THE ETERNAL LIGHT (2008, Tulapop Saenjaroen, A++++++++++)

THIS IS MY COMMENT IN BIOSCOPE WEBBOARD:
http://www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=1263.0

ต้องขอบคุณ THIRD CLASS CITIZEN มากๆที่จัดงานนี้ขึ้นมา รู้สึกเหมือนสวรรค์มากๆที่ได้ดูหนังของตุลพบเมื่อวานนี้ ชอบหนังทุกเรื่องที่ได้ดูเมื่อวานนี้ในระดับ A+ นะ ยกเว้น WATER ที่ชอบแค่ A+/A อาจจะเป็นเพราะว่าหนังสั้นเกินไปจนไม่ทำให้เรารู้สึกอะไรที่รุนแรงขณะที่ได้ดูรอบแรก

โดยส่วนตัวแล้ว หนังในแนวทางของตุลพบไม่ใช่แนวทางที่เราชอบที่สุดนะ เพราะเราชอบหนังที่เน้น “อารมณ์ความรู้สึก” น่ะ แต่เราคิดว่าหนังของตุลพบดูเหมือนจะไม่ได้เน้นเรื่องนี้ แต่เน้นไปที่ idea, concept, โครงสร้าง หรือการทดลองกับสิ่งต่างๆนานา ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกเราโดยตรง แต่ก็แปลกตรงที่ว่า ถึงแม้หนังของตุลพบไม่ได้กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกเรา แต่มันก็มีพลังอะไรบางอย่างในหนังที่เราชอบมากๆ ซึ่งเราก็บรรยายไม่ถูกเหมือนกันว่าพลังในหนังของตุลพบมันเป็นพลังอะไรยังไง เราไม่อยากจะเรียกว่าหนังของตุลพบเป็นหนังที่กระตุ้นให้ผู้ชมใช้ความคิดนะ เพราะเราดูหนังของเขาแล้วเราก็คิดอะไรไม่ออก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหนังของเขาต้องการจะสื่อถึงอะไร แต่เราก็ไม่รู้สึกว่าการไม่เข้าใจหนังของเขาก่อให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดแต่อย่างใด

ชอบ THE ETERNAL LIGHT มากๆ โดยเฉพาะช่วงแรกของหนังที่มันจูนติดกับเรามากๆ เราขอสารภาพตามตรงว่า เราอาจจะชอบหนังเรื่องอื่นๆของตุลพบในระดับ A+ ก็จริง แต่หนังเหล่านั้นมันก็ยังทำให้เรารู้สึก “อึดอัด” กับเนื้อเรื่องหรือสารหรือแนวคิดหรืออะไรบางอย่างในหนัง แต่ THE ETERNAL LIGHT กลับทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย และไม่รู้สึกถูกกดทับด้วยเนื้อเรื่อง, สาร หรืออะไรบางอย่างอีกต่อไป

เคยดูหนังเรื่อง OUR WAVES (A+) ของตุลพบ หนังเรื่องนี้ก็มีฉากที่ถ่ายท้องน้ำเป็นเวลายาวนานมากๆ

รู้สึกดีที่ได้ฟังช่วง Q&A เพราะมีหลายอย่างที่เราไม่ได้สังเกตหรือมีหลายอย่างที่เราอาจจะลืมไปได้ง่ายๆถ้าหากไม่ได้ฟังคนอื่นพูดถึง อย่างเช่นเรื่องเสียงบางเสียงในหนัง หรือเรื่องความหมกมุ่นกับของเหลว