Music and Film: หนังเรื่อง THE END OF THE
WORLD IS REAL (2016, Orathai Mongkolmahasamut, A+25) ทำให้เราชอบเพลง
“ขอจันทร์” อย่างรุนแรงมาก ถือเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ “ภาพยนตร์” ทำให้ “เพลง”
เพราะขึ้นมากในความรู้สึกของเรา เหมือนในกรณีที่หนังเรื่อง WHEN KOSIT WENT
TO DEATH (2001, Kosit Juntaratip) ทำให้เรารู้สึกว่าเพลง “ทะเลใจ”
มันเพราะมาก หลังจากที่เราไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน
ฉากเพลง “ขอจันทร์” ใน THE END OF THE WORLD IS REAL นี่ถือเป็นฉากคลาสสิคฉากนึงเลยสำหรับเรา
ดูแล้วแทบร้องไห้ มันเป็นฉากที่เด็กสาวมัธยมที่ไม่มีเพื่อน,
ไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว, ไม่มีที่พึ่งทางใจใดๆ ไปคาราโอเกะคนเดียว
และร้องเพลงนี้คนเดียวในห้องคาราโอเกะ โดยมีเพียงแค่เพื่อนทางเฟซบุ๊คคนหนึ่งที่รับรู้เรื่องนี้
มันเป็นฉากที่อ้างว้างสุดๆ เหงาสุดๆ สำหรับเรา แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังไม่สามารถตีแผ่ความทุกข์ระทมในใจของตัวละครเอกสองตัวในหนังออกมาได้อย่างทรงพลังมากพอ
เราก็เลยชอบหนังเรื่องนี้แค่ในระดับ A+25 ทั้งที่จริงๆแล้ว
เราว่าหนังคิดตัวละครสองตัวนี้ออกมาดีมากๆ และตัวละครสองตัวนี้มีศักยภาพที่จะกลายเป็นตัวละครที่ทรงพลังมากๆได้
คือเราว่าตัวละครสองตัวในหนังเรื่องนี้มี “พลังงานศักย์” สูงมากน่ะ แต่หนังดูเหมือนจะแปรพลังงานศักย์
(แห่งความทุกข์ระทม อ้างว้าง หดหู่) ในตัวละครสองตัวนี้ออกมาเป็นพลังงานจลน์ให้ผู้ชมสัมผัสได้เพียงแค่
50% เท่านั้น
No comments:
Post a Comment