ABATTOIR (2016, Darren Lynn Bousman,
A-)
ชอบช่วงครึ่งแรกของหนังมากใ นระดับ A+30 แต่หลังจากนั้นเราก็ง่วงมาก หลับๆตื่นๆ
คือหนังมันมีไอเดียบางอย่าง ที่น่าสนใจนะ ทั่งเรื่องการดูดซับพลังจาก "สถานที่", การสิ้นศรัทธาในพระเจ้า แต่เราว้าหนังอ่อนด้อยด้านบ รรยากาศและความขลังมากๆเลยน ่ะ
คือเนื้อเรื่องของหนังมันเอ ื้อต่อการสร้างบรรยากาศหลอน ๆ แต่หนังมันสร้างบรรยากาศอย่ างนั้นไม่ได้เลย
THE HANDMAIDEN (2016, Park
Chan-wook, South Korea, A+30)
1.เหมือนมีคนอยากรู้ว่าเราค ิดยังไงกับหนังเรื่องนี้
เราก็ขอตอบสั้นๆว่า เราชอบมาก หนังสนุกมาก แต่เรา “ไม่อินเป็นการส่วนตัว”
เราก็เลยไม่ได้อยากเขียนถึง หนังเรื่องนี้ เพราะเรามองว่าคนอื่นๆน่าจะ เขียนถึงหนังเรื่องนี้ได้ดี กว่าเรามากนัก
(โปรดอ่านที่ฟิล์มซิคและ Ratchapoom เขียนถึงหนังเรื่องนี้)
และเราไม่มีแง่มุมส่วนตัวอะ ไรที่มีต่อหนังเรื่องนี้ คือก็รู้สึกว่าทุกอย่างดีงาม
สวย สนุก แต่หนังมันเหินห่างจากเราใน ระดับนึง
2.แน่นอนว่าเราชอบ STOKER (2013, Park Chan-wook) มากกว่า THE HANDMAIDEN หลายเท่า เพราะในกรณี STOKER นั้น เราอินกับตัวนางเอกมากๆ มันเหมือนกับว่าอารมณ์ความร ู้สึกบางอย่างในตัวนางเอก STOKER
มันจูนติดกับเราพอดี STOKER ก็เลยกลายเป็นหนังที่เราชอบ มากที่สุดของ
Park Chan-wook
3.ส่วนกรณีของ THE HANDMAIDEN นั้น เรามองว่ามันส่งผลกระทบต่อเ ราในแบบเดียวกับ SYMPATHY FOR
LADY VENGEANCE (2005, Park Chan-wook) น่ะ
นั่นก็คือมันมีตัวละครหญิงท ี่ “ในทางทฤษฎี” นั้น มันน่าจะเข้าทางเรามากๆ เพราะมันเป็นตัวละครผู้หญิง ที่ไม่ใช่นางเอกสาวนิสัยดีท ี่อ่อนแอ
แต่เป็นผู้หญิงที่มีอิทธิฤท ธิ์และมีความร้ายอยู่ในตัว แต่ “ในทางปฏิบัติ” นั้น เรากลับพบว่าเราไม่ได้รู้สึ กผูกพันกับตัวละครหญิงในหนั งทั้งสองเรื่องนี้เป็นการส่ วนตัว
มันเป็นตัวละครที่เข้าทางเร า แต่เราไม่ได้ identify กับมัน
ซึ่งแตกต่างจากนางเอก STOKER
ซึ่งเรื่องแบบนี้เราก็ไม่รู ้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอ ะไร
เราไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุท ี่ทำให้เรา identify หรือผูกพันอย่างลึกซึ้งกับต ัวละครตัวไหน
หรืออะไรคือสาเหตุที่ทำให้เ รารู้สึกเหินห่างจากตัวละคร ตัวไหน
เราบอกได้แต่ว่าเราอินกับมั นหรือไม่อินกับมัน ซึ่งเราก็ไม่รู้สาเหตุแน่ชั ดว่าเพราะอะไร
เรื่องแบบนี้ทำให้นึกถึงควา มรู้สึกของเราที่มีต่อหนังข อง
Nagisa Oshima กับ Shohei Imamura นะ
คือ Oshima กับ Imamura ทำหนัง feel
bad เหมือนกัน และชอบนำเสนอตัวละครหญิงร้า ยๆเหมือนกัน
และเราก็ชอบหนังของทั้งสองค นนี้มากๆ แต่เราจะอินกับหนังของ Oshima มากๆ แต่ไม่ “อินเป็นการส่วนตัว” กับตัวละครหญิงร้ายๆในหนังข อง Imamura ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำ ไม
แต่เราไม่ได้จะบอกว่าหนังขอ ง Park
Chan-wook กับ Shohei Imamura คล้ายกันนะ
เพราะหนังของสองคนนี้ต่างกั นมากๆในแง่ที่ว่า เรารู้สึกว่าหนังของ Park
Chan-wook มีการ “สาดเสียเทเสีย” ทางอารมณ์ใส่ผู้ชมอย่างรุนแ รง แต่หนังของ Imamura จะไม่เน้นกระตุ้นอารมณ์ผู้ช มแบบนั้น
4.ส่วนสิ่งที่เราชอบในหนังเ รื่องนี้นั้น
มันก็เป็นสิ่งที่ผู้ชมทุกคน น่าจะเห็นได้ชัดอยู่แล้ว เราก็เลยขี้เกียจเขียนถึง
555 อย่างเช่น งานด้านภาพที่งดงาม, plot twist ที่คิดมาดีมาก สนุกมาก, ฉากต่างๆที่เราไม่เคยเห็นหร ือไม่ค่อยได้เห็นในหนังเรื่ องอื่นๆ
อย่างเช่น ฉากการเกลาฟัน, การกระตุ้นอารมณ์อีโรติกของ ตัวละครผ่านทาง
“งานเขียน”, การกระตุ้นอารมณ์อีโรติกของ ผู้ชมผ่านทาง
visual
เรายอมรับว่า เราก็มองเห็นแต่ผิวเปลือกขอ งหนังเรื่องนี้นะ เราไม่สามารถวิเคราะห์หนังเ รื่องนี้อย่างลึกซึ้งได้เหม ือนคนอื่นๆ
5.สิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือว่า เราเดา conflict หลักของหนังผิดน่ะ 555 คือตอนแรกๆเรานึกว่ามันจะเป ็นความขัดแย้งระหว่างชนชั้น น่ะ
ระหว่างคนรวยกับคนจน แบบหนังอย่าง SISTER, MY SISTER (1994, Nancy Meckler)
หรือ LA CEREMONIE (1995, Claude Chabrol) ที่มีตัวละครสาวใช้เลสเบียน เหมือนกัน
หรือเหมือนอย่าง THE HOUSEMAID (2010, Im Sang-soo) โดยในหนังสามเรื่องนั้นมันจ ะเป็น
class conflict ซึ่งในช่วงแรกๆของ THE HANDMAIDEN เราก็นึกว่ามันจะเป็นแบบนั้ นด้วย เพราะตัวละครสาวใช้มันเหมือ นหลุดออกมาจากโลกในนิยายประ เภท
OLIVER TWIST ที่ปัญหาเรื่องชนชั้นเป็นปั ญหาสำคัญ
ตอนแรกเรานึกว่าหนังจะพูดถึ งความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่น กับเกาหลีด้วย
แต่หนังก็ไม่ได้เอาเรื่องนี ้มาเป็น conflict หลัก
พอดูๆไป เราก็พบว่า conflict สำคัญในหนังมันเป็นเรื่องระ หว่างเพศหญิงกับเพศชายมากกว ่า
1.เหมือนมีคนอยากรู้ว่าเราค
2.แน่นอนว่าเราชอบ STOKER (2013, Park Chan-wook) มากกว่า THE HANDMAIDEN หลายเท่า เพราะในกรณี STOKER นั้น เราอินกับตัวนางเอกมากๆ มันเหมือนกับว่าอารมณ์ความร
3.ส่วนกรณีของ THE HANDMAIDEN นั้น เรามองว่ามันส่งผลกระทบต่อเ
ซึ่งเรื่องแบบนี้เราก็ไม่รู
เรื่องแบบนี้ทำให้นึกถึงควา
แต่เราไม่ได้จะบอกว่าหนังขอ
4.ส่วนสิ่งที่เราชอบในหนังเ
เรายอมรับว่า เราก็มองเห็นแต่ผิวเปลือกขอ
5.สิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือว่า เราเดา conflict หลักของหนังผิดน่ะ 555 คือตอนแรกๆเรานึกว่ามันจะเป
ตอนแรกเรานึกว่าหนังจะพูดถึ
พอดูๆไป เราก็พบว่า conflict สำคัญในหนังมันเป็นเรื่องระ
No comments:
Post a Comment