Monday, August 15, 2016

MIDNIGHT UNIVERSITY AND OTHER FILMS

UN + UNE (2015, Claude Lelouch, France, A+20) ดูแล้วอยากให้มีคนเขียนบทความเปรียบเทียบ วิธีประกอบสร้างความโรแมนติก ในหนังของ Claude Lelouch, Wong Kar-wai และม.จ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย ว่ามันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราชอบบทสนทนากับฉากหลัง end credit ในหนังเรื่องนี้มาก แต่ไม่อินกับความโรแมนติกของหนัง บางทีอาจเป็นเพราะตัวละครในหนังมันเป็นมนุษย์ท่มีข้อบกพร่องมากเกินไป จนเราไม่อยากได้เป็นสามี

MIDNIGHT UNIVERSITY (2016, Kritsada Kaniwichaporn, Piyabutr Apisuk, Kanin Kulsumitrawong, A+15) เสียดายสุดๆที่มันทำเป็นหนังตลกเพื่อเอาใจตลาด เพราะเราว่าองค์ประกอบในหนังมันเอื้อให้ทำเป็นหนังชีวิตดราม่าที่สามาถเข้าทางเรามากๆได้ ทั้งตัวละคร losers ต่างๆที่ต้องมารวมตัวกัน และตัวละครนางเอกที่ดูเหมือนกลวงสุดๆในช่วงแรก แต่หนังก็ค่อยๆทำให้ตัวละครตัวนี้กลายเป็นมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆได้ ชอบความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกีบนางเอกในหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆ สรุปว่าถ้าหากตัดความตลกทิ้งไปจากหนังเรื่องนี้บ้าง แล้วให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์ของตัวละครมากขึ้น รวมทั้งเน้นย้ำประเด็นเรื่องความเครียดของการเรียนในมหาลัยให้มากขึ้น หนังเรื่องนี้ก็อาจกลายเป็นหนังที่เข้าทางเราสุดๆแบบหนังผีเรื่องต่างๆที่กำกับโดย monthon Arayangkoon ไปแล้ว

I AM A HERO (2015, Shinsuke Sato, Japan, A+25) สนุกดี เพียงแต่รู้สึกว่ามันเป็นแฟนตาซีของ straight male ซึงไม่ใช่ความผิดของหนัง เพียงแต่ว่ามันไม่มีตัวละครที่เราสามารถเข้าไป identify ด้วยได้อย่างเต็มที่

SAYONARA ITSUKA (2010, John H. Lee, South Korea/Japan, A+15) ชอบครึ่งแรกของหนังมากในระดับ A+30 รู้สึกว่าหนังนำเสนอความเงี่ยนของพระเอกกับนางเอกในช่วงครึ่งแรกได้ดีมาก และฉากการพลัดพรากและพบพาที่สนามบินดอนเมืองก็ทำออกมาได้คลาสสิคมากๆ แต่ช่วงครึ่งหลัง เมื่อหนังพยายามจะนำเสนอ "ความรัก" ของตัวละคร เราว่าหนังยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีพอน่ะ เกรดของหนังเลยหล่นฮวบลงไปเรื่อยๆในช่วงครึ่งหลัง

SING STREET (2016, John Carney, Ireland, A+30) หนังของ John Carney มักจะเป็นหนังที่เราชอบสุดๆในระดับA+30 แต่ไม่ติดอันดับประจำปีของเรา เพราะเราไม่ได้อินกับมันอย่างรุนแรงjเป็นการส่วนตัว ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ซึ่งแตกต่างจากหนังอย่าง GOD HELP THE GIRL (2014, Stuart Murdoch) ที่เราอินอย่างรุนแรงสุดๆ ซึ่ง SING STREET นี่ก็เข้าข่ายเดียวกัน แต่ก็มีองค์ประกอบมากมายในหนังเรื่องนี้ที่เราชอบสุดๆ โดยเฉพาะการพูดถึงวง Duran Duran และ Spandau Ballet, ตัวละครนางเอกก็ใช้ได้, การรำลึกถึงมิวสิควิดีโอยุคเก่าก็ดีมาก, ฉากคุณแม่นั่งรอแสงอาทิตย์ยามเย็นก็เจ็บปวดมาก ชอบการถ่ายทะเลในช่วงท้ายด้วย ดูแล้วทำให้อยากกลับไปดูหนังแนววงดนตรีในยุคเก่าอีกครั้ง โดยเฉพาะLIGHT OF DAY (1987, Paul Schrader) ที่นำแสดงโดย Joan Jett กับ Micharl J. Fox และTHE COMMITMENTS (1991, Alan Parker)


DISHOOM (2016, Rohit Dhawan, India, A+25) สนุกดี เป็นหนังสูตรสำเร็จ โง่ๆ ไร้สาระ และมีอะไรที่ cliche และเดาง่ายเยอะมาก แต่ก็เหมือนกับหนังอินเดีย mainstream หลายๆเรื่อง ที่ถึงแม้มันจะสูตรสำเร็จมากๆ แต่เราก็ยังเพลิดเพลินกับมันมากๆอยู่ดี 

No comments: