Sunday, January 28, 2024

FILMS THAT INSPIRE ME TO LIVE

 

อันนี้ขออนุญาต “ตอบไม่ตรงคำถาม” 555555 เพราะถ้าหนังที่ “เติมไฟ” หมายถึงหนังที่กระตุ้นให้เราลุกขึ้นมาสร้างอะไรที่ “ยิ่งใหญ่” หรือกระตุ้นให้เรา “ไขว่คว้าหาความสำเร็จในชีวิต” นี่ไม่มีนะ 555 ไม่มีหนังที่ส่งผลกระทบต่อเราในแบบนั้น แต่ถ้าหนังที่ “เติมไฟ” หมายถึงหนังที่ทำให้เรา “ตัดสินใจว่าวันนี้เราจะยังไม่ฆ่าตัวตาย ยังอยากลองมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักวันหนึ่ง” นี่ก็อาจจะรวมถึงหนัง 3 เรื่องนี้

 

1.BLEED FOR THIS (2016, Ben Younger)

 

เพราะเราเป็นคนที่มักจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ หนังเรื่องนี้ก็เลยให้กำลังใจเราได้ดีมาก ๆ

 

2.SWANN (1996, Anna Benson Gyles, Canada)

 

ชอบความ “ไม่แคร์ชื่อเสียง” ของตัวละครนางเอกมาก ๆ เหมือนนางเอก “แค่พอใจในความสามารถในการแต่งบทกวีของตัวเอง” เธอก็มีความสุขแล้ว และไม่เห็นจะต้องแคร์เลยว่า คนอื่น ๆ จะมองเห็นความสามารถของตัวเราหรือไม่ เหมือนนางเอกมองว่า “ความสุขของกูไม่ขึ้นอยู่กับสายตาของพวกมึง” แต่ขึ้นอยู่กับสายตาของเราที่มองตัวเราเอง

 

3.DYING AT A HOSPITAL (1993, Jun Ichikawa, Japan)

 

ซึ่งจริง ๆ แล้วหนังอย่าง IT’S A WONDERFUL LIFE (1946, Frank Capra) และ FALLEN LEAVES (2023, Aki Kaurismaki) ก็เป็นหนังที่ “ช่วยให้กำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป” สำหรับเราได้อย่างดีมาก ๆ เลยนะ แต่มันยังเป็นรองหนังอย่าง DYING AT A HOSPITAL อยู่ในระดับนึง

 

คือหนังแนวเชิดชูคุณค่าของชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะพวกหนังคริสต์มาสของฝรั่ง มันยังติดกับดัก “เชิดชูสถาบันครอบครัว” น่ะ เหมือนหนังกลุ่มนี้ชอบสอนว่า “อย่าไปแสวงหาความร่ำรวยมากเกินไป แค่มีฐานะปานกลาง แล้วเลี้ยงดูลูกเมีย ให้เวลาลูกเมียอย่างอบอุ่น อย่าบ้างานมากเกินไป” อะไรทำนองนี้ ซึ่งเราก็จะไม่อินกับหนังกลุ่มนี้ เพราะถึงแม้เราจะเห็นด้วยกับความ anti-capitalism ของหนังกลุ่มนี้ แต่เราก็จะไม่อินกับความ “เชิดชูสถาบันครอบครัว” ของหนังกลุ่มนี้

 

ส่วนหนังอย่าง IT’S A WONDERFUL LIFE ก็เป็นหนังที่วิเศษมาก ๆ สำหรับเรา แต่เหมือนตัวละครพระเอกในหนังอาจจะเคยทำดีกับคนอื่น ๆ ไว้มากพอสมควรน่ะ เราก็เลยจะเอ๊ะ ๆ นิดนึงว่า เราจะสามารถอินกับพระเอกของหนังเรื่องนี้ได้มากนักหรือไม่นะ

 

เราก็เลยรู้สึกว่า FALLEN LEAVES เป็นหนังที่ชุบชูชีวิตจิตใจเราได้อย่างดีงามมาก ๆ เพราะเหมือนหนังมันก็ไม่ได้เชิดชูสถาบันครอบครัว ตัวละครนางเอกก็ไม่ได้ดูเคยเป็นคนที่ยิ่งใหญ่หรือสำคัญหรือเคยช่วยเหลือคนอื่น ๆ ไว้มากมายแบบพระเอกของ IT’S A WONDERFUL LIFE เหมือนนางเอกแค่ต้องการ “งานทำ” เพื่อที่จะได้มีเงินพอเลี้ยงชีพ และต้องการผัวสักคน ก็พอแล้ว เธอไม่ได้ต้องการชื่อเสียง, ไม่ได้ต้องการเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก, ไม่ได้ต้องการสร้าง legacy อะไรทิ้งไว้ให้โลกจดจำรำลึกแต่อย่างใดทั้งสิ้น มุมมองของนางเอกที่มีต่อ “ความสุขของชีวิต” ก็เลยเข้ากับเราอย่างสุด ๆ เราก็เลยรักหนังเรื่อง FALLEN LEAVES อย่างสุด ๆ

 

แต่ แต่ แต่ นางเอกของ FALLEN LEAVES ก็เหมือนยังต้องการ “ความรัก”, “คนรัก” หรือ “ผัว” อยู่ดี

 

เราก็เลยรู้สึกว่า DYING AT A HOSPITAL ของ Jun Ichikawa นี่แหละคือหนังที่ถือว่า “สุดขีด” ที่สุดจริง ๆ ในขั้นนี้ เพราะดูหนังเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกได้เลยว่า กูไม่มีผัว ไม่มีคนรัก ไม่มีชื่อเสียง ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก ไม่มีคนจดจำกู ไม่มีคนคิดถึงกู  กูก็มีความสุขได้แล้ว เพราะตอนนี้ กูแค่ยังมี “ลมหายใจ” ก็พอแล้ว

 

No comments: