Tuesday, March 08, 2016

Film Wish List: SEVEN WEEKS (2014, Nobuhiko Obayashi, Japan, 171min)

Film Wish List: KILL ME, PLEASE (2015, Anita Rocha de Silveira, Brazil, 101min)

 หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องของกลุ่มเด็กสาวฐานะร่ำรวยในนครริโอ เดอ จาเนโรของบราซิล ซึ่งเป็นเมืองที่มีความแตกต่างทางชนชั้นอย่างรุนแรงมากๆ (ดังจะเห็นได้จากหนังสารคดีเรื่อง HIGH RISE ที่เคยมาฉายในเทศกาลเวิลด์ฟิล์ม) พวกเธอพบว่ามีฆาตกรโรคจิตที่ไล่ฆ่าเด็กสาวตายไปทีละคน ทีละคนในเมืองนี้ และเบีย ซึ่งเป็นนางเอกวัย 15 ปีของเรื่องนี้ ก็หมกมุ่นกับเหตุการณ์ฆาตกรรมนี้มาก นอกจากนี้ เธอยังเบื่อหน่ายผัวของเธอด้วย เพราะผัวของเธอไม่ยอมมีเซ็กส์กับเธอ เขาเคร่งศาสนา และเขาชอบชวนเธอเข้าโบสถ์ เบียก็เลยอุทิศเวลาให้กับการติดตามเฟซบุ๊คของเหยื่อคนต่างๆของฆาตกรโรคจิตรายนี้แท

จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือการที่หนังไม่ได้ทำตัวเป็น thriller หรือ horror แต่อย่างใด แต่เน้นถ่ายทอดบรรยากาศและอารมณ์ความรู้สึกของนางเอก หนังตัดประเด็นการสืบสวนสอบสวนของตำรวจออกไปจนหมด และหนังก็บอกตั้งแต่แรกว่าใครเป็นฆาตกร และก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับประเด็นนี้อีกต่อไป แต่เน้นไปที่การนำเสนอภาพต่างๆออกมาอย่างงดงามมากๆ ในขณะที่เด็กสาวกลุ่มนี้มองเหตุการณ์ฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ว่าเป็นเหมือนกับรายการโทรทัศน์ และเป็น beautiful images โดยในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของหนังเรื่องนี้นั้น หนังแทบไม่ได้เล่าเรื่องอีกต่อไป แต่เน้น images เพียงอย่างเดียว

Film Wish List: FOR YOUR LOVE (2015. Giuseppe M. Gaudino, Italy, 110min)

หนังเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวผู้หญิงประสาทแดกที่มีชื่อว่าแอนนา (Valeria Golino) เธอเป็นผู้หญิงวัยราว 50 ปีที่มีใบหน้าอมทุกข์อย่างรุนแรง เธอมีผัวเป็นคนใจร้าย และมีลูกชายเป็นคนหูหนวกและเป็นใบ้ เธอมีลูกสาวอีกสองคน และมีแม่เป็นคนคลั่งศาสนา

นักวิจารณ์บอกว่าจุดเด่นของหนังเรื่องนี้คืองานด้านภาพที่พยายามสะท้อนความเสียสติของแอนนา อย่างเช่นรถบัสที่เธอโดยสารไปทำงานก็มีน้ำทะเลท่วมอยู่ในรถบัส, เธอมักจะเห็นเมฆดำเคลื่อนตัวเข้ามาในแบบที่คล้ายกับวันสิ้นโลก และเธอยังมองเห็นโลกเป็นโทนสีเดียวอีกด้วย

Giuseppe M. Gaudino เคยกำกับหนังเรื่อง ROUND THE MOONS BETWEEN EARTH AND SEA (1997) ที่เคยคว้ารางวัลชนะเลิศในเทศกาลหนังรอตเตอร์ดัม ส่วน FOR YOUR LOVE นี้ได้เข้าชิงสิงโตทองคำที่เวนิซ เรายังไม่เคยดูหนังของผู้กำกับคนนี้เลย แต่สาเหตุที่อยากดูหนังเรื่องนี้เพราะมันติดอันดับประจำปีของ Olaf Moller

Film Wish List: BLACK GODDESS (1979, Ola Balogun, Nigeria)

จริงๆแล้วอยากให้มีคนจัดงานretrospective ของ Ola Balogun เพราะเรายังไม่เคยดูหนังของผู้กำกับคนนี้เลย และเรายังไม่เคยดูงาน retrospective ของผู้กำกับภาพยนตร์ชาวแอฟริกันคนใดเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็น Idrissa Ouedraogo (Burkina Faso), Jean-Pierre Bekolo (Cameroon), Youssef Chahine (Egypt), Haile Gerima (Ethiopia), Cheik Doukouré (Guinea), Cheick Oumar Sissoko (Mali), Souleymane Cissé (Mali), Med Hondo (Mauritania), Djibril Diop Mambéty (Senegal), Ousmane Sembene (Senegal) อยากให้มีคนจัดงาน retrospective ของผู้กำกับหนังแอฟริกันในกรุงเทพมากๆ

Film Wish List: SEVEN WEEKS (2014, Nobuhiko Obayashi, Japan, 171min)

หนังที่มีความยาวเพียงแค่ 171 นาทีเรื่องนี้เล่าเรื่องของหมอวัย 92 ปีคนหนึ่งที่มีชื่อว่ามิตสุโอะ เขาอาศัยอยู่ในเมืองอาชิเบตสึ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในเกาะฮอกไกโด และเมื่อเขาเสียชีวิตลง น้องสาวของเขา, หลาน 4 คนของเขา และเหลนของเขาก็มาปะทะกันที่งานศพของเขาเพื่อประกอบพิธีรำลึกถึงเขาทุกๆ 7 วันในช่วง 49 วันหลังการตาย และญาติๆของเขาก็ได้พบกับโนบุโกะ ชิมิสุ (Takako Tokiwa) ซึ่งเป็นนางพยาบาลที่เคยทำงานในคลินิกของมิตสุโอะ โดยโนบุโกะคนนี้กุมความลับเกี่ยวกับอดีตของมิตสึโอะเอาไว้

หนังเรื่องนี้ตัดสลับเรื่องราวไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน โดยที่อดีตของตัวละครในเรื่องนี้สะท้อนประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากๆของญี่ปุ่น โดยหนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องที่ญี่ปุ่นเคยจับชาวเกาหลีมาใช้เป็นทาสในเหมืองแร่ในทศวรรษ 1930 และ 1940, อาชญากรรมที่ญี่ปุ่นเคยก่อไว้ในอดีตแต่นักการเมืองญี่ปุ่นพยายามปฏิเสธ และพูดถึงดินแดนซาคาลิน ซึ่งเป็นดินแดนที่เคยเป็นของญี่ปุ่นในอดีต แต่ปัจจุบันนี้เป็นของรัสเซียด้วย โดยนักวิจารณ์บอกว่าประเด็นเรื่องดินแดนซาคาลินในหนังเรื่องนี้สะท้อน สงครามที่ดำเนินไปในจิตใจของตัวละครอย่างไม่มีวันยุตินอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ยังพูดถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นในเดือนมี.ค. 2011 และมีตัวละครตัวหนึ่งที่ทำงานในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วย

Nobuhiko Obayashi เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่เราชอบสุดๆ แต่เราเคยดูหนังของเขาเพียงแค่ 4 เรื่องเท่านั้น ซึ่งได้แก่เรื่อง GOODBYE FOR TOMORROW (1995), BEIJING WATERMELON (1989), THE LITTLE GIRL WHO CONQUERED TIME (1983) กับ HOUSE (1977) ถึงแม้ว่าเขาเคยกำกับหนังมาแล้วถึง 52 เรื่อง อยากให้มีคนจัด retrospective หนังของเขามากๆ

Film Wish List: HARDLY A CRIMINAL (1949, Hugo Fregonese, Argentina, 88min)


 เรายังไม่เคยดูหนังอาร์เจนตินายุคเก่าๆเลย ถึงแม้อาร์เจนตินาจะมีผู้กำกับที่น่าสนใจมากๆอย่าง Leopoldo Torre Nilsson ที่กำกับหนังมาตั้งแต่ปี 1947, Fernando E. Solanas ที่กำกับหนังมาตั้งแต่ปี 1962 และ Luis Puenzo ที่กำกับหนังมาตั้งแต่ปี 1973 หนังเก่าที่สุดของอาร์เจนตินาที่เราเคยดูก็คือ MAN FACING SOUTHEAST (1986, Eliseo Subiela) เราก็เลยรู้สึกว่า อาร์เจนตินาเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เราขาดความรู้เรื่องหนังอย่างมากๆ ทั้งหนังยุคเก่าและหนังยุคใหม่ของอาร์เจนตินาที่มีผู้กำกับน่าสนใจเยอะแยะมากมาย

Hugo Fregonese ก็เป็นผู้กำกับหนังยุคเก่าอีกคนนึงของอาร์เจนตินาที่น่าสนใจ โดย HARDLY A CRIMINAL นั้นเป็นหนังแนวฟิล์มนัวร์ที่มีการผสมสไตล์แบบ Neorealist เข้าไปด้วย หนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับพนักงานธนาคารที่ยักยอกเงินจากนายจ้าง และพยายามจะทำให้ตัวเองถูกจับเข้าคุก เพราะช่องโหว่ทางกฎหมายจะส่งผลให้เขาถูกปล่อยตัวออกจากคุกภายในเวลา 6 ปี และเขามีสิทธิเสวยสุขจากเงินที่ยักยอกมาได้ โดยนักวิจารณ์บอกว่าหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการผสมระหว่างหนังเรื่อง NAKED CITY (1948, Jules Dassin) กับ BRUTE FORCE (1947, Jules Dassin) เข้าด้วยกัน

No comments: