Tuesday, April 16, 2024

EGOIST

 

EGOIST (2022, Daishi Matsunaga, Japan, A+30)

 

Spoilers alert

--

--

--

--

--

--

--

--

--

--

1.แค่อยากจดบันทึกไว้สั้น ๆ ว่า ตัวละคร Saito Kosuke (Ryohei Suzuki) นี่ ถือเป็น “ผู้ชายในฝัน” สำหรับเราอย่างมากที่สุดของจริง 55555 เพราะ

 

1.1 เขาเป็นเกย์

1.2 เขาหล่อล่ำ

1.3 เขานิสัยดี
1.4 เขาเข้าใจ “ความเจ็บปวดของการเป็นเกย์” เขาไม่ได้เป็นเกย์โลกสวย

1.5 เขารวย

1.6 และที่เราชอบสุดขีดก็คือว่า “เขารวยด้วยความสามารถของตัวเอง” เขาไม่ใช่คนรวยเพราะว่าเขาเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย

 

คือถ้าหากเขาเป็น “เกย์ที่เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย” ใครก็ตามที่จะมาเป็นคนรักของเขาก็จะต้องเผชิญกับข้อจำกัดของ “สังคมผู้ดี” น่ะ ซึ่งอาจจะรวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ มากมายในการแสดงออกถึงความเป็นเกย์ และแน่นอนว่าอาจจะรวมถึงการกีดกันด่าทอไม่ยอมรับ “ผู้ชายขายตัว” ให้เข้ามาเป็นส่วนนึงของสังคมผู้ดีด้วย ลองจินตนาการถึงฉากพระเอกพาแฟนไปกราบเท้า “หม่อมแม่” แล้วบอก “หม่อมแม่” ว่า “แฟนของผมเขาเคยขายตัวมาก่อนครับ” ดูสิ

 

แต่พอตัวละครพระเอกของเรื่องนี้ “รวยขึ้นมาด้วยตัวเอง” เขาก็เลยสุดแสนที่จะมีคุณสมบัติตรงกับ “ผู้ชายในฝัน” ของเราอย่างรุนแรงที่สุด 55555 เพราะการที่เขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมชนชั้นสูง มันก็เลยทำให้เขาแสดงออกว่าเป็นเกย์ได้สบาย และครองรักกับผู้ชายขายตัวได้โดยง่าย โดยไม่ต้องมี “สังคมชนชั้นสูง” มาเป็นอุปสรรคขัดขวาง

 

2.เราก็เลยประทับใจหนังเรื่องนี้มากที่สุดตรงจุดนี้ ตรงจุดที่หนังมันสร้างตัวละคร “ผู้ชายในฝัน” ขึ้นมา คุณสมบัติติ๊กถูกตรงใจเราทุกข้อ และเลือกนักแสดงที่หล่อล่ำมาแสดงได้อย่างน่าประทับใจด้วย

 

3.แต่ครึ่งหลังของหนังเราไม่ได้อินเท่ากับช่วงครึ่งแรกนะ ถึงแม้ว่าครึ่งหลังของหนังมันคือ “ส่วนที่ดีจริง ๆ” ของหนังเรื่องนี้ก็ตาม เพราะเราไม่ใช่คนที่วัน ๆ นั่งใฝ่ฝันว่าฉันอยากจะช่วยเหลือเจือจุนคนอื่น ๆ อะไรแบบนั้น 55555 คือครึ่งแรกของหนังมันตอบสนองความใฝ่ฝันของเราน่ะ ความใฝ่ฝันที่ว่า “กูอยากจะมีผัวรวย” เพราะฉะนั้นครึ่งแรกของหนังมันก็เลยเป็น wish fulfillment สำหรับเรามาก ๆ ส่วนครึ่งหลังของหนังก็ดีมาก ไปไกลกว่าที่คิดมาก แต่มันจะไม่ตอบสนองเราในฐานะ wish fulfillment

 

ฉันรักเขา Aldis Hodge from MARMALADE (2024, Keir O’Donnell, UK, A+15)

 

ฉันรักเขา James Norton from BOB MARLEY: ONE LOVE (2024, Reinaldo Marcus Green, USA, A+30)

 

ฉันรักเขา Kingsley Ben-Adir from BOB MARLEY: ONE LOVE (2024, Reinaldo Marcus Green, USA, A+30)

 

Films seen in the 11th week of the year 2024

 

11-17 March 2024

 

In roughly preferential order

 

1.MAY DECEMBER (2023, Todd Haynes, A+30)

 

2.THE ZONE OF INTEREST (2023, Jonathan Glazer, US/UK/Poland, A+30)

 

3.SA (2024, Tanatchai Bandasak, video installation, A+30)

 

4.EGOIST (2022, Daishi Matsunaga, Japan, queer film, A+30)

 

5.SPY X FAMILY CODE: WHITE (2023, Kazuhiro Furuhashi, Japan, animation, A+30)

 

6.SUMODO (2020, Eiji Sakata, Japan, documentary, A+30)

 

7.DUNE: PART TWO (2024, Denis Villeneuve, A+30) ดูในระบบ SCREEN X จอ 270 องศา

 

8.MY NEXT LIFE AS A VILLAINESS: ALL ROUTES LEAD TO DOOM! – THE MOVIE (2023, Keisuke Inoue, Japan, animation, A+20)

 

9.DETECTIVE CONAN VS. KID THE PHANTOM THIEF (2024, Shunsuke Ishihara, Japan, animation, A+15)

 

10.YODHA (2024, Sagar Ambre, Pushkar Ojha, India, A+)

 

11.THE BRICKLAYER (2023, Renny Harlin, B+ )

 

สรุปว่าใน 11 สัปดาห์แรกของปี 2024 เราดูหนังไปแล้ว  208 + 11 = 219 เรื่อง

 

Films seen in the 12th week of the year 2024

 

18-24 March 2024

 

In roughly preferential order

 

1.FUFU IN PARADISE (2024, Vijchika Udomsrianan, video installation, A+30)

 

2.BOB MARLEY: ONE LOVE (2024, Reinaldo Marcus Green, USA, A+30)

 

ชอบที่หนังมันพูดถึงประวัติศาสตร์การเมืองของ Jamaica ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

 

3.MARMALADE (2024, Keir O’Donnell, UK, A+15)

 

4.HOR TAEW TAK 10: THE FINALE หอแต๋วแตก แหกสัปะหยด (2024, Poj Arnon, A+)

 

ชอบช่วง 3 ซีนแรกของหนัง ที่เป็นฉากหมอผีตบกับผีร้าย แล้วตามด้วยฉากเจ๊แต๋วร้องเพลงของเปิ้ล ไอริณ แล้วตามด้วยฉากพะยูนลอบเข้ามา คือเราว่าการเอา 3 ฉากนี้มาชนกันมันสร้างความตื่นเต้นอย่างสุดขีดให้กับเรามาก ๆ เพราะมันคือการรวมเอาอะไรเฮี้ยน ๆ ที่เหมือนอยู่คนละจักรวาลกันเข้ามาไว้ด้วยกัน ทั้งความเฮี้ยนของธี่หยด, ความเฮี้ยนของเปิ้ล ไอริณ และความเฮี้ยนของพะยูน แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นหนังก็ไม่ได้ fulfill potential ที่เราคาดหวังไว้จากช่วง 3 ซีนแรก

 

อีกสิ่งที่ชอบในหนังคือการเอาไอเดียผีมาตบตีกันอย่างรุนแรงในช่วงท้ายเรื่อง และก็ชอบการพูดถึงประเด็น jailbait เด็กหนุ่มอายุ 17 ปีมาก ๆ

 

5.PHUPHAN SOBBED ภูพานสะอื้น (2024, Prommee Deekoat, Parinya Baopetch, Suchart Pudjuntueg, C+ )

 

สรุปว่าใน 12 สัปดาห์แรกของปี 2024 เราดูหนังไปแล้ว  219 + 5 = 224 เรื่อง

 

ฉันรักเขา Paing Takhon from RENTBOY (2023, Leak Lyda, Cambodia, A/A-)

 

ฉันรักเขา Manop Aswathep from THE ADULTERER ชู้ (1972, Piak Poster, A+30)

Films seen in the 13th week of the year 2024

 

25-31 March 2024

 

In roughly preferential order

 

1.ONCE UPON A TIME, THERE WAS A MOM (2023, Lin Htet Aung, Myanmar, short film, A+30)

 

ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป ดูแล้วไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกว่าหนังมันทรงพลังและงดงามมาก ๆ เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ไปสุดขั้วสุดทางของมันจริง ๆ นึกว่าต้องปะทะกับ FANDO AND LIS (1968, Alejandro Jodorowsky, Mexico), EIKA KATAPPA (1969, Werner Schroeter, West Germany), CASE FOR A ROOKIE HANGMAN (1970, Pavel Jurácek Czechoslovakia) อะไรแบบนั้น ในฐานะของกลุ่มหนัง “ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป”

 

2.THE NIGHT OF THE KINGS (2020, Philippe Lacôte, Canada/Ivory Coast/France, A+30)

 

เราจำชื่อ Philippe Lacôte สลับกับ Philippe Falardeau 55555 เพราะ Falardeau ก็เป็นผู้กำกับชาวแคนาดาที่ชอบทำหนังเกี่ยวกับแอฟริกาเหมือนกัน โดย Falardeau เคยกำกับ CONGORAMA (2006), MONSIEUR LAZHAR (2011) ที่เกี่ยวกับผู้อพยพชาวแอลจีเรีย และ THE GOOD LIE (2014) ที่เกี่ยวกับผู้อพยพชาวซูดาน

 

3.THE ADULTERER ชู้ (1972, Piak Poster, A+30)

 

เพิ่งรู้ว่าเนื้อหามันแตกต่างจาก ชู้ THE SIN (2004, Ong-Art Singlumpong) มากพอสมควร แต่สิ่งที่ดีที่สุดในหนังสองเรื่องนี้คือสิ่งเดียวกัน นั่นก็คือความหล่อของพระเอก 55555 เพราะเราชอบมานพ อัศวเทพใน THE ADULTERER มาก ๆ และก็ชอบแอนดี้ วัชระ ตังคะประเสริฐ ใน THE SIN มาก ๆ

 

4.NOWHERE NEAR (2023, Miko Revereza, Philippines, documentary, A+30)

 

5.DREAMING & DYING (2023, Nelson Yeo, Singapore, A+30)

 

เป็นหนังเรื่องที่ 2 ของ Nelson Yeo ที่เราได้ดู ต่อจาก HERE IS NOT THERE (2020, A+30)

 

6.THE PAIR OF CANARIES (2023, Huynh Cong-Nho, Vietnam, short film, A+30)

 

7.KYRIE NO UTA: DIRECTOR’S CUT (2023, Shunji Iwai, Japan, 178min, A+30)

 

ชอบมากกว่าเวอร์ชั่น 2 ชั่วโมงมาก ๆ

 

8.OASIS OF NOW (2023, Chee Sum Chia, Malaysia, A+30)

 

เพิ่งรู้ว่าเวียดนามเขาก็เล่น “หมากเก็บ” เหมือนไทย 5555

 

ชอบ mise-en-scene ของหนังมาก ๆ

 

9.PRIMETIME MOTHER (2023, Sonny Calvento, Philippines, short film, A+30)

 

10.DID YOU SEE THE HOLE THAT MOM DIG? หอมสุวรรณ (2023, Pobwarat Maprasob, short film, A+30)

 

พอเราดูหนังเรื่องนี้ในเวลาใกล้เคียงกับ “หลานม่า” ความทรงจำที่เรามีต่อหนังสองเรื่องนี้เลยหลอมรวมเข้าด้วยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ 55555 เพราะตัวละคร grandmother ในหนังเรื่องนี้มีสามีเลว ๆ ที่ทิ้งเธอไป แล้วตัวละครอาม่าใน “หลานม่า” ก็มีสามีเลว ๆ เหมือนกัน เราก็เลยเหมือนเอาหนังสองเรื่องนี้มาผสมกันในหัวตัวเองโดยไม่รู้ตัว คือพอหนังเรื่อง “หลานม่า” ไม่ได้เล่ารายละเอียดว่า “ตาของพระเอก” มีพฤติกรรมเลว ๆ อย่างไรบ้าง เราก็เลยเหมือนจินตนาการไปเองโดยอัตโนมัติว่าเขาอาจจะคล้าย ๆ กับ grandfather ในหนังเรื่อง “หอมสุวรรณ” 55555

 

11.โอ้ละหนอไอ้แฟนเก่า – BADMIXY FEATURING SIN (2024, Ten Tosatid Darnkhuntod, music video, A+30)

 

12.FIX ANYTHING (2022, Le Lam Vien, Vietnam, sci-fi, short film, A+)

 

13.RENTBOY (2023, Leak Lyda, Cambodia, A/A-)

 

สรุปว่าใน 13 สัปดาห์แรกของปี 2024 เราดูหนังไปแล้ว  224 +  13 = 237 เรื่อง

 

Favorite Actor: Cory Michael Smith (Georgie) from MAY DECEMBER (2023, Todd Haynes, A+30)

 

ฉันรักเขา Lee Do-hyun from EXHUMA (2024, Jong Jae-hyun, South Korea, A+30)

 

ฉันรักเขา Tawfeek Barhom from THE FIRST OMEN (2024, Arkasha Stevenson, A+30)

 

Favorite Actress: Anna Baryshnikov from LOVE LIES BLEEDING (2024, Rose Glass, A+30)

 

เธอเป็นลูกสาวของ Mikhail Baryshnikov (WHITE NIGHTS)

 

No comments: