เทศกาลหนังสั้นมาราธอนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่
4 พ.ย.นี้แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็เลยทำลิสท์งาน video installations ที่เราต้องรีบตามเก็บช่วงนี้ดีกว่า เราจะได้ไม่งงว่าต้องรีบไปดูงานไหนบ้าง
นิทรรศการศิลปะที่เรายังไม่ได้ไปดู
ที่เราเดาว่าอาจจะมีงาน video ในนี้ด้วย (แต่ถ้างานไหนไม่มี
video ก็มา comment บอกเราได้นะ 55555)
1. GHOST 2568
At 469 Prasumane Road
At Asvin
At Baan Taywase
At BACC
At Bangkok CityCity Gallery
At DIB26
At Jim Thompson
At Min Sen Machinery
Wednesday-Sunday 1100-1800
Until 16 Nov
2. ศิลป์ พีระศรี 24
ที่ศิลปากร
จันทร์ถึงเสาร์ 0900-1800 น.
Until 22 Nov
3. ACCLIMATE UNDONE
At Storage
Thursday-Sunday 1300-1800
Until 23 Nov
4. UNDO PLANET PART 1
At BACC
Until 25 Nov
5. UNTIL WE MEET AGAIN
At BACC
Until 26 Nov
6. MELTING MAP
At Seacon Square
Until 14 Dec
7. Araya Rasdjarmrearnsook Part 1
At 100 Tonson
Until 18 Jan
QUADRUPLE FILM WISH LIST
1. SIRAT (2025, Oliver Laxe, Spain, A+30)
2. HAMADA (2018, Eloy Domínguez Serén, Sweden | Germany |
Norway, A+30)
3. 3 STOLEN CAMERAS (2017, Equipe Media, RAFILM Filmmakers
Collective, Sweden/Western Sahara, A+30)
4. LOST LAND (2010, Pierre-Yves Vandeweerd, documentary,
A+30)
พอเราดู SIRAT เราก็เลยนึกถึงหนังอีก
3 เรื่องโดยบังเอิญ เพราะหนังอีก 3
เรื่องที่เราเคยดูและชอบอย่างสุดขีดนี้พูดถึงสงครามใน Western Sahara ซึ่งเป็นดินแดนที่ต้องการประกาศตัวเป็นเอกราช แยกออกจากประเทศ Morocco
โดยดินแดน Western Sahara นี้ตั้งอยู่ทางใต้ของ
Morocco และอยู่ติดกับประเทศ Mauritania
คือหนังเรื่อง SIRAT ไม่ได้พูดถึงสงครามใน
Western Sahara โดยตรง
แต่ตัวละครในหนังเหมือนจะเดินทางไปทางใต้ของ Morocco ในส่วนที่ใกล้กับ
Mauritania เราก็เลยเข้าใจว่า จริง ๆ
แล้วเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในดินแดน Western Sahara ที่เต็มไปด้วยสงครามและความขัดแย้งนี่แหละ เพียงแต่ว่า SIRAT ไม่ได้พูดแบบเจาะจงถึงสิ่งนี้โดยตรง
เพื่อที่เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้จะได้มีความเป็นสากลมากขึ้น “สงคราม”
ในหนังเรื่องนี้เหมือนจะเป็นสงครามแบบสากล ที่หลาย ๆ ประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะมีการพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามด้วย
แต่พื้นที่ที่เกิดเหตุตามเนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้
อาจจะเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดสงครามมาเป็นเวลานานแล้ว
เราก็เลยเดาว่าพื้นที่ที่เกิดเหตุของหนังเรื่องนี้มันน่าจะเป็นดินแดน Western
Sahara นี่แหละ
ซึ่งถ้าหากผู้ชมท่านใดสงสัยว่าทำไมดินแดน Western
Sahara มันถึงเต็มไปด้วยสงคราม, ความขัดแย้ง
และอันตรายรุนแรงถึงเพียงนี้ ก็สามารถดูได้จากหนังเรื่อง LOST LAND, 3
STOLEN CAMERAS และ HAMADA ตามที่เราลิสท์ไว้ข้างต้นจ้ะ
เราชอบหนัง 3 เรื่องนี้อย่างสุดขีดมาก ๆ
และเราเดาว่า ถ้าหากตัวละครใน SIRAT เคยดูหนังเรื่อง LOST LAND, 3 STOLEN CAMERAS และ HAMADA มาก่อนหน้านี้แล้ว ตัวละครในหนังเรื่อง SIRAT ก็คงจะไม่ทำตัว
ignorant แบบนั้น และคงจะไม่ตัดสินใจเดินทางเข้าไปใน Western
Sahara แบบนั้น 55555 เพราะฉะนั้น
ถ้าหากคุณไม่อยากประสบชะตากรรมแบบเดียวกับตัวละครในหนังเรื่อง SIRAT คุณก็ควรจะดูหนัง 3 เรื่องนี้ด้วยค่ะ
Edit เพิ่ม: ปัญหาเรื่องสงครามใน
Western Sahara มันเกิดจากการที่สเปนเคยยึดครองดินแดนนี้เป็นอาณานิคมมาก่อน
แล้วหลังจากนั้นสเปนก็ตัดสินใจจะสละอาณานิคมนี้ โดยจะยกดินแดนนี้ให้ประเทศ Morocco
กับ Mauritania ทั้ง ๆ ที่ชนเผ่า Sahrawi
ที่อาศัยในดินแดนนี้ไม่เต็มใจ
เพราะฉะนั้นเราก็เลยรู้สึกว่า
การที่ตัวละครชาวสเปนใน SIRAT ต้องมาเผชิญชะตากรรมใน Western
Sahara ในแง่นึงมันก็เลยเหมือนเป็น “กรรมตามสนอง” ในรูปแบบนึง
เพราะว่าสงครามใน Western Sahara มันก็มีต้นกำเนิดส่วนนึงมาจากการที่สเปนเคยยึดครองดินแดนนี้เป็นอาณานิคม
ข้อมูลจาก Wikipedia
Spain previously
colonized the territory as the Spanish
Sahara until 1976, when it attempted
to transfer its administration to Morocco and Mauritania while
ignoring an International Court of Justice's verdict that those
countries had no sovereignty over Western Sahara. A war erupted and the Polisario
Front—a national liberation movement recognized by the United Nations as
the legitimate representative of the people of Western
Sahara—proclaimed the Sahrawi Arab Democratic Republic (SADR)
with a government-in-exile in Tindouf,
Algeria. Mauritania withdrew its claims in 1979, and Morocco secured de
facto control of most of the territory, including all major cities and
most natural resources.
เราเคยเขียนถึง LOST LAND ไว้ที่
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10206511047558306&set=a.10205329383057432
++++
Favorite Scene from AFTERNOONS OF SOLITUDE (2024, Albert
Serra, Spain, documentary, A+30)
ได้ฟังเทป “เทศกาลหนัง พังกระโปก!” ของ Man on Film แล้วมีการคุยกันถึงฉากโปรดในหนังเรื่อง
AFTERNOONS OF SOLITUDE เราก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า
ฉากโปรดของเราในหนังเรื่องนี้ คือ “ฉากในลิฟท์” ที่ถ่าย Andres Roca Rey จาก “LOW ANGLE”
คือเราไม่แน่ใจจุดประสงค์ของการถ่ายฉากนี้ใน LOW
ANGLE นะ คือตอนแรกเรานึกว่า เขาถ่ายด้วย LOW ANGLE เพราะพื้นที่ในลิฟท์มันแคบ ก็เลยวางกล้องไม่สะดวก แต่เห็นบางคนบอกว่า
ฉากนี้เขาถ่ายด้วย LOW ANGLE เพื่อขับเน้นความยิ่งใหญ่ของ
Andres Roca Rey หรือเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งใหญ่หรือความพยายามทำตัวเองให้รู้สึกฮึกเหิมของตัว
Andres Roca Rey เราก็เลยคิดว่า สาเหตุที่เขาใช้ low
angle น่าจะเป็นตามที่คนอื่น ๆ เขาวิเคราะห์ไว้นี่แหละค่ะ
ส่วนสาเหตุที่เราชอบฉากนี้อย่างสุดขีด
เพราะการถ่ายผู้ชายหนุ่มหล่อด้วย LOW ANGLE แบบนี้เป็นเวลานาน
ทำให้ดิฉันรู้สึกเสียวมาก ๆ ค่ะ 55555
น่าเสียดายที่เราหาภาพจากฉากนี้ไม่เจอในอินเทอร์เน็ต
เราก็เลยเอารูปผู้ชายที่ถ่ายด้วย LOW ANGLE มาเป็นตัวอย่างให้ดูแทน
แต่ในหนังเรื่อง AFTERNOONS OF SOLITUDE เขาไม่ได้ใช้องศาในการถ่ายที่ต่ำถึงขั้นในรูปตัวอย่างนี้นะ
55555
อย่างไรก็ดี ถึงแม้เราจะชอบหนังเรื่อง AFTERNOONS
OF SOLITUDE ที่ถ่ายผู้ชายหนุ่มหล่อด้วย LOW ANGLE ในลิฟท์ เราก็ไม่ได้รู้สึกพิศวาสตัว Andres Roca Rey ในความเป็นจริงนะ เพราะเราสงสารวัวกระทิง ก็เลยไม่สามารถทำใจให้ชอบ Matador ได้ค่ะ
รูปแรกเป็นตัวอย่างของการถ่ายผู้ชายด้วย angle
ที่ถูกต้อง ส่วนรูปที่สองมาจาก AFTERNOONS OF SOLITUDE
+++
ฉันเพิ่งรู้ว่ามีคำศัพท์ไทย “ชะวากทะเล”
อยู่ด้วย
No comments:
Post a Comment