Saturday, September 03, 2016

THE HANDMAIDEN

ABATTOIR (2016, Darren Lynn Bousman, A-)

 ชอบช่วงครึ่งแรกของหนังมากในระดับ A+30 แต่หลังจากนั้นเราก็ง่วงมาก หลับๆตื่นๆ คือหนังมันมีไอเดียบางอย่างที่น่าสนใจนะ ทั่งเรื่องการดูดซับพลังจาก "สถานที่", การสิ้นศรัทธาในพระเจ้า แต่เราว้าหนังอ่อนด้อยด้านบรรยากาศและความขลังมากๆเลยน่ะ คือเนื้อเรื่องของหนังมันเอื้อต่อการสร้างบรรยากาศหลอนๆ แต่หนังมันสร้างบรรยากาศอย่างนั้นไม่ได้เลย


THE HANDMAIDEN (2016, Park Chan-wook, South Korea, A+30)

1.เหมือนมีคนอยากรู้ว่าเราคิดยังไงกับหนังเรื่องนี้ เราก็ขอตอบสั้นๆว่า เราชอบมาก หนังสนุกมาก แต่เรา “ไม่อินเป็นการส่วนตัวเราก็เลยไม่ได้อยากเขียนถึงหนังเรื่องนี้ เพราะเรามองว่าคนอื่นๆน่าจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ได้ดีกว่าเรามากนัก (โปรดอ่านที่ฟิล์มซิคและ Ratchapoom เขียนถึงหนังเรื่องนี้) และเราไม่มีแง่มุมส่วนตัวอะไรที่มีต่อหนังเรื่องนี้ คือก็รู้สึกว่าทุกอย่างดีงาม สวย สนุก แต่หนังมันเหินห่างจากเราในระดับนึง

2.แน่นอนว่าเราชอบ STOKER (2013, Park Chan-wook) มากกว่า THE HANDMAIDEN หลายเท่า เพราะในกรณี STOKER นั้น เราอินกับตัวนางเอกมากๆ มันเหมือนกับว่าอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างในตัวนางเอก STOKER มันจูนติดกับเราพอดี STOKER ก็เลยกลายเป็นหนังที่เราชอบมากที่สุดของ Park Chan-wook 

3.ส่วนกรณีของ THE HANDMAIDEN นั้น เรามองว่ามันส่งผลกระทบต่อเราในแบบเดียวกับ SYMPATHY FOR LADY VENGEANCE (2005, Park Chan-wook) น่ะ นั่นก็คือมันมีตัวละครหญิงที่ ในทางทฤษฎีนั้น มันน่าจะเข้าทางเรามากๆ เพราะมันเป็นตัวละครผู้หญิงที่ไม่ใช่นางเอกสาวนิสัยดีที่อ่อนแอ แต่เป็นผู้หญิงที่มีอิทธิฤทธิ์และมีความร้ายอยู่ในตัว แต่ ในทางปฏิบัตินั้น เรากลับพบว่าเราไม่ได้รู้สึกผูกพันกับตัวละครหญิงในหนังทั้งสองเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว มันเป็นตัวละครที่เข้าทางเรา แต่เราไม่ได้ identify กับมัน ซึ่งแตกต่างจากนางเอก STOKER

ซึ่งเรื่องแบบนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร เราไม่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรา identify หรือผูกพันอย่างลึกซึ้งกับตัวละครตัวไหน หรืออะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกเหินห่างจากตัวละครตัวไหน เราบอกได้แต่ว่าเราอินกับมันหรือไม่อินกับมัน ซึ่งเราก็ไม่รู้สาเหตุแน่ชัดว่าเพราะอะไร

เรื่องแบบนี้ทำให้นึกถึงความรู้สึกของเราที่มีต่อหนังของ Nagisa Oshima กับ Shohei Imamura นะ คือ Oshima กับ Imamura ทำหนัง feel bad เหมือนกัน และชอบนำเสนอตัวละครหญิงร้ายๆเหมือนกัน และเราก็ชอบหนังของทั้งสองคนนี้มากๆ แต่เราจะอินกับหนังของ Oshima มากๆ แต่ไม่ อินเป็นการส่วนตัวกับตัวละครหญิงร้ายๆในหนังของ Imamura ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

แต่เราไม่ได้จะบอกว่าหนังขอPark Chan-wook กับ Shohei Imamura คล้ายกันนะ เพราะหนังของสองคนนี้ต่างกันมากๆในแง่ที่ว่า เรารู้สึกว่าหนังของ Park Chan-wook มีการ สาดเสียเทเสียทางอารมณ์ใส่ผู้ชมอย่างรุนแรง แต่หนังของ Imamura จะไม่เน้นกระตุ้นอารมณ์ผู้ชมแบบนั้น

4.ส่วนสิ่งที่เราชอบในหนังเรื่องนี้นั้น มันก็เป็นสิ่งที่ผู้ชมทุกคนน่าจะเห็นได้ชัดอยู่แล้ว เราก็เลยขี้เกียจเขียนถึง 555 อย่างเช่น งานด้านภาพที่งดงาม, plot twist ที่คิดมาดีมาก สนุกมาก, ฉากต่างๆที่เราไม่เคยเห็นหรือไม่ค่อยได้เห็นในหนังเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น ฉากการเกลาฟัน, การกระตุ้นอารมณ์อีโรติกของตัวละครผ่านทาง งานเขียน”, การกระตุ้นอารมณ์อีโรติกของผู้ชมผ่านทาง visual

เรายอมรับว่า เราก็มองเห็นแต่ผิวเปลือกของหนังเรื่องนี้นะ เราไม่สามารถวิเคราะห์หนังเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งได้เหมือนคนอื่นๆ

5.สิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือว่า เราเดา conflict หลักของหนังผิดน่ะ 555 คือตอนแรกๆเรานึกว่ามันจะเป็นความขัดแย้งระหว่างชนชั้นน่ะ ระหว่างคนรวยกับคนจน แบบหนังอย่าง SISTER, MY SISTER (1994, Nancy Meckler) หรือ LA CEREMONIE (1995, Claude Chabrol) ที่มีตัวละครสาวใช้เลสเบียนเหมือนกัน หรือเหมือนอย่าง THE HOUSEMAID (2010, Im Sang-soo) โดยในหนังสามเรื่องนั้นมันจะเป็น class conflict ซึ่งในช่วงแรกๆของ THE HANDMAIDEN เราก็นึกว่ามันจะเป็นแบบนั้นด้วย เพราะตัวละครสาวใช้มันเหมือนหลุดออกมาจากโลกในนิยายประเภท OLIVER TWIST ที่ปัญหาเรื่องชนชั้นเป็นปัญหาสำคัญ 

ตอนแรกเรานึกว่าหนังจะพูดถึงความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีด้วย แต่หนังก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้มาเป็น conflict หลัก

พอดูๆไป เราก็พบว่า conflict สำคัญในหนังมันเป็นเรื่องระหว่างเพศหญิงกับเพศชายมากกว่า

No comments: