปีที่สองของเราเสียค่าสมัคร 4800 บาท
เราใช้ดูหนังเรื่องแรก ซึ่งก็คือ GINTAMA: THE FINAL (2021, Chizuru
Miyawaki, Japan) ในวันที่ 11 ก.พ. 2022
และใช้ดูหนังเรื่องที่ 128 ซึ่งก็คือ TÁR
(2022, Todd Field, A+30) ในวันที่ 9 ก.พ. 2023
สรุปว่า
ใช้ดูหนังไป 128 เรื่อง ในราคา 4800 บาท ซึ่งจริง ๆ
มากกว่านั้น เพราะมีจ่ายส่วนเกิน 20 บาทเป็นครั้งคราว แต่รวม
ๆ กันแล้วก็ไม่น่าจะเกิน 5000 บาท ซึ่งถ้าหาก 5000/128
ก็จะได้เรื่องละ 39.0625 บาท แต่ถ้าหากเป็น 4800/128
ก็จะได้เรื่องละ 37.5 บาท ก็เลยสรุปว่า
เราจ่ายค่าตั๋วหนังไปเรื่องละประมาณ 37.5-39.0625 บาทในช่วง 1
ปีที่ผ่านมาจากการใช้บัตร M PASS
บัตร M PASS ปีที่สามของเรา เสียค่าสมัคร 4600 บาท เราใช้ดูหนังเรื่องแรก
ซึ่งก็คือ YOU & ME & ME (2023, Wanweaw Hongvivatana, Weawwan
Hongvivatana, A+30) ในวันที่ 11 ก.พ. 2023 และใช้ดูหนังเรื่องที่ 120 ซึ่งก็คือ PERFECT
DAYS (2023, Wim Wenders, Japan, A+30) ในวันที่ 3 ก.พ. 2024 สรุปว่า
เสียเงินค่าตั๋วหนังราวเรื่องละ 4600/120 = 38.33 บาทต่อเรื่อง
ซึ่งก็ถือว่าคุ้มมากสำหรับเรา
ตอนนี้เราสมัครบัตร
M PASS ปีที่สี่ไปแล้วในราคา 4800 บาท แต่ไม่รู้ว่าปีนี้จะได้ดูหนังทาง
M PASS กี่เรื่อง เพราะเราสมัคร SF+ UNLIMITED 180
DAY ในราคา 2499 บาทไปด้วย 555 เพราะเหมือน SF มักจะจัดรอบหนังได้ตรงกับตารางชีวิตของเรามากกว่า
โดยตอนนี้เราใช้โปรโมชั่นของ SF ในการซื้อตั๋วหนังไปแล้ว 7
เรื่องนับตั้งแต่ต้นปีนี้ เรากะว่าจะต้องใช้โปรโมชั่นนี้ซื้อตั๋วหนังรวมกันอย่างน้อย
11 เรื่อง ถึงจะนับว่าเริ่มคุ้มทุน
No comments:
Post a Comment