ONE FILM FESTIVAL AFTER ANOTHER
หลังจากเผชิญกับการแย่งชิงตั๋วหนังอย่าง THE
MASTERMIND (2025, Kelly Reichardt, A+30) ใน BKKIFF เราก็พบว่า ตั๋วหนังเรื่อง GODZILLA: FINAL WARS (2004, Ryuhei
Kitamura, Japan, 125min) ที่ PARAGON เกือบเต็มแล้ว
ใครที่เพิ่งเสร็จจากงาน BKKIFF ก็อย่าได้ชะล่าใจนะคะ
ต้องรีบปึ้บตั๋วโดยด่วนค่ะ
หรือไม่งั้นก็ไปดู GODZILLA: FINAL WARS ที่ MBK แทน เพราะที่นั่งยังเหลือเยอะ
ตอนนี้วางแผนว่า วันจันทร์ที่ 20 ต.ค.
เราอาจจะดู GODZILLA VS. KING GHIDORAH ที่ MBK รอบ 1615 แล้วไปดูหนังสเปนต่อรอบ 1930
แล้ววันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค. เราอาจจะดู DESTROY
ALL MONSTERS รอบ 11.00 ที่ PARAGON, MOTHRA VS. GODZILLA รอบ 1330 ที่ PARAGON และ GODZILLA FINAL
WARS รอบ 1805 ที่ MBK
+++
ฉันรักเขา Shohret Nur นักดนตรีชาวอุยกูร์จาก
GEOPOETICS (2024, Mukaddas Mijit, video installation,12min, A+30)
+++
FILMS SEEN ON THURDAY 16 OCT, 2025
อยากทำอันดับหนัง BKKIFF กับเขาบ้าง
แต่ยังมองไม่เห็นวี่แววว่าจะได้มีเวลาทำอันดับเมื่อไหร่ เพราะเราต้องรีบออกไปเก็บหนังเรื่องต่าง
ๆ ที่เข้าโรงฉายในตอนนี้ 55555
เรียงตามลำดับการดู
1. RELAY (2024, David Mackenzie,
112min, A+30)
นึกว่าต้องปะทะกับ THE SHADOW’S EDGE
(2025, Larry Yang, Hong Kong/China, A+30) และ CASE 137
(2025, Dominik Moll, France, A+30) ในแง่หนังที่สะท้อนความ paranoid ของโลกยุคปัจจุบันเหมือนกัน (ความหวาดระแวง CCTV, การถูกแกะรอยจากโทรศัพท์มือถือ,
การเข้าไปติดอยู่ในรูปถ่ายหรือวิดีโอในโทรศัพท์มือถือของคนแปลกหน้า, etc.) แต่ในบรรดา 3 เรื่องนี้ เราชอบ CASE 137 มากที่สุด
2. NORMAL (2022, Toomaj Salehi, Iran,
music video/video installation, 3min, A+30)
ดูที่ชั้น 8 BACC เราเพิ่งรู้เรื่องของ
Toomaj Salehi จากนิทรรศการนี้ หนักที่สุด เขาเป็นแรปเปอร์หนุ่มชาวอิหร่านที่ร่วมประท้วงเรียกร้องสิทธิสตรีในปี
2022-2023 เขาก็เลยถูกจับกุม และ “ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต”!!!!!!!!! โชคยังดีที่ “เสียงเรียกร้องจากนานาประเทศ”
ช่วยกดดันให้อิหร่านปล่อยตัวเขาในเวลาต่อมา
3. a video installation in a mosquito net about Myanmar
ดูที่ชั้น 8 BACC ไม่รู้ทั้งชื่อวิดีโอและศิลปิน
แต่อาจจะเป็นผลงานของ SACCA ชอบมาก ๆ มันเป็นวิดีโอที่บันทึก
“ความปรารถนาของชาวเมียนมา” ซึ่งรวมถึง “คำสาปแช่งเผด็จการทหาร” ด้วย
4. GEOPOETICS (2024, Mukaddas Mijit, video
installation,12min, A+30)
ดูที่ชั้น 8 BACC
5. GOOD BOY (2025, Ben Leonberg, 72min, A+)
เราชอบแค่ไอเดียตั้งต้นของหนัง แต่พอดู ๆ ไปเราก็รู้สึกว่าหนังมันไม่สนุกเท่าไหร่
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่อินกับหนัง เพราะเราไม่ชอบหมา และสิ่งนี้ก็แตกต่างจาก PRESENCE
(2024, Steven Soderbergh, A+30) ที่เราชอบทั้งไอเดียตั้งต้นและตัวหนังทั้งเรื่อง
6. KANTARA A LEGEND: CHAPTER 1 (2025, Rishab Shetty, India,
165min, A+30)
รู้สึกว่าหนังที่เขาบอกว่า “ยาว ๆ” ใน BKKIFF
2025 มันไม่ได้ยาวสักเท่าไหร่ เพราะ “หนังอินเดีย” ที่เข้าโรงตามปกติในกรุงเทพทุกสัปดาห์
มันก็ยาวเกือบ 3 ชั่วโมงอยู่แล้ว เหมือนการที่เราตามดูหนังอินเดียเป็นประจำ
มันช่วยหล่อหลอมให้เรารู้สึกว่าหนังความยาว 165 นาทีนี่ถือเป็น “เรื่องปกติ” 55555
ชอบความ EXOTIC ของหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงสุดขีด
คือช่วงหลัง intermission เป็นต้นไปนี่บ้าไปแล้ว
ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป สุดขีดคลั่งมาก ๆ นึกว่าได้เข้าร่วมในพิธีกรรมทางศาสนาในวิหารโบราณอะไรสักอย่าง
หรือเข้าร่วมใน “การสวดภาณยักษ์” ในโบราณสถานลี้ลับ คือจริง ๆ แล้วช่วงครึ่งหลังของหนังเป็น
“หนังสงคราม” นะ แต่แทนที่มันจะให้ความรู้สึกว่า “เรากำลังดูหนังสงคราม”
มันกลับทำให้เรารู้สึกว่า “เรากำลังเข้าร่วมในพิธีกรรมของศาสนาโบราณ” มากกว่า
ที่เราบอกว่าชอบความ EXOTIC เป็นเพราะว่า สาเหตุที่เราชอบหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงสุดขีด
เป็นเพราะว่าช่วงครึ่งหลังของหนังมันให้ “ประสบการณ์อันรุนแรงที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน”
นะ คือถ้าหากเราได้เจอประสบการณ์แบบนี้ทุกสัปดาห์ เราก็คงไม่ชอบมัน (เหมือนกับเราได้เข้าร่วมการสวดภาณยักษ์ทุกสัปดาห์
เราก็อาจจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับการสวดภาณยักษ์อีกต่อไป) แต่พอหนังเรื่องนี้มันทำให้เราได้สัมผัสกับความบ้าคลั่งแบบนี้เป็นครั้งแรก
เราก็เลยตกตะลึงพรึงเพริดกับหนังเรื่องนี้มาก ๆ
No comments:
Post a Comment