เห็นคุณ Warut Pornchaiprasartkul แปลบทความของ Jonas Mekas แล้วรู้สึกว่ามันดีงามมาก
ๆ เลยขอเอามาแปะเก็บไว้ในนี้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
“ถ้อยแถลงต่อต้านร้อยปีภาพยนตร์
โดย Jonas Mekas, 11 กุมภาพันธ์
1996, อเมริกัน
เซนเตอร์, ปารีส
อย่างที่คุณทราบดีว่าเป็นพระเจ้าซึ่งสร้างโลกใบนี้
และทุกอย่างบนโลก พระเจ้าคิดว่าทุกอย่างช่างยอดเยี่ยม จิตรกรทุกคน กวี นักดนตรี
ต่างร่ำร้องเฉลิมฉลองให้กับการสร้างสรรค์ และทุกอย่างนั้นใช้ได้ทีเดียว
แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นจริงๆ มีบางสิ่งที่ขาดหาย ดังนั้นเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน
พระเจ้าจึงตัดสินใจสร้างกล้องถ่ายหนังขึ้น และสร้างคนทำหนัง พระเจ้าตรัสว่า
“บัดนี้ นี่คืออุปกรณ์ที่เรียกว่ากล้องถ่ายหนัง พวกเจ้าจงไป ไปถ่าย
เฉลิมฉลองความงามของการสร้างสรรค์และความฝันของจิตวิญญาณมนุษย์
และจงสนุกสนานกับมัน”
แต่ปีศาจเห็นแล้วไม่ชอบใจแม้แต่น้อย
ปีศาจเลยวางถุงเงินไว้ตรงหน้ากล้อง และบอกกับคนทำหนังว่า
“พวกเจ้าจะอยากเอากล้องไปเฉลิมฉลองความงามของโลกและจิตวิญญาณไปทำไม
ทั้งๆที่พวกเจ้าหาเงินจากมันได้?” เชื่อหรือไม่ คนทำหนังทุกคนวิ่งตามถุงเงินนั้น
พระเจ้าค่อยตระหนักว่าตัวเองทำพลาดอย่างแรง ดังนั้นอีก 25 ปีต่อมา
เพื่อเป็นการแก้ไข พระเจ้าจึงสร้างเหล่าคนทำหนังอวองการ์ด คนทำหนังอิสระ และพูดว่า
“นี่คือกล้องถ่ายหนัง จงรับมันไปสู่โลก
เอาไปร้องรำทำเพลงให้กับความงามของทุกการสร้างสรรค์ และสนุกสนานกับมัน
แต่พวกเจ้าจะต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่จะทำเช่นนั้นนะ
และจะไม่มีทางได้เงินสักแดงเดียว”
พระเจ้ากล่าวกับ
Viking Eggeling,
Germaine Dulac, Jean Epstein, Fernand Leger, Dmitri Kirsanoff, Marcel Duchamp,
Hans Richter, Luis Bunuel, Man Ray, Cavalcanti, Jean Cocteau, และ Maya Deren, และ Sidney Peterson, และ Kenneth Anger,
Gregory Markopoulos, Stan Brakhage, Marie Menken, Bruce Baillie, Francis Lee,
Harry Smith และ Jack Smith และ Ken Jacobs, Ernie Gehr, Ron Rice,
Michael Snow, Joseph Cornell, Peter Kubelka, Hollis Frampton และ Barbara Rubin, Paul
Sharits, Robert Beavers, Christopher McLain, และ Kurt Kren, Robert
Breer, Dore O, Isidore Isou, Antonio De Bernardi, Maurice Lemaitre, และ Bruce Conner, และ Klaus Wyborny,
Boris Lehman, Bruce Elder, Taka Iimura, Abigail Child, Andrew Noren และคนอื่นๆอีกมากมาย
คนอื่นๆอีกมากมายทั่วโลก พวกเขาคว้ากล้องโบเล็กซ์ไป กล้องแปดมิลตัวเล็ก
กล้องซูเปอร์ 8 แล้วเริ่มบันทึกความงามของโลก
และการผจญภัยอันซับซ้อนของจิตวิญญาณมนุษย์
พวกเขามีช่วงเวลาที่สนุกสนานที่ได้ทำสิ่งนี้ และภาพยนตร์ของพวกเขาไม่เคยได้ตังค์
และไม่เคยทำในสิ่งที่ถูกเรียกว่าเป็นประโยชน์
ขณะพิพิธภัณฑ์ทั่วโลกกำลังเฉลิมฉลองหนึ่งร้อยปีชาตกาลภาพยนตร์
เป็นมูลค่ากว่าล้านๆดอลลาร์ที่ภาพยนตร์หามาได้
ฮอลลีวู้ดของพวกเขาได้รับการเห่อเหิมทั่วสารทิศ แต่ไม่มีเลย
ไม่มีเลยจริงๆที่หนังอวองการ์ด ภาพยนตร์อิสระ ภาพยนตร์ของพวกเราจะถูกเอ่ยถึง
ฉันเห็นโบรชัวร์
โปรแกรมของพิพิธภัณฑ์ คลังอนุรักษ์ และหอภาพยนตร์ต่างๆทั่วโลก
แต่ที่เหล่านี้พูดว่า “พวกเราไม่สนใจภาพยนตร์ของคุณ” ในช่วงเวลาแห่งความใหญ่โต
ตื่นตาตื่นใจ โปรดักชั่นระดับร้อยล้าน ฉันต้องการส่งเสียงให้กับสิ่งเล็กสิ่งน้อย
การกระทำที่ไม่อาจมองเห็นของจิตวิญญาณมนุษย์ สิ่งที่แสนละเอียดอ่อน บางกระจ้อย
และตายจากเมื่อถูกนำออกมาเปิดกางอยู่ใต้แสงโร่
ฉันต้องการเฉลิมฉลองให้กับภาพยนตร์ในรูปแบบเล็กๆทั้งหลาย
ภาพยนตร์ที่เป็นเหมือนโคลงกวี ที่เป็นสีน้ำ เพลงสั้นๆ ภาพร่าง ภาพเหมือนบุคคล
ลายอะราเบสก์ และ บากาเทล และท่วงทำนองของกล้องแปดมิลตัวเล็กๆ
ในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องการความสำเร็จและการขาย
ฉันต้องการเฉลิมฉลองให้กับผู้คนที่โอบกอดสังคมและมือเล็กๆในแต่ละวันที่ไขว่คว้าสิ่งซึ่งมองไม่เห็น
สิ่งอันเป็นส่วนตัวที่จะไม่ทำให้คุณมีกิน และจะไม่เป็นประวัติศาสตร์ร่วมสมัย
ประวัติศาสตร์ศิลปะ หรือประวัติศาสตร์อื่นใด ฉันแค่ยืนอยู่ตรงนี้เพื่อศิลปะ
สิ่งที่พวกเราทำเพื่อกันและกัน ในฐานะเพื่อน
ฉันกำลังยืนอยู่กลางทางหลวงของข้อมูลข่าวสาร
และกำลังหัวร่อ
เพราะผีเสื้อตัวหนึ่งบนดอกไม้น่ารักๆสักแห่งในประเทศจีนเพิ่งจะกระพือปีกของมัน
และฉันรู้ว่าประวัติศาสตร์ทั้งมวล
วัฒนธรรมจะเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งด้วยการกระพือน้อยๆนั้น กล้องซูเปอร์ 8 เพิ่งส่งเสียงเฉวียนฉวัดเบาๆที่ไหนสักแห่ง
ที่ไหนสักแห่งละแวกโลเวอร์อีสต์ไซด์ของนิวยอร์ก และโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงของภาพยนตร์คือประวัติศาสตร์ที่ไม่ถูกมองเห็น
ประวัติศาสตร์ของเพื่อนๆที่มารวมตัวกัน ทำในสิ่งที่พวกเขารัก
ภาพยนตร์กำลังเริ่มต้นด้วยทุกการเคลื่อนไหวใหม่ๆของเครื่องฉาย
ด้วยทุกการเคลื่อนไหวใหม่ๆของกล้องของพวกเรา หัวใจของพวกเราโดดไปข้างหน้าเพื่อนเอ๋ย”
ส่วนอันนี้เป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษของบทความของ Jonas Mekas จ้ะ
https://web.facebook.com/photo?fbid=10218922749643101&set=a.10209176152904274
พอ Jonas Mekas กล่าวชื่นชมผู้กำกับภาพยนตร์อิสระและผู้กำกับภาพยนตร์แนวอวองท์การ์ดที่
“filming the beauty of this world, and the
complex adventures of the human spirit, and they're having great fun doing it.
And the films bring no money and do not do what's called useful.” แล้ว
เราก็เลยคิดว่าเราอยากจะถือโอกาสนี้ทำลิสท์รายชื่อผู้กำกับภาพยนตร์กลุ่มนี้ของไทยที่สร้างความสุขอย่างล้นปรี่ให้กับเราในช่วง
20-30 ปีที่ผ่านมาด้วยก็แล้วกัน คือจริง ๆ แล้วเราก็รู้สึกว่ามีผู้กำกับภาพยนตร์ไทยจำนวนมาก
โดยเฉพาะในวงการหนังสั้น ที่ทำหนังอิสระหรือทำหนังทดลองที่งดงามในแบบที่คล้าย ๆ
กับผู้กำกับในรายชื่อของ Jonas Mekas เราก็เลยอยากจะถือโอกาสนี้ลิสท์รายชื่อพวกเขาบ้าง
แต่เราไม่ได้คาดหวังให้หนังของพวกเขา “ไม่ทำเงิน” นะ 555555 เราหวังว่าหนังของพวกเขาจะทำเงินสูง
ๆ หรือหวังว่าพวกเขาจะมีฐานะร่ำรวยมาก ๆ จากการประกอบอาชีพอื่น ๆ เราเพียงแค่อยากจะจดบันทึกความทรงจำเอาไว้ว่า
เรารักผลงานภาพยนตร์ของพวกเขามาก ๆ ในอดีตที่ผ่านมา ส่วนในอนาคตนั้น ถ้าหากพวกเขาจะหันไปเน้นสร้างหนังที่
“ทำเงิน” มันก็เป็นเรื่องที่ปกติที่สุดของชีวิตมนุษย์จ้ะ เพราะถ้าหากเป็นเรา เราก็อาจจะหันไปเน้นสร้างหนังที่
“ทำเงิน” เช่นกัน เพื่อที่เราจะได้มีเงินซื้อข้าวกิน และเผื่อจะได้มีเวลา, กำลังกาย
และกำลังทุนทรัพย์เอาไว้ใช้สำหรับการสร้างหนังที่ใจอยากทำจริง ๆ ในภายหลัง
ซึ่งผู้กำกับของไทยที่เราคิดถึงเมื่อได้เห็นรายชื่อผู้กำกับในลิสท์ของ
Jonas Mekas นั้น ก็รวมถึงผู้กำกับหนังทดลองของไทย
44 รายในบทความ MYSTERIOUS OBJECTS FROM THAILAND ที่เรากับเพื่อน
ๆ เคยเขียนถึงในปี 2012 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน โดยผู้กำกับ 44คนนั้น มีดังต่อไปนี้
(ตัวบทความนั้นไม่รวมผู้กำกับหนังไทยที่โด่งดังในต่างประเทศอยู่แล้วในตอนนั้น
อย่างเช่น Apichatpong Weerasethakul)
http://www.experimentalconversations.com/article/mysterious-objects-from-thailand/
http://www.experimentalconversations.com/article/part-2-of-mysterious-objects-from-thailand/
http://www.experimentalconversations.com/article/part-3-of-mysterious-objects-from-thailand/
http://www.experimentalconversations.com/article/postscript-to-mysterious-objects-from-thailand/
1.Aditya Assarat (HI-SO)
2.Anocha Suwichakornpong (BY THE TIME IT GETS DARK)
3.Araya Rasdjarmrearnsook (THE NINE-DAY PREGNANCY OF
A SINGLE MIDDLE-AGED ASSOCIATE PROFESSOR)
4.Arthawut Boonyuang (TIME TO BE…)
5.Chaloemkiat Saeyong (POLITICALLY LAWYER AND
NARRATIVE CINEMA)
6.Chonlasit Upanigkit (W)
7.Chulayarnnon Siriphol (A BRIEF HISTORY OF MEMORY)
8.Ing K. (MY TEACHER EATS BISCUITS)
9.Jakrawal Nilthamrong (VANISHING POINT)
10.Korn Kanogkekarin (WHY DO YOU JUMP?)
11.Manussak Dokmai (WAY OF THINKING 1: LAOTIAN
SOLDIERS WOULD LIKE TO CHANGE THAI PEOPLE’S IDEAS)
12. Michael Shaowanasai (KKK)
13. Napat Treepalavisetkun (A SERIES OF SALINEE
EVENT)
14. Nawapol Thamrongrattanarit (MARY IS HAPPY, MARY
IS HAPPY)
15.Nontawat Numbenchapol (WEIRDROSOPHER WORLD)
16. Panu Aree (MAGIC WATER)
17. Phaisit Phanphruksachat (THE CRUELTY AND THE
SOY-SAUCE MAN)
18.Phutthiphong Aroonpheng (STRANGER FROM THE SOUTH)
19. Pimpaka Towira (MAE NAK)
20. Pramote Sangsorn (THE ISLAND OF UTOPIAS)
21. Prap Boonpan (THE BANGKOK BOURGEOIS PARTY)
22. Ratchapoom Boonbunchachoke (BODILY FLUID IS SO
REVOLUTIONARY)
23. Sasithorn Ariyavicha (BIRTH OF THE SEANÉMA)
24. Sompot Chidgasornpongse (RAILWAY SLEEPERS)
25. Suchart Sawasdsri (DON’T EVEN THINK ABOUT IT)
26. Taiki Sakpisit (THE EDGE OF DAYBREAK)
27. Tanatchai Bandasak (ENDLESS
RHYME)
28. Teerath Whangvisarn (DAMNED LIFE OF YOI)
29. Thunska Punsittivorakul (VOODOO GIRLS)
30. Tossapol Boonsinsukh (AFTERNOON TIMES)
31. Tulapop Saenjaroen (SAD SCENERY)
32. Uruphong Raksasad (MARCH OF TIME)
33. Vichaya Mukdamanee (RE-CONFIGURATION OF WOOD
SHELVES)
34. Visra Vichit-Vadakan (RISE)
35. Wachara Kanha (AWARENESS
ภาษาที่เธอไม่เข้าใจ)
36. Wasunan Hutawach (LET’S EAT)
37. Weerapong Wimuktalop (COLOURS ON THE STREETS)
38. Weerasak Suyala (THE PEN)
39. Zart Tancharoen (ONE NIGHT)
40. Teeranit Siangsanoh (THE BURNT-OUT STAR)
41. Ukrit Sa-nguanhai (CELESTIAL SPACE)
42. Viriyaporn Boonprasert (I’M GONNA BE A NAÏVE)
43. Vorakorn Ruetaivanichkul (MOTHER)
44. Wichanon Somumjarn (IN APRIL THE FOLLOWING YEAR,
THERE WAS A FIRE)
แต่ลิสท์ผู้กำกับ 44 รายนี้เป็นลิสท์ผู้กำกับที่เรากับเพื่อน
ๆ ทำขึ้นในปี 2012-2013 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน ส่วนในช่วง 12 ปีต่อมานั้น ก็มีผู้กำกับภาพยนตร์แนวอวองท์การ์ดและผู้กำกับภาพยนตร์อิสระของไทยอีกหลายคนที่เรานึกถึงเมื่อได้เห็นรายชื่อผู้กำกับในลิสท์ของ
Jonas Mekas ด้วยเช่นกัน
แต่เราคงไม่สามารถจะลิสท์รายชื่อผู้กำกับชาวไทยที่ควรกล่าวถึงให้ครบหมดทุกคนได้ เพราะฉะนั้นเราขอลิสท์เพียงแค่ไม่กี่คนก็แล้วกันนะ
ส่วนใครที่เราไม่ได้ใส่ไว้ในรายชื่อนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักผลงานภาพยนตร์ของพวกท่านนะ
:-)
45. Abhichon Rattanabhayon (SAWANKHALAI)
46. Achitaphon
Piansukprasert (BLOOD RAIN)
47. Aekaphong Saransate (THE SEA RECALLS)
48.Anant Kasetsinsombut (THE BRAVE
CHICKEN AND THE WILD DOG)
49.Arnont Nongyao (GHOST RABBIT & THE CASKET
SALES)
50.Boonsong Nakphoo (VILLAGE OF HOPE วังพิกุล)
51.Chanasorn Chaikittiporn (HOMATAGIA)
52.Chantana Tiprachart (HOW FAR A BETTER LIFE)
53.Chaweng Chaiyawan (THE LAST MISSION)
54. Eakalak Maleetipawan (BOYS ARE BACK IN TOWN)
55.Jakkrapan Sriwichai (10 AUDIENCES)
56.Jatupol Kiawsaeng (A GIRL WHO WALKS ALONE AT DAY)
57.Jessada Chan-yaem (THE SOUND OF DEVOURING DUST)
58.Jirassaya Wongsutin (MENSTRUAL SYNCHRONY)
59.Karan Wongprakarnsanti (KORO)
60.Kong Pahurak (IN THE FLESH)
61.Korakrit Arunanondchai (PAINTING WITH
HISTORY IN A ROOM FILLED WITH PEOPLE WITH FUNNY NAMES 3)
62.Koraphat Cheeradit (TOMORROW
I FUCKING WITH YESTERDAY NOW!)
63.Navin Rawanchaikul (HONG RUB KHAEK ห้องรับแขก)
64.Nipan Oranniwesna (A PERFECT PLACE 01072015 (KONO TABI))
65. Nutcha Tantivitayapitak (MR. ZERO)
66.Padcha Ithijarukul (MOM YONG BENJAWAN)
67.Patana Chirawong (TEARS)
68.Pathompon Tesprateep (THERE IS NO CENTER OF THE
UNIVERSE)
69.Patiparn Boontarig (TORTURE ROOM)
70.Phasitpol Kerdpool (A PERSONAL ODYSSEY)
71.Possathorn Watcharapanit (SENSORY MEMORY)
72.Prapat Jiwarangsan (THE ASYLUM)
73.Premwong Rattanadilok Na Phuket (L’ESSENTIEL)
74.Puangsoi Aksornsawang (NAKORN-SAWAN)
75.Saroot Supasuthivech (GHOST’S ALL MASS)
76.Sivaroj Kongsakul (ETERNITY)
77.Siwakorn Bunsrang (WHEN THE WIND BLOWS)
78.Somghad Meyen (MEMORY OF LOVE BOONGOM บันทึกรักของบุญกึ่ม)
79.Sompong Soda (WANG YUEN HAB วังยื่นหาบ)
80.Sorayos Prapapan (NEW ABNORMAL)
81.Supamok Silarak (VIOLET BASIL)
82.Tanakit
Kitsanayunyong (TODAY
THE AIR IS BETTER. OXYGEN STARTS COMING IN. วันนี้อากาศเริ่มดีขึ้นแล้ว
ออกซิเจนเริ่มเข้ามาแล้ว)
83.Taweechok Pasom (TGUgcXVhdG9yemUganVpbGxldA)
84.Teeraphan Ngowjeenanan (WAY OF DUST หากเข้านัยน์ตาเราก็คงจะทำให้เสียน้ำตา)
85.Tewprai Bualoi (FRIENDSHIP ENDED WITH MUDASIR NOW
SALMAN IS MY BEST FRIEND)
86.Thanit Yantrakovit (HAPPY ENDING)
87.Thapanee Loosuwan (BLUE AGAIN)
88.Theerapat Wongpaisarnkit (HUU)
89.Theeraphat Ngathong (HOLIDAY HOMEWORK)
https://www.youtube.com/watch?v=BIo6r26IhT4
90.Vichart Somkaew (ONE TRUE THING)
91.Warat Bureephakdee (E KWAI STANDING STILL)
92.Wattanapume Laisuwanchai (GOLDEN MOUNTAIN)
96.Weera Rukbankerd (MESSAGES ARE NOT TRUE STORY)
94.Weerapat Sakolvaree (THE ETERNAL LABYRINTH)
ก็ขอจดบันทึกความทรงจำเอาไว้ว่า พอเราได้เห็นรายชื่อผู้กำกับในลิสท์ของ
Jonas Mekas เราก็นึกถึงผู้กำกับภาพยนตร์ไทยทั้ง
94 รายนี้ รวมทั้งคนอื่น ๆ ด้วยที่เราไม่มีเวลาจดบันทึกจ้ะ
ถ้าเราสามารถขอพรได้ เราก็ขอตั้งความปรารถนาให้ MAY THE SPIRITS OF
INDEPENDENT CINEMA ALWAYS BE WITH ALL OF THEM นะ และขอตั้งความปรารถนาให้
MAY ENOUGH FINANCIAL RESOURCES ALWAYS BE WITH ALL OF THEM ด้วย
รูปจาก CONTENT ทางกลับแฟลต ( 2023, บุศรา
สอนเจริญทรัพย์, อนันต์ เกษตรสินสมบัติ / 17.30 นาที), ASLEEP
(2022, Premwong Rattanadilok Na Phuket), BLOOD RAIN ฝนเลือด
(2023, Achitaphon Piansukpraset, 73min), THE SOUND OF DEVOURING DUST นครฝุ่น (2022, Jessada Chan-yaem, 34min), AS I WAS MOVING AHEAD
OCCASIONALLY I SAW BRIEF GLIMPSES OF BEAUTY (2000, Jonas Mekas, 4hrs 48mins),
TOMORROW I FUCKING WITH YESTERDAY NOW! (2023, กรภัทร์ จีระดิษฐ์ / 15.17
นาที), E KWAI STANDING STILL ขอสดุดี
แด่วีรชน ผู้กล้า และควายเผือกพิเศษ (2023, Warat Bureephakdee, 30min), A
PERFECT PLACE 09022021 (HUMP) (2022, Nipan Oranniwesna, 29min), HOW FAR A
BETTER LIFE เรื่องเล่าจากดอนโจด (2017, Chantana
Tiprachart)