Sunday, March 20, 2016

THE NIGHTINGALE (2013, Philippe Muyl, China, A+10)


THE NIGHTINGALE (2013, Philippe Muyl, China, A+10)

1.เป็นหนังสูตรสำเร็จ เดาง่าย ที่ทำออกมาได้ดีมากภายใต้กรอบความเป็นสูตรสำเร็จของมันนะ คือปกติแล้วเราจะอี๋หนังทำนองนี้ได้ง่ายมากเลยนะ หนังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนรุ่นปู่ย่าตายาย กับหลาน ซึ่งในตอนแรกนั้นหลานจะไม่ชอบปู่ย่าตายายเท่าไหร่ แต่หลังจากได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หลานก็จะหันมาซาบซึ้งกับความรักของคนรุ่นปู่ย่าตายาย และเห็นคุณค่าของคนรุ่นเก่าในที่สุด

คือกูดูหนังทำนองนี้มาแล้วประมาณ 100 เรื่องได้มั้ง โดยเฉพาะหนังสั้นไทย ซึ่งหลายเรื่องเราจะเกลียดมาก เพราะมันมีท่าทีสั่งสอนคนดูให้เคารพผู้ใหญ่อะไรทำนองนี้ ซึ่งกูต่อต้านอะไรแบบนี้อย่างรุนแรงที่สุด และนั่นก็เลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราชอบหนังอย่าง THE VISIT (2015, M. Night Shyamalan) อย่างรุนแรง เพราะมันเหมือนเป็นการเล่นกับ genre หนังทำนองนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ

แต่ THE NIGHTINGALE นี่ถือว่าโอเคมากเลยนะ คือถึงแม้มันจะเดินตามสูตร แต่เรากลับไม่รู้สึกอี๋มันเลย

2. อย่างไรก็ดี สิ่งที่เราชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้กลับเป็น “ต้นไม้” เรารู้สึกว่าต้นไม้ใหญ่ๆบางต้นในหนังเรื่องนี้นี่มันน่าประทับใจมากๆ ดีใจที่หนังเรื่องนี้บันทึกภาพต้นไม้ใหญ่ๆในชนบทจีนเหล่านี้เอาไว้ 555

ส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่ปู่ย่าตายายลูกหลานเหลนโหลนภายหน้าอะไรนี่ กูไม่อินจริงๆ

3.อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเราก็คือว่า เทรนด์ “หนังเทศบาล” หรือ “หนังภูมิภาค” กำลังจะมาแรงหรือเปล่า 555 เพราะหนังเรื่องนี้มันชัดเจนเลยว่า มันต้องการโชว์ภูมิทัศน์ของเขตกวางสี แทนที่จะเป็น “จีนทั่วไป” และมีการพูดภาษาจีนท้องถิ่นที่ตัวละครที่เป็นคนจีนเองก็ฟังกันไม่ออกด้วย

เรารู้สึกว่ามันเป็นเทรนด์ที่ดีมากๆเลยนะ ที่มีหนังที่เจาะภูมิภาคเล็กๆทั่วโลกออกมา ทั้งหนังญี่ปุ่นหลายๆเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับโตเกียว แต่เกี่ยวข้องกับเขตเทศบาลต่างๆในเมืองอื่นๆ, หนังไทยอย่าง “วานรคู่ฟัด” ที่เน้นเจาะอัมพวา, หนังไทยกลุ่มของคุณศุกโมกข์ ศิลารักษ์ ที่เน้นเจาะชาวเขาเผ่าต่างๆ, หนังไทยหลายๆเรื่องที่ประกาศตัวเป็น “หนังอีสาน”, หนังควีเบค ที่แยกตัวชัดเจนออกมาจาก “หนังแคนาดา”

ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ในอนาคตจะมีหนังจีนจากมณฑลอื่นๆออกมาอย่างเป็นล่ำเป็นสันเหมือนเขตกวางสีหรือไม่ และจะมีหนังเทศบาลหรือหนังภูมิภาคจากประเทศอื่นๆออกมาสู่สายตาคนไทยหรือเปล่า

คือเราว่าจริงๆแล้วคงมีการผลิตหนังเทศบาลหรือหนังภูมิภาคกันเป็นจำนวนมากทั่วโลกอยู่แล้วแหละ อย่างเช่นในอินเดียก็มีการผลิตหนังนอกบอลลีวู้ดมากมาย เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่ได้เข้ามาฉายในกรุงเทพเท่านั้นเอง

SAVING MR. WU (2015, Ding Sheng, China, A+30)


ดูแล้วนึกถึงข่าวลักพาตัวนักธุรกิจต่างชาติในเมืองไทยมากๆ เหมือนเรามักจะได้ยินข่าวพบศพนักธุรกิจจีน, รัสเซีย, สเปน อะไรต่างๆที่ถูกลักพาตัวในไทย และหนังที่สร้างจากเรื่องจริงเรื่องนี้ก็เหมือนทำให้เราได้รู้ว่า ก่อนที่นักธุรกิจเหล่านี้จะกลายเป็นศพ พวกเขาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง

No comments: