ตอบคุณสวรรค์ชิต
ยังไม่ได้ดู SILOM SOI 2 เลยค่ะ แต่ก็อยากดูมากๆ ถ้าคุณสวรรค์ชิตได้ไปดูก็ช่วยกลับมาเล่าให้ฟังด้วยนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ตอบคุณ CHRIS’S GIRLFRIEND
--ดีใจมากค่ะที่คุณ CHRIS’S GIRLFRIEND ชอบ KIM HA-NEUL และ THE GHOST
--ชอบ KARINA LAM และหนังเรื่อง KOMA มากๆเหมือนกันค่ะ
--อยากดู JARHEAD มากๆเลย น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ลงโรงฉาย
ตอบน้อง ZM
เริ่มจากมีคนมาถาม ว่าเป็นเกย์ไหม สนใจเค้าไหม และสุดท้ายก็จบด้วยคำชักชวนว่า..."ต้องลอง" เสียดาย ไม่ได้หล่อมากมาย และเป็นคนแถบตะวันออกกลาง ว้า!! ถ้าเป็นเสป๊กล่ะก็ ยินยอมพลีกาย
ถ้าหากเป็นพี่ ก่อนที่พี่จะปฏิเสธเขาไป พี่จะต้องสืบดูก่อนค่ะว่า เขาเป็นลูกชายเจ้าของบ่อน้ำมันหรือเปล่า โฮะๆๆๆ
--เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า หนัง/ละครเกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ที่ชอบมากๆมีอีก 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ
1.หนังชุด THE ADVENTURES OF IRON PUSSY
2.ละครชุด ELECTRA WOMAN AND DYNA GIRL (1976) ที่เคยมาฉายทางช่อง 3 ตอนดิฉันยังเด็กๆ จำรายละเอียดของละครเรื่องนี้ไม่ได้แล้ว จำได้เลาๆว่าละครออกบ๊องๆบวมๆ และมีตัวละครศาสตราจารย์สติเฟื่องด้วย อยากดูละครเรื่องนี้อีกรอบมากๆ
นำแสดงโดย DEIDRE HALL ในบทของ ELCTRA WOMAN และ JUDY STRANGIS ในบทของ DYNA GIRL
http://www.imdb.com/title/tt0147762/
http://web.utk.edu/~lyle/ewdg/Photos/Pharoah2/
Their adventures don't make any sense. They're like fever dreams, with no logic to guide them. Dyna Girl constantly uses "Electra" as a prefix, like "Electra-wow!" or "Electra-sneaky!"Everybody acts like they're on drugs.
http://images.amazon.com/images/P/6305826803.01.LZZZZZZZ.jpg
http://scoop.diamondgalleries.com/news_images/10736_30471_1.jpg
http://web.utk.edu/~lyle/ewdg/Photos/Pharoah2/group06.jpg
http://web.utk.edu/~lyle/ewdg/Photos/Pharoah2/cleo02.jpg
--ส่วนละครที่อยากดูแต่ไม่ได้ดูก็คือ ISIS (1975-1976) ที่นำแสดงโดย JOANNA CAMERON
http://www.imdb.com/title/tt0072516/
http://www.spiritualitea.com/isis/isis01.jpg
http://www.70slivekidvid.com/isis/isis.jpg
--เห็นบางคนแถวๆนี้บอกว่าผลงานภาพยนตร์ของคุณอารยา ราษฏร์จำเริญสุขที่มาฉายที่สวนลุมในช่วงเดือนธ.ค.ปีที่แล้วนั้นน่าทึ่งมากๆ โอกาสนี้ก็เลยนำข่าวจากนสพ.โพสท์ทูเดย์มาให้อ่านค่ะ เพราะคุณอารยากำลังจะมีงาน video installation มาให้ชมกันแล้ว
ชมศิลป์: โลกของคนบ้าและห้วงเวลาของ อารยา ราษฎร์จำเริญสุข
จากนสพ.โพสต์ ทูเดย์
เสาร์ 27 พ.ค.
“ขอเชิญท่านสัมผัสประสบการณ์ในโลกของผู้ป่วยหญิงที่อยู่ในโรงพยาบาลประสาท”...ฟังไม่ผิดหรอกครับ เรากำลังชวนคุณไปดูคนบ้า! ซึ่งถูกเธอคนนี้ อารยา ราษฎร์จำเริญสุข นำมาถ่ายทอดความเป็นไปของชีวิตให้พวกเรา...คนปกติ (?) ได้รับรู้ผ่านงานศิลปะรูปแบบวิดีโออินสตอลเลชั่น
อารยาสร้างผลงานชุดนี้ขึ้นมา เพราะได้แรงบันดาลใจมาจาก 2 ส่วนหลัก นั่นคือ (1) ข้อเขียนของนักปรัชญาฝรั่งเศสประโยคที่ว่า “คนบ้าถูกกีดกันจากทุกกิจกรรมของคนทั่วไป เช่น การรื่นเริง การผลิตซ้ำ-การสร้างครอบครัว ภาษา” และ (2) ข้อเขียนของนักเขียนชาวออสเตรีย เรื่องความรู้สึกหดหู่ในการขาดแคลนซึ่งจินตนาการของมนุษย์ โดยเฉพาะในเรื่อง “ความเป็นรองของภาษา”
“สำหรับเหตุข้อที่ 1.นั้นได้ตกลงใจเปิดพื้นที่งานศิลปะให้กับผู้ที่ไม่มีพื้นที่ในสังคมปกติ โดยวิธีให้ผู้ป่วยเล่าเรื่องของตัวเองในการบันทึกวีดิทัศน์ การแสดงงานศิลปะหรือการเผยแพร่หนังสือศิลปะกับถ้อยความ (ที่พิมพ์เรื่องเล่าของผู้ป่วย) คือการเปิดพื้นที่ (สาธารณะ) ให้กับผู้ที่ปกติไม่ได้เข้าร่วมกับสังคมทั่วไป” อารยา เล่าถึงแนวคิดของการสร้างสรรค์ผลงานให้ฟัง “สำหรับเหตุข้อที่ 2.ไม่ว่าผู้ป่วยจะคิดว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นจริงหรือไม่อย่างไรก็ตาม แต่สำหรับคนปกติพบว่า ภาษาของผู้ป่วยสามารถถูกตีความไปในทางอุดมคติ ด้วยจินตนาการที่ไม่อยู่บนเหตุผล ซึ่งเป็นการนำจินตนาการผ่านการใช้ภาษามาสู่โลกที่อาจบกพร่องทางความนึกฝัน”
หากใครที่ติดตามผลงานของเธออยู่เนืองๆ ก็จะพบว่าอารยามักนำเสนองานศิลปะในเชิงจิตวิทยา อย่างเมื่อที่แล้วที่ถือเป็นความภาคภูมิใจ ซึ่งไม่เฉพาะตัวเธอเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงประเทศไทยด้วย กับผลงานวิดีโออินสตอลเลชั่นที่ไปสร้างชื่อในมหกรรมศิลปะระดับโลกที่อิตาลี-เวนิช เบียนนาเล่ เธอก็ใช้ความถนัดนี้ทำให้นานาชาติได้ประจักษ์แจ้งถึงวีธีคิดของผู้หญิงไทยที่มีต่อความเป็นไปของสังคม
และสำหรับผลงานชุดนี้ก็เช่นเดียวกัน เธอยังคงรักษาขนบความเป็น อารยา ราษฎร์จำเริญสุข ไว้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน โดยเธอใช้ชื่อนิทรรศการนี้ว่า “ถ้อยความจากห้วงเวลาพิเศษ : เรื่อง-ของนักเล่าแห่งเมือง” ซึ่งที่มาของชื่อนิทรรศการที่ฟังดูแล้วออกไปเชิงปรัชญานิดๆ เธอก็ได้ขยายความเพื่อให้เราเข้าใจง่ายยิ่งขึ้นว่า
“ห้วงเวลาพิเศษ หมายถึง ทั้งขณะที่คนเราเล่าเรื่องและมีผู้จดจ่อรับฟังเรื่อง รวมทั้งหมายถึง ความเฉพาะพิเศษของห้วงความนึกคิด เช่นความนึกคิดของคนวิกลจริต หรือของคนทำงานศิลปะ ส่วนเรื่อง-ของนักเล่าแห่งเมือง คือเมื่อเราฟังเรื่องของผู้เล่าในงานชุดนี้เราจะสามารถต่อภาพของเมือง เรื่องพาเราไปพบแง่มุมต่างๆ ของเมือง แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวก็ตาม “พื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดกลาง เมื่อใส่วีดิทัศน์ที่ประกอบด้วยเสียงเล่าของผู้คนหลายคนในเวลาเดียวกัน น่าจะนำมาสู่ความหมายหนึ่ง ที่ว่าแต่ละคนต่างมีเรื่องราว-เล่าขาน ไม่มีมนุษย์ หรือชีวิตที่ไม่มีเรื่อง เสียงน่าจะผสมกันงึมงำ”
อย่างที่บอกนั่นล่ะ นิทรรศการชุดนี้เป็นงานวิดีโออินสตอลเลชั่น ศิลปินใช้วิธีเก็บข้อมูลด้วยการจับคนบ้ามานั่งสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว ทำให้เราได้เห็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งเจ้าของผลงานบอกว่าเนื้อหาของเรื่องเล่านั้นได้สะท้อนถึงมุมต่างๆ ชีวิต ความเป็นไป ปัญหาของสังคมได้ดีทีเดียว โดยปราศจากการปรุงแต่งใด แม้ว่าสิ่งนั้นจะอยู่ในรูปแบบความไม่ปกติของผู้เล่าก็สามารถสะท้อนภาพสังคมในอีกด้านหนึ่ง
“ภาษาของผู้ป่วยซึ่งดูเหมือนอุดมจินตนาการสำหรับคนไม่ป่วยน่าจะมาเยียวยาความขาดแคลนทางจินตนาการของคนที่อยู่นอกโรงพยาบาลได้บ้าง โลกฝันของเขาทำให้เราหัวเราะ เนื้อหาของเรื่องเล่าอาจทำให้เราหดหู่ ให้เรารู้ถึงปัญหา ทำความเข้าใจและอ่อนโยนกับมนุษย์มากขึ้น ได้ตระหนักว่ามนุษย์นั้นเปราะบางเหลือเกิน ควรปฏิบัติดีต่อกัน”
ไม่เพียงแต่อารยาจะนำเสนอธาตุแท้ชีวิตของคนบ้าให้แก่คนปกติได้ดูและรู้สึกตื่นเต้น พร่ามัว คลุมเครือ ประหลาดใจ กดดัน และถดถอยเท่านั้น เธอเองในฐานะผู้หญิงและกำลังจะก้าวสู่การทำหน้าที่เป็นแม่อย่างเต็มตัว ก็มีอะไรมาเซอร์ไพรซ์เหมือนกัน นั่นคือภาพเรื่องราวการตั้งครรภ์ตัวเธอเอง เราจะได้เห็นความงดงามของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ซึ่งรอวันจะออกมาลืมตาดูโลก ขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็นปฏิกิริยาสังคมที่มีต่อชีวิตน้อยๆ ที่ตัวศิลปินพยายามจะนำมาบอกเล่าผ่านงานศิลปะชุดนี้ เพื่อสะท้อนถึงความเป็น-ไป และอยู่ของผู้คนในสังคม
ความสัมพันธ์ระหว่างเรื่องของคนบ้าและเรื่องส่วนตัวของอารยา จะมีความคล้ายคลึงกันเพียงใด หรือจะน่าอัศจรรย์ใจขนาดไหน 4 วันนี้ 1-4 มิถุนายน 2549 ที่ 100 ต้นสน แกลเลอรี่ (เปิดทุกวันพฤหัส-อาทิตย์ เวลา 11.00-19.00 น. โทร.02-684-1527) คือสิ่งที่คุณต้องไปพิสูจน์กัน แต่ที่แน่ๆ จากการพูดคุยกันก่อนนิทรรศการจะเริ่มขึ้น ทำให้เราได้รู้ซึ้งว่าสังคมไทย-คนไทยในยุคนี้ ไม่ใช่แค่จะเจอปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าเพียงอย่างเดียว การป่วยไข้ทางจิตก็มีมากมายไม่น้อย และอย่าคิดว่าจะมีเฉพาะผู้หญิงอย่างที่อารยาจับมานั่งสัมภาษณ์เท่านั้นหรอก ผู้ชายก็มีอีกเยอะ! และไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นผู้ชายบ้า! ในผลงานของอารยาชุดต่อไปก็เป็นได้ เพราะเธอก็มีความคิดที่จะหยิบประเด็นนี้มาทำอยู่เหมือนกัน...
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.100tonsongallery.com/
ดูแผนที่ของ 100 ต้นสน แกลเลอรี่ได้ที่
http://www.100tonsongallery.com/aboutUs.asp#
--สำหรับผู้ที่สนใจผลงานวิดีโอของศิลปินหญิง ขอแนะนำให้หาซื้อดีวีดี THE CINEMATIC WORKS ที่รวมผลงานวิดีโอ 5 เรื่องของ EIJA-LIISA AHTILA ศิลปินหญิงชาวฟินแลนด์ค่ะ โดยภาพยนตร์เรื่อง IF 6 WAS 9 (1995, A-) ของเธอคนนี้เคยเข้ามาฉายในกรุงเทพในปี 1997
อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ DVD ของ EIJA-LIISA AHTILA ได้ที่
http://www.bfi.org.uk:8080/booksvideo/video/details/ahtila/
http://www.tate.org.uk/modern/exhibitions/ahtila/default.htm
http://www.framework.fi/2_2004/features/ahtila.jpg
THE HOUR OF PRAYER (2005, EIJA-LIISA AHTILA)
http://www.illy.com/static/bounce_effect/images/foto/76.jpg
http://www.illy.com/static/bounce_effect/images/foto/76_2.jpg
THE HOUSE (2002, EIJA-LIISA AHTILA)
http://www.ngv.vic.gov.au/worldrush/images/im_ahtila.jpg
http://www.exibart.com/foto/32157(1).jpg
ANN, AKI AND GOD (1998, EIJA-LIISA AHTILA)
http://virtual.finland.fi/finfo/english/art/art20_b.jpg
--วันเสาร์นี้ยังมีงาน HILLTRIBE FILM FESTIVAL อีกด้วย อ่านรายละเอียดได้ที่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=30348
--และวันอาทิตย์นี้ก็มีเทศกาลภาพยนตร์ฟุตบอลโลก อ่านรายละเอียดได้ที่
http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=29258
Wednesday, May 31, 2006
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment