Wednesday, August 17, 2016

WHEN MY FRIENDS DISAPPEAR (2016, Nuttasun Nudsataporn, 33min, A+30)

WHEN MY FRIENDS DISAPPEAR (2016, Nuttasun Nudsataporn, 33min, A+30)
โพลารอยด์ (ณัฐสัญญ์ นัดสถาพร)

1.ตอนดูช่วงแรกๆจะรู้สึกว่า มันเหมือนเป็นตอนหนึ่งในละครทีวีฝรั่งชุด TWILIGHT ZONE (แดนสนธยา) เพราะเนื้อเรื่องมันเป็นเรื่องของกล้องที่ถ่ายคนๆใด แล้วคนๆนั้นจะหายตัวไปในเวลา 3 วัน

แต่ถ้าหากมันเป็นตอนหนึ่งใน TWILIGHT ZONE โทนของหนังมันก็จะต้องออกมาในแนวลึกลับ ตื่นเต้น ตัวละครต้องหาที่มาของกล้อง หาว่าจะแก้คำสาปของกล้องนี้ได้อย่างไร จะแก้คำสาปได้ทันเวลาหรือไม่

แต่หนังเรื่องนี้กลับไม่เป็นไปในแนวทางนั้นเลย เพราะฉะนั้นตอนที่ดูช่วงแรกๆ เราจะรู้สึกว่าทำไมมันน่าเบื่อจัง เพราะมันเริ่มต้นด้วยพล็อตที่คล้ายกับ TWILIGHT ZONE แต่พอเนื้อเรื่องดำเนินไป มันกลับกลายเป็นหนังอืดๆเอื่อยๆแทน

แต่พอดูไปดูมา เรากลับพบว่า เออ นี่แหละ คุณค่าของหนังเรื่องนี้ เพราะการที่มันเอาพล็อตแบบ TWILIGHT ZONE มานำเสนอใน mood and tone อีกแบบหนึ่ง เพื่อบอกเล่าธีมอีกแบบหนึ่ง มันเป็นอะไรที่สร้างสรรค์ในความเห็นของเรา เราชอบหนังที่เหมือนหยิบยืมองค์ประกอบจากหนังหลายๆแนวมาผสมรวมกันแบบนี้

2.แล้วธีมของหนังเรื่องนี้คืออะไร เราก็ไม่รู้ และเราไม่แน่ใจ แต่สาเหตุที่เราชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดๆในระดับ A+30 เป็นเพราะว่า มันทำให้เรานึกถึงประเด็นบางประเด็นที่เราชอบมากๆหลังจากดูหนังจบแล้วน่ะ ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้สร้างหนังตั้งใจไว้ก็ได้

ประเด็นที่เรานึกถึงหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ก็คือประเด็นเรื่อง “การถ่ายภาพ” และ “ความไม่จีรังยั่งยืนของทุกสิ่ง” น่ะ เพราะมันเหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้สะท้อนประเด็นเหล่านี้ออกมาโดยเร่งให้มันเกินจริง คือจริงๆแล้ว ทุกคนหรือทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในภาพถ่ายทุกรูป มันต้องหายไป ตายไป หรือเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตอยู่แล้ว เราถ่ายภาพสิ่งต่างๆหรือคนต่างๆเอาไว้เพราะสาเหตุหนึ่งก็คือต้องการรับมือกับความไม่จีรังยั่งยืนของทุกสิ่งนี้

บางทีเราถ่ายภาพสาวสวย หนุ่มหล่อเอาไว้ เพราะเรารู้ว่า อนาคต เราอาจจะไม่ได้พบเจอคนๆนั้นอีก หรืออีกหนึ่งปีข้างหน้า ความสาวของเขาก็จะลดลง เขาจะแก่มากขึ้น ภาพถ่ายสามารถคว้าจับความสาวสะพรั่งของเขาเอาไว้ได้ แต่ความสาวสะพรั่งนั้นมันไม่จีรังยั่งยืน มันต้องหายไปในอนาคต เพราะฉะนั้นภาพถ่ายทุกภาพจึงมีคำสาปในตัวเอง เพราะทุกสิ่งที่ปรากฏในภาพถ่ายทุกภาพ มันจะต้องเปลี่ยนแปลงไปจากนั้น ต้องเสื่อมสลายไปจากนั้น ในวันใดวันหนึ่งในอนาคต

เราถ่ายภาพเพื่อนๆเราเอาไว้ เพราะวันนึงเพื่อนๆเราอาจจะไม่ได้มาเที่ยวกับเราอีก บางคนอาจจะไปอยู่ต่างประเทศ งานยุ่ง เสียชีวิต หรือ “เลิกเป็นเพื่อน” กับเรา ภาพถ่ายสามารถคว้าจับ “มิตรภาพ” ในชั่วขณะหนึ่งไว้ได้ แต่มิตรภาพนั้นจะต้องเสื่อมสลายไปในอนาคต ไม่ด้วยการจากเป็น ก็ด้วยการจากตาย

ทำไมคนเราถึงชอบถ่ายภาพอาหารก่อนกิน บางทีอาจจะเป็น อาหารนี่แหละ คือสิ่งที่จีรังยั่งยืนน้อยสุด เพราะพอเราถ่ายภาพมันปุ๊บ อีก 5 วินาทีต่อมาเราก็แดกมันเข้าปาก อาหารที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่าย ได้แปรสภาพเข้าไปอยู่ในกระเพาะเราภายในเวลาเพียง 5 วินาทีหลังจากถ่ายภาพ


เพราะฉะนั้นจริงๆแล้ว เราอาจจะไม่เข้าใจหนังเรื่อง WHEN MY FRIENDS DISAPPEAR จริงๆก็ได้นะ แต่หนังเรื่องนี้มันทำให้เรานึกถึงประเด็นข้างต้นน่ะ และมันเป็นประเด็นที่ชอบสุดๆ นั่นก็คือ ภาพถ่ายทุกภาพมีคำสาป เพราะทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในภาพ มันจะต้องแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันเหมือนเดิม เสื่อมสลายไป มิตรภาพหมดไป แก่ตัวลง ไม่มีโอกาสได้พบเจอกันอีก และในที่สุดทุกๆคนในภาพถ่ายก็จะหายไปจากโลกนี้ เมื่อถึงเวลาของตนเอง การถ่ายภาพเป็นกลวิธีหนึ่งที่เราสามารถใช้รับมือกับความไม่จีรังยั่งยืนของทุกสิ่งทุกอย่างได้ แต่เราไม่มีทางเอาชนะความไม่จีรังยั่งยืนได้

No comments: