Sunday, June 18, 2006

ELISEO SUBIELA

ตอบคุณ pc

ภาพจากหนังของ ELISEO SUBIELA
http://cinemah.com/ipertesti/argentina2001/ladoscur.jpg
http://www.peripheries.net/images/trigon16.jpg
http://www.peripheries.net/images/trigon4.jpg
http://www.peripheries.net/images/trigon11.jpg


พล็อตหนัง THE DARK SIDE OF THE HEART น่าดูมากๆเลยค่ะ ที่พระเอกจะนอนกับผู้หญิงที่บินได้เท่านั้น

เคยดูหนังของ ELISEO SUBIELA (1944) ไปแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ MAN FACING SOUTHEAST (1986, A-)

หนังของ ELISEO SUBIELA ที่น่าดูรวมถึงเรื่อง (ข้อมูลจาก TIME OUT FILM GUIDE)

1.LAST IMAGES OF THE SHIPWRECK (1989)
หนังเรื่องนี้มีขายแล้วในรูปแบบดีวีดี
http://images.amazon.com/images/P/B00009IB5F.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg

โรเบิร์ต (LORENZO QUINTEROS) เป็นเซลส์แมนขายประกันวัย 40 ปีที่หันมาเป็นนักประพันธ์ เขาช่วยชีวิตหญิงสาวชื่อเอสเตลิตา (NOEMI FRENKEL) ซึ่งพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ต่อมาเขาก็รู้ว่าที่จริงแล้วเอสเตลิตาเป็นโสเภณีที่มักจะแสร้งทำเป็นฆ่าตัวตายเพื่อจะได้หาลูกค้า

โรเบิร์ตต้องการจะแต่งนิยายมานานแล้ว และเมื่อเขาได้รู้จักกับสมาชิกครอบครัวของเอสเตลิตา เขาก็พบว่านั่นคือวัตถุดิบที่ดีสำหรับนิยาย เพราะ โฮเซ่ พี่ชายของเอสเตลิตาเป็นขโมยโรคจิตที่ชอบพกปืนและรู้สึกเคียดแค้นพระเจ้า ส่วนเคลาดิโอ พี่ชายอีกคนก็เป็นคนที่ชอบเก็บตัวและพยายามลบคำศัพท์ที่เขาไม่มีประโยชน์ที่จะใช้อีกต่อไป

ครอบครัวของเอสเตลิตาไม่ต้อนรับโรเบิร์ตในตอนแรก แต่ก็ยอมรับเขาในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี สมาชิกในครอบครัวนี้ไม่ต้องการใช้ชีวิตอย่างทุกข์ยากอีกต่อไป พวกเขายืนกรานให้โรเบิร์ตเขียนชีวิตให้พวกเขาใหม่และให้โรเบิร์ตทำหน้าที่เป็น “พ่อ” เพื่อแทนที่พ่อตัวจริงที่มีนิสัยเจ้าชู้และทิ้งครอบครัวนี้ไปนานแล้ว

ELISEO SUBIELA นำเสนอสภาพสังคมถดถอยได้อย่างดีมาก เขาแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังของสังคมเมื่อสังคมนั้นถูกละทิ้งไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ และแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกดีใจของคนในสังคมเมื่อพวกเขาหลงคิดไปว่าพวกเขาพบทางออกให้ชีวิตได้แล้ว

นักแสดงแสดงได้อย่างน่าเชื่อถือมากๆในเรื่องนี้ และหนังเรื่องนี้ก็ผสมแฟนตาซี, ความบ้าคลั่ง และการเสียดสีสังคมเข้าด้วยกันได้อย่างไม่ซ้ำแบบใคร


2.WAKE UP LOVE (1996)

หนังโรแมนติกดรามาเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับริคาร์โด (JUAN LEYRADO) ผู้พยายามจะจัดงานเลี้ยงรุ่นสำหรับเพื่อนมหาลัยเมื่อ 30 ปีก่อน โดยริคาร์โดผู้นี้มีสมญานามว่าเอลวิส เพราะเขาเชื่อว่าร็อคแอนด์โรลคือสิ่งที่จะทำให้หัวใจเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ

ในระหว่างที่ริคาร์โดจัดเตรียมงานเลี้ยงรุ่น อานา (SOLEDAD SILVEYRA) ซึ่งเป็นภรรยาของเขาก็รู้สึกหลงใหลในเออร์เนสโต “ราชาแห่งการนอนไม่หลับ” (DARIO GRANDINETTI) ซึ่งเป็นนักหนังสือพิมพ์อาวุโสที่มีบุคลิกหม่นเศร้าเหมือนแฮมเล็ต เขาเคยตัดสินใจว่าจะเลิกข้องแวะกับเรื่องทางเพศ แต่ก็เลิกล้มความตั้งใจด้วยการมีเซ็กส์กับซิลเวีย (MARILYN SOLAYA) ซึ่งเป็นนักเล่นเชลโล่

หนังเรื่องนี้เน้นบรรยากาศถวิลหาอดีต และตัวละครในเรื่องก็มักจะบ่นว่า ถ้าหากเทียบกับทศวรรษ 1960 แล้ว หัวใจของคนเราในยุคปัจจุบันก็แห้งผากมากๆ และ “ความฝันก็ไม่ได้ร่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้าอย่างชุ่มฉ่ำมานานมากแล้ว”

หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากแฟลชแบ็คเก๋ๆที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักในอดีต และฉากงานปาร์ตี้ที่เปิดแต่เพลงของ PAUL ANKA อย่างไรก็ดี นี่เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกที่จริงมาก, มีฉากตลกที่น่ารักมาก และใช้ทั้งดนตรีของ BACH กับบทกลอนของ MARIO BENEDETTI มาประกอบหนัง


3.LITTLE MIRACLES (1997)

โรซาเลีย (JULIETA ORTEGA) เป็นสาวแคชเชียร์ในซูเปอร์มาร์เก็ตในกรุงบัวโนส ไอเรส เธอใช้เวลาว่างไปกับการอ่านหนังสือให้คนตาบอดฟัง และเธอก็มักนั่งฝันขณะทำงาน, มักพูดคุยเรื่องพิศวงกับลูกค้า และมักยิ้มให้ตัวเองเมื่อนึกถึงพลังจิตของตัวเองในการเคลื่อนย้ายวัตถุ และต่อมาเธอก็คิดว่าที่จริงแล้วตัวเธออาจจะเป็นนางฟ้าที่มีความสามารถพิเศษก็ได้ และนั่นอาจจะหมายความว่าเธอได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว นอกจากนี้ เธอยังต้องการค้นหาพ่อของเธอที่หายไปจากชีวิตเธอตั้งแต่อายุ 8 ขวบด้วย

นักวิทยาศาสตร์หนุ่มคนนึง (ANTONIO BIRABENT) ทำงานในการสำรวจทางดาราศาสตร์ของรัฐบาลเพื่อค้นหามนุษย์ต่างดาว เขามักจะเล่นอินเทอร์เน็ตเป็นประจำเพื่อดูภาพที่ถ่ายจากกล้องวงจรปิดของป้ายรถเมล์แห่งหนึ่ง และเขาก็มักจะเห็นโรซาเลียมารอรถบัสที่นี่เป็นประจำ

หนังโรแมนติกเรื่องนี้มีกลิ่นอายแบบ MAGICAL โดยเล่าเรื่องของชายหนุ่มหญิงสาวคู่นี้สลับกันไปมาก่อนจะเชื่อมตัวละครทั้งสองเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้สามารถหลีกเลี่ยงอารมณ์ “ซึ้งๆ” ได้สำเร็จโดยผ่านทางการแสดงที่สง่างามมากของนักแสดงในเรื่อง โดยเฉพาะ HECTOR ALTERIO ที่รับบทเป็นพ่อของนางเอก

ANTONIO BIRABENT (1969) เคยเล่นหนังเรื่อง TANGO FEROZ (1993, MARCELO PINEYRO, B) ด้วย
http://www.pagina12.com.ar/fotos/espectaculos/20051001/notas_e/NA21FO10.JPG
http://www.oidossonadores.com.ar/artistas/antonio.jpg

ANTONIO BIRABENT จาก EPITAFIOS (2004, ALBERTO LECCHI + JORGE NISCO) ซึ่งมีความยาว 10 ชั่วโมง 24 นาที และมีเนื้อหาเกี่ยวกับฆาตกรลึกลับที่ตามฆ่าคนต่างๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเด็กนักเรียน 4 คนเมื่อ 5 ปีก่อน
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/36/25/86/18466124.jpg
http://a69.g.akamai.net/n/69/10688/v1/img5.allocine.fr/acmedia/medias/nmedia/18/36/25/86/18466112.jpg


--เคยได้ยินเรื่องหนัง CINEMANIA เหมือนกันค่ะ ตอนที่ได้ยินถึงหนังเรื่องนี้ก็นึกถึงคนดูหนังขาประจำที่สถาบัน GOETHE กับ ALLIANCE FRANCAISE เหมือนกัน น่าเสียดายที่ตอนนี้ GOETHE กับ ALLIANCE FRANCAISE ไม่ได้ฉายหนังด้วยฟิล์มทุกสัปดาห์เหมือนอย่างแต่ก่อนอีกแล้ว เฮ้อ พูดแล้วก็รู้สึกเศร้าใจอย่างรุนแรงมาก

--ดิฉันยังไม่เคยขึ้นเครื่องบินและยังไม่เคยได้ไปต่างประเทศเลยค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่านิวยอร์คเป็นอย่างไร แต่ลองถามเพื่อนคนไทยที่เคยไปเที่ยวนิวยอร์ค, รัสเซีย กับเบอร์ลิน เขาก็บอกว่าเขาชอบนิวยอร์คมากที่สุด เพราะที่รัสเซียมีปัญหาการฆ่าคนเอเชียที่รุนแรงมากๆๆ ส่วนที่เยอรมนีนั้น บรรยากาศชีวิตผู้คนก็ไม่สดใสเหมือนในนิวยอร์ค คนเยอรมันดูเครียดๆกว่าและเคร่งครัดในกฎระเบียบมากกว่า แต่นิวยอร์คเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาและทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากที่สุด

พูดถึงนิวยอร์ค ดิฉันก็มักนึกถึงละครเรื่อง S-E-X AND THE CITY ค่ะ เพราะนิวยอร์คเป็นตัวละครสำคัญของละครเรื่องนี้ และละครเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า “คนโสด” มีความสุขมากเพียงไรเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์ค นอกจากนี้ นางเอกของเรื่องยังรักนิวยอร์คมากๆเลยด้วย โดยเฉพาะในตอนที่เธอเจอกะลาสีเรือหนุ่มหล่อล่ำ (DANIEL SUNJATA) แต่พอกะลาสีเรือคนนี้พูดจาในเชิงไม่ชอบนิวยอร์ค เธอก็เซย์กู๊ดบายกับกะลาสีคนนี้ไปเลย เพราะเธอบอกว่านิวยอร์คคือ BOYFRIEND ของเธอ และเธอไม่สามารถทนอยู่กับคนที่พูดถึง BOYFRIEND ของเธอในทางเช่นนั้นได้

--พูดถึงนิวยอร์ค ก็จะนึกถึงหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง CIPHER ของ MINAKO NARITA ที่ใช้ฉากหลังเป็นนิวยอร์คด้วย จริงๆแล้วดิฉันรู้สึกเฉยๆกับ CIPHER แต่เนื่องจากตอนเด็กๆเคยอ่านการ์ตูนเรื่องนี้ตอนแรกๆไปแล้ว ก็เลยทำให้อยากรู้ว่าตอนจบเป็นยังไง และก็เลยเพิ่งไปซื้อ CIPHER เล่ม 12 ซึ่งเป็นเล่มจบมาอ่าน

CIPHER เป็นการ์ตูนที่แต่งในช่วงปลายทศวรรษ 1980 และมีการระบุถึงเพลงของวง PET SHOP BOYS กับ INFORMATION SOCIETY ในเรื่องด้วย นอกจากนี้ การได้อ่าน CIPHER ก็ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆที่ผู้เขียนการ์ตูนคงไม่ได้ตั้งใจด้วยเหมือนกัน เพราะดิฉันสังเกตว่า ตึกแฝด WORLD TRADE CENTER ปรากฏอยู่ในการ์ตูนเรื่องนี้ในหลายฉากมาก ตอนที่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ภาพตึกแฝดที่ประดับอยู่ในหลายๆฉากคงไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกอะไรเลย แต่การได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ในปี 2006 ทำให้ “ของประกอบฉากที่ไม่มีความสำคัญ” กลายเป็นสิ่งที่มีผลต่อความรู้สึกเป็นอย่างมากในทันที

หนัง/ละครเกี่ยวกับนิวยอร์คที่ชอบมาก

1.S-E-X AND THE CITY (A+)

2.EMPTILESS LANDSCAPE (2003, NAT SATAYAMAS, A+)

3.IN THE CUT (2003, JANE CAMPION, A+)

4.WEST SIDE STORY (1961, ROBERT WISE + JEROME ROBBINS, A+)

5.GANGS OF NEW YORK (MARTIN SCORSESE, A+)

6.DRIFTER (1993, SASITHORN ARIYAVICHA, A+)

7.NEWS FROM HOME (1977, CHANTAL AKERMAN, A+/A)
http://www.filmref.com/directors/dirpages/akerman.html

8.AFTER HOURS (1985, MARTIN SCORSESE, A)

9.DOWN WITH LOVE (2003, PEYTON REED, A)

10.I’LL TAKE MANHATTAN (1987, DOUGLAS HICKOX + RICHARD MICHAELS, B)
สร้างจากนิยายของ JUDITH KRANTZ และนำแสดงโดย VALERIE BERTINELLI, BARRY BOSTWICK, FRANCESCA ANNIS, JULIANNE MOORE, BRETT CULLEN
http://www.imdb.com/title/tt0092378/
http://images-eu.amazon.com/images/P/B0000897D1.01.LZZZZZZZ.jpg

เคยเห็นหนังสือ CELLULOID SKYLINE: NEW YORK AND THE MOVIES ของ JAMES SANDERS มาวางขายในกรุงเทพด้วยเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ซื้อมาอ่าน
http://www.amazon.com/gp/product/B000B8K79U/qid=1150530163/sr=1-2/ref=sr_1_2/002-3188729-6356862?s=books&v=glance&n=283155
http://www.bookcloseouts.com/images/large/isbn074/0747559791-l.jpg

http://www.celluloidskyline.com/main/splash.html


ตอบน้อง merveillesxx

ยังไม่ได้ดู A BITTERSWEET LIFE เลยจ้ะ แต่ชอบ A TALE OF TWO SISTERS (A+) และ THREE ตอนที่กำกับโดยคิมจีวูนมากๆ

อย่างไรก็ดี ชอบเพลง BITTERSWEET LOVING ของวง DEEE-LITE อย่างรุนแรงมากๆ เพลงนี้อยู่ในอัลบัมชุด SAMPLADELIC RELICS & DANCEFLOOR ODDITIES (1996, A) และเป็นเพลงที่ชอบที่สุดในอัลบัมชุดนี้จ้ะ
http://www.amazon.com/gp/product/B000002HKW/sr=8-4/qid=1150530759/ref=pd_bbs_4/002-3188729-6356862?%5Fencoding=UTF8
http://images.amazon.com/images/P/B000002HKW.01._SS500_SCLZZZZZZZ_.jpg

ส่วนเพลง BITTERSWEET SYMPHONY ของวง THE VERVE นั้น ตอนแรกเคยชอบ แต่พอได้ฟังเพลงนี้ในตอนจบของหนังเรื่อง CRUEL INTENTIONS (1999, ROGER KUMBLE, B) ก็เลยเลิกชอบเพลงนี้ไปเลย ฮ่าๆๆๆๆ


ตอบคุณเจ้าชายน้อย

เห็นคุณเจ้าชายน้อยเขียนถึงหนังคาวบอยเรื่อง RED SUN (1971, TERENCE YOUNG) ก็เลยนึกถึงหนังคาวบอยอิตาลีเรื่องนึงที่น่าดูมากๆ นั่นก็คือเรื่อง THE PRICE OF POWER (1969, TONINO VALERII) ที่ได้รับการแนะนำในนิตยสาร FILM COMMENT เล่มใหม่ เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังคาวบอยการเมืองที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคดีลอบสังหาร JFK

THE PRICE OF POWER ใช้ฉากหลังเป็นดัลลัสในปี 1880 เมื่อประธานาธิบดีการ์ฟิลด์ (VAN JOHNSON) เดินทางมาเยือนดัลลัส และพวกอดีตกบฏฝ่ายใต้บางคนก็วางแผนจะลอบสังหารเขา อย่างไรก็ดี แผนลอบสังหารครั้งแรกประสบความล้มเหลวเพราะถูกขัดขวางโดยบิล วิลเลอร์ (GIULIANO GEMMA)

อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีนั่งรถม้าผ่านเมืองนี้ในเวลาต่อมา และก็ถูกลอบยิงโดยมือปืนลึกลับ หลังจากนั้นแจ็ค ซึ่งเป็นเพื่อนของวิลเลอร์ก็โดนจับและถูกกล่าวหาว่าเป็นคนยิงปธน.

แจ็คในหนังเรื่องนี้ตกอยู่ในสถานะเดียวกับ LEE HARVEY OSWALD ในคดี JFK โดยแจ็คถูกฆาตกรรมในขณะที่มีการส่งตัวเขาจากคุกนึงไปอีกคุกนึง และวิลเลอร์ก็ตัดสินใจจะสืบหาความจริงว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนการทั้งหมด

แจ็คค้นพบแผนสมรู้ร่วมคิดระหว่างนักธุรกิจในรัฐเท็กซัส, ตำรวจฉ้อฉล, รองปธน. และวอลเลซ ซึ่งเป็นคนเหยียดผิว

หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าองค์ประกอบที่มักพบในหนังคาวบอยอิตาลีคือองค์ประกอบเดียวกับที่มักพบในหนังกลุ่มสมรู้ร่วมคิด นั่นก็คือ การเหยียดผิว, ตำรวจที่ฉ้อฉล และการที่ประชาชนไม่สามารถไว้วางใจในผู้มีอำนาจ

THE PRICE OF POWER แสดงให้เห็นว่ารองปธน.มีส่วนร่วมในการฆ่าปธน.และเขาใช้มือสังหารชื่อวอลเลซในการกระทำการนี้ ส่วนในคดี JFK จริงๆนั้น หลายคนก็เชื่อว่ารองปธน. LYNDON B. JOHNSON ก็มีส่วนร่วมในการฆ่า JFK เช่นกัน และเขาอาจจะใช้มือสังหารที่ชื่อ “MAC” WALLACE ในการฆ่า JFK

GIULIANO GEMMA (1938)
http://www.giulianogemma.it/
http://www.buioomega.com/Images/Gallery/People/Gemma%20Giuliano/images/Giuliano%20Gemma.jpg
http://website.lineone.net/~braithwaitej/mainsite/overview/actors/gemma.jpg
http://www.giulianogemma.it/big/big-gemma5.jpg

GIULIANO GEMMA ใน ADIOS GRINGO (1965, GIORGIO STEGANI)
http://www.dvdes.ch/images/pics/b_1000039647.jpg

GIULIANO GEMMA ใน LONG LIVE ROBIN HOOD (1970, GIORGIO FERRONI)
http://www.giulianogemma.it/big/big-gemma2.jpg

นอกจากคดี JFK จะก่อให้เกิดหนังคาวบอยอิตาลีเรื่อง THE PRICE OF POWER แล้ว คดีนี้ยังก่อให้เกิดหนังอย่าง

1. I FOR ICARUS (1979, HENRI VERNEUIL, A+)

2.ละคร THE X-FILES ตอนนึงก็ให้ SMOKING MAN (WILLIAM B. DAVIS ตอนแก่ หรือ CHRIS OWENS ตอนหนุ่ม) เป็นคนฆ่า JFK กับ MARTIN LUTHER KING ถ้าจำไม่ผิด

3.EXECUTIVE ACTION (1973, DAVID MILLER)
A wealthy group of power-brokers employ mercenaries to assassinate JFK.
http://images.amazon.com/images/P/6300268047.01.LZZZZZZZ.jpg

4.RUSH TO JUDGEMENT (1967, EMILE DE ANTONIO)
หนังสารคดี
http://images.amazon.com/images/P/6301045718.01.LZZZZZZZ.gif

5.WINTER KILLS (1979, WILLIAM RICHERT)
หนังทริลเลอร์สมคบคิดเรื่องนี้สร้างจากนิยายของ RICHARD CONDON ซึ่งเคยเขียนเรื่อง THE MANCHURIAN CANDIDATE และ PRIZZI’S HONOR โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับน้องชาย (JEFF BRIDGES) ของประธานาธิบดีสหรัฐที่ถูกลอบสังหาร เขาพยายามสืบหาฆาตกรตัวจริง และค้นพบเงื่อนงำที่ยากจะคลี่คลายได้ โดยมี JOHN HUSTON มารับบทเป็นหัวหน้าของตระกูลอันยิ่งใหญ่ในสหรัฐตระกูลนี้
http://images.amazon.com/images/P/B0000844J2.01.LZZZZZZZ.jpg

6.ละครชุด TWILIGHT ZONE ตอน PROFILE IN SILVER (1986) มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้ชาย (LANE SMITH) ที่ย้อนเวลาไปช่วยชีวิต JFK

7.THE PARALLAX VIEW (1974, ALAN J. PAKULA)
หนังเรื่องนี้เห็นเคยมีวางขายทั่วไปในกรุงเทพ

No comments: