Friday, December 12, 2014

FINDING VIVIAN MAIER (2013, John Maloof + Charlie Siskel, documentary, A+30)


FINDING VIVIAN MAIER (2013, John Maloof + Charlie Siskel, documentary, A+30)

สิ่งที่ชอบสุดๆในหนังเรื่องนี้คือสิ่งที่เราหาไม่ได้ในหนัง fiction หลายๆเรื่อง เพราะหนัง fiction หลายๆเรื่องชอบบอกเราว่า “ตัวละครตัวนี้ตัดสินใจทำอย่างนี้เพราะสาเหตุ A B C D” แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เราตอบได้อย่างมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า การที่วิเวียนปกปิดตัวเองแบบนี้ เพราะสาเหตุอะไรกันแน่

SPOILERS ALERT
--
--
--
--
--
1.ชอบสุดๆ ชอบเรื่องราวชีวิตของวิเวียนในหนังเรื่องนี้มากๆ แต่เราบอกไม่ได้หรอกนะว่าผู้กำกับหนังเรื่องนี้เก่งจริงหรือเปล่า บางทีเขาอาจจะแค่โชคดีที่ได้ค้นพบ subject ที่เราชอบมากๆก็ได้ คือหนังเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกกรี๊ดแตกในแง่ความสามารถของผู้กำกับหรือความรู้สึกถูกโฉลกกับผู้กำกับน่ะ แต่เรากรี๊ดแตกเพราะเราชอบเรื่องราวชีวิตของวิเวียนในหนังเรื่องนี้

2.ในแง่หนึ่งเราก็รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ทำกับวิเวียนในแบบที่ทำให้นึกถึงสิ่งที่วิเวียนทำกับ subject ในภาพถ่ายของเธอ นั่นก็คือการค้นหาความน่าสนใจหรือแง่งามในความธรรมดาสามัญหรือชีวิตมนุษย์ที่ธรรมดาสามัญ คือในแง่หนึ่งวิเวียนก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนนึงที่ซ่อนความน่าสนใจบางอย่างเอาไว้ และหนังเรื่องนี้ก็พยายามดึงความน่าสนใจออกมาจากชีวิตมนุษย์ธรรมดาคนนึง (วิเวียน) มันก็เลยทำให้เรานึกถึงสิ่งที่วิเวียนทำกับมนุษย์ในภาพถ่ายของเธอ เพราะมนุษย์เกือบทุกคนในภาพถ่ายของเธอเป็นคนธรรมดาที่กำลังใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ แต่วิเวียนก็สามารถทำให้มนุษย์ธรรมดาและกิจวัตรประจำวันกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจหรืองดงามขึ้นมาได้ในภาพถ่ายของเธอ

3.ชอบที่หนังเรื่องนี้นำเสนอความเป็นมนุษย์ของวิเวียนทั้งในด้านบวกและด้านลบด้วย คือถ้าหนังนำเสนอชีวิตวิเวียนแค่ในแง่บวกอย่างเดียว เราอาจไม่ซึ้งใจกับหนังเรื่องนี้มากเท่านี้ แต่พอหนังเรื่องนี้ทำให้เราได้รู้ว่าวิเวียนมีด้านมืดที่น่ากลัวอยู่ในตัวด้วย มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเธอเป็นบุคคลที่น่าสนใจมากๆ

4.ถ้าเนื้อหาในหนังเรื่องนี้ถูกนำไปสร้างเป็นหนังที่ใช้คนแสดง ฉากที่วิเวียนเจอเพื่อนเก่าแล้วเพื่อนเก่าไม่ยอมหยุดคุยกับเธอ คงเป็นฉากที่ทรงพลังเหี้ยๆ และถ้านำเสนอออกมาดีๆ มันคงเป็นฉากที่ทำให้เราร้องไห้อย่างรุนแรงได้

5.ชอบเรื่องราวในบั้นปลายชีวิตของวิเวียนอย่างมากๆ มันคือชีวิตมนุษย์จริงๆ

6.ชอบที่เราไม่รู้อะไรหลายๆอย่างในชีวิตของวิเวียนด้วย เราไม่รู้หรอกว่าเธอเคยถูก abuse จริงหรือไม่, อะไรที่ทำให้ป้าของเธอตัดขาดจากเธอ, อะไรที่ทำให้เธอต้องการปกปิดชื่อจริงของตัวเองในหลายๆสถานการณ์ และอะไรที่ทำให้เธอไม่พยายามที่จะทำให้ตัวเองโด่งดัง คือเรารู้สึกว่าการที่เราไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้วิเวียนไม่เผยแพร่ภาพถ่ายเหล่านี้นี่แหละ คือความเป็นมนุษย์จริงๆแบบที่เราโหยหาในภาพยนตร์ แต่เรากลับไม่พบมันในหนัง fiction หลายๆเรื่อง คือหนัง fiction หลายๆเรื่องจะต้องอธิบายสาเหตุว่าทำไมตัวละครตัวนี้ตัดสินใจอย่างนี้เพราะอย่างนี้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเรารู้สึกว่ามนุษย์จริงๆมันอธิบายไม่ได้ง่ายๆอย่างนั้นหรอก เพราะฉะนั้นการที่หนังเรื่องนี้ไม่สามารถอธิบายการตัดสินใจอะไรบางอย่างในชีวิตของวิเวียนได้ มันก็เลยทำให้วิเวียนมีลักษณะเหมือนตัวละครแบบที่เราชอบในหนัง fiction แบบที่เราชอบ นั่นก็คือตัวละครที่เราทั้งเข้าใจเขาและไม่เข้าใจเขาในขณะเดียวกัน ตัวละครที่ทำในสิ่งที่ขัดกับหลักเหตุผล แต่เราเหมือนจะเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของเขาว่าทำไมเขาถึงทำในสิ่งที่ขัดกับหลักเหตุผล อะไรทำนองนี้

7.ดูหนังเรื่องนี้แล้วนึกถึงหนังหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะ

7.1 HOUSEKEEPING (1987, Bill Forsyth) เพราะนางเอกของ HOUSEKEEPING เป็นผู้หญิงประหลาดๆแบบวิเวียน เธอเก็บหนังสือพิมพ์จนรกบ้านเต็มไปหมด และเข้ากับชาวบ้านชาวเมืองไม่ค่อยได้

7.2 SEVEN DUMPSTERS AND A CORPSE (2007, Thomas Haemmerli, Switzerland, documentary)

หนังสารคดีเรื่องนี้เกี่ยวกับตัวผู้กำกับและพี่ชายที่ได้ข่าวว่าแม่ตาย พวกเขาก็เลยไปที่บ้านแม่ และพบว่าแม่ของพวกเขาเก็บข้าวของเหี้ยห่าอะไรไม่รู้จนรกบ้านเต็มไปหมด พวกเขาต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนในการขจัดขยะต่างๆนานาที่แม่เขาสะสมไว้ออกจากบ้าน และในระหว่างช่วงเวลานั้น พวกเขาก็ได้ค้นพบสิ่งต่างๆที่แม่ของพวกเขาสะสมเอาไว้ ซึ่งรวมถึงฟิล์มภาพยนตร์ home movies เก่าๆที่แม่ของเขาเคยถ่ายไว้ตอนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในทศวรรษ 1960





No comments: