Friday, April 14, 2017

SALAYA DOC 2017

Films seen for the first time in Salaya Documentary Film Festival 2017

In roughly preferential order

1.SELF AND OTHERS (2000, Makoto Sato, Japan, A+30)

2.ABSENT WITHOUT LEAVE (2016, Lau Kek-huat, Malaysia, A+30)

3.THE END OF THE SPECIAL TIME WE WERE ALLOWED (2013, Shingo Ota, 151min, A+30)

4.THE SOIL OF DREAMS (2016, Jeffrie Po, Philippines, A+30)

5.PHANTOM OF ILLUMINATION (2017, Wattanapume Laisuwanchai, A+30)

6.A WORLD NOT OURS (2012, Mahdi Fleifel, Lebanon, A+30)

7.YELLOWING (2016, Chan Tze-woon, Hong Kong, A+30)

8.FAKE (2016, Tatsuya Mori, A+30)

9.VOYAGE TO TERANGGANU (2016, Amir Muhammad, Badrul Hisham Ismail, Malaysia, A+30)

10.ZEN & BONES (2016, Takayuki Nakamura, A+30)

11.GLITTERING HANDS (2015, Bora Lee-kil, South Korea, documentary, A+30)

12.PETER VON BAGH (2016, Tapio Piirainen, Finland, A+30)

13.ARTISTS IN WONDERLAND (1998, Makoto Sato, Japan, A+30)

14.HELSINKI, FOREVER (2008, Peter von Bagh, Finland, documentary, A+30)

15.SUNDAY BEAUTY QUEEN (2016, Baby Ruth Villarama, Hong Kong/Philippines, A+25)

16.CUTS (2016, Chairun Nissa, Indonesia, A+25)

17.THE NAVEL TREE (2017, Cherdpong Laoyont, A+20)

--สรุปว่าชอบ SELF AND OTHERS มากที่สุด เราว่ามันมี sense คล้ายๆ Marguerite Duras ในแง่ที่ว่า มันเป็นการนำ voiceover แบบล่องลอยมาใช้ประกอบกับภาพวิวทิวทัศน์โล่งๆในแบบที่ทรงพลังมากๆน่ะ

ผู้กำกับหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เวลาที่เราดูภาพวิวทิวทัศน์ใน SELF AND OTHERS แล้วเรารู้สึกเหมือนกับว่า มันเป็นการมองภาพ สิ่งธรรมดาในชีวิตประจำวันด้วยสายตาของคนใกล้ตายน่ะ คือถ้าหากเราเป็นคนป่วยที่ใกล้ตาย เราอาจจะมองภาพท้องถนนธรรมด, แสงอาทิตย์ธรรมดา, สวนสาธารณะธรรมดา, ห้องหับธรรมดา, ท้องทะเลธรรมดา ด้วย sense ที่เหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งที่งดงามสุดๆก็ได้ เพราะสิ่งที่เราเคยมองว่ามันเป็นสิ่งธรรมดามาก่อน แต่พอเรารู้ว่าเราอาจจะไม่ได้สัมผัสมันอีกแล้ว เพราะเรากำลังจะลาจากโลกนี้ไปแล้ว มันก็อาจจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่ามากๆขึ้นมาในทันที

คือ SELF AND OTHERS มันทำให้เรานึกถึงหนึ่งในหนังที่หนังที่เราชอบที่สุดในชีวิต นั่นก็คือหนังเรื่อง DYING AT A HOSPITAL (1993, Jun Ichikawa) ที่เป็นการเล่าเรื่องของกลุ่มคนชราที่นอนรอความตายในโรงพยาบาล โดยมีการตัดสลับภาพท้องถนนธรรมดาเข้ามาในหนังเป็นระยะๆและการตัดสลับภาพท้องถนนธรรมดากับภาพกลุ่มผู้ป่วยใกล้ตายเข้าด้วยกันในหนังเรื่องนั้น มันทำให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงที่สุดต่อคำว่า ชีวิต

เราว่า SELF AND OTHERS ทำให้เรารู้สึกคล้ายๆกับ DYING AT A HOSPITAL, หนังของ Marguerite Duras และหนังอย่าง ALL MY LIFE (1966, Bruce Bailie) โดยไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนกับว่า หนังกลุ่มนี้ถ่ายภาพ แอ่งน้ำเล็กๆผ่านทางมุมมองของคนที่เดินทางรอนแรมในทะเลทรายมาแล้ว 2 วัน และกระหายน้ำอย่างรุนแรงน่ะ ภาพแอ่งน้ำเล็กๆที่อาจจะธรรมดาสุดๆในสายตาของคนทั่วไป มันจะกลายเป็นหนึ่งในภาพที่ให้ความรู้สึกงดงามที่สุดในสายตาของคนที่กำลังจะขาดน้ำตายกลางทะเลทราย

ภาพ ท้องถนนธรรมดาและ สิ่งธรรมดาในหนังอย่าง SELF AND OTHERS, DYING AT A HOSPITAL และ ALL MY LIFE ก็ให้ความรู้สึกต่อเราในแบบเดียวกัน พอเราได้เห็นภาพสิ่งธรรมดาในหนังเหล่านี้ มันทำให้เรารู้สึกราวกับว่ามันช่างเป็นสิ่งที่งดงามที่สุดในโลก ราวกับว่าเราจะไม่ได้มีโอกาสสัมผัสสิ่งเหล่านี้อีกต่อไปแล้ว เราจะไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์, ได้สัมผัสอุณหภูมิจากแสงอาทิตย์, ได้กลิ่นทะเลอะไรเหล่านี้อีกแล้ว เพราะเวลาของเราบนโลกนี้กำลังจะหมดลงแล้ว

No comments: