อันนี้ขออนุญาต “ตอบไม่ตรงคำถาม”
555555 เพราะถ้าหนังที่ “เติมไฟ” หมายถึงหนังที่กระตุ้นให้เราลุกขึ้นมาสร้างอะไรที่
“ยิ่งใหญ่” หรือกระตุ้นให้เรา “ไขว่คว้าหาความสำเร็จในชีวิต” นี่ไม่มีนะ 555 ไม่มีหนังที่ส่งผลกระทบต่อเราในแบบนั้น
แต่ถ้าหนังที่ “เติมไฟ” หมายถึงหนังที่ทำให้เรา “ตัดสินใจว่าวันนี้เราจะยังไม่ฆ่าตัวตาย
ยังอยากลองมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสักวันหนึ่ง” นี่ก็อาจจะรวมถึงหนัง 3 เรื่องนี้
1.BLEED FOR THIS (2016, Ben Younger)
เพราะเราเป็นคนที่มักจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ
หนังเรื่องนี้ก็เลยให้กำลังใจเราได้ดีมาก ๆ
2.SWANN
(1996, Anna Benson Gyles, Canada)
ชอบความ “ไม่แคร์ชื่อเสียง” ของตัวละครนางเอกมาก
ๆ เหมือนนางเอก “แค่พอใจในความสามารถในการแต่งบทกวีของตัวเอง” เธอก็มีความสุขแล้ว และไม่เห็นจะต้องแคร์เลยว่า
คนอื่น ๆ จะมองเห็นความสามารถของตัวเราหรือไม่ เหมือนนางเอกมองว่า “ความสุขของกูไม่ขึ้นอยู่กับสายตาของพวกมึง”
แต่ขึ้นอยู่กับสายตาของเราที่มองตัวเราเอง
3.DYING AT A HOSPITAL (1993, Jun
Ichikawa, Japan)
ซึ่งจริง ๆ แล้วหนังอย่าง IT’S A WONDERFUL LIFE (1946, Frank Capra) และ FALLEN
LEAVES (2023, Aki Kaurismaki) ก็เป็นหนังที่ “ช่วยให้กำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป”
สำหรับเราได้อย่างดีมาก ๆ เลยนะ แต่มันยังเป็นรองหนังอย่าง DYING AT A HOSPITAL
อยู่ในระดับนึง
คือหนังแนวเชิดชูคุณค่าของชีวิตมนุษย์
โดยเฉพาะพวกหนังคริสต์มาสของฝรั่ง มันยังติดกับดัก “เชิดชูสถาบันครอบครัว” น่ะ
เหมือนหนังกลุ่มนี้ชอบสอนว่า “อย่าไปแสวงหาความร่ำรวยมากเกินไป แค่มีฐานะปานกลาง
แล้วเลี้ยงดูลูกเมีย ให้เวลาลูกเมียอย่างอบอุ่น อย่าบ้างานมากเกินไป” อะไรทำนองนี้
ซึ่งเราก็จะไม่อินกับหนังกลุ่มนี้ เพราะถึงแม้เราจะเห็นด้วยกับความ anti-capitalism ของหนังกลุ่มนี้
แต่เราก็จะไม่อินกับความ “เชิดชูสถาบันครอบครัว” ของหนังกลุ่มนี้
ส่วนหนังอย่าง IT’S A WONDERFUL LIFE ก็เป็นหนังที่วิเศษมาก ๆ
สำหรับเรา แต่เหมือนตัวละครพระเอกในหนังอาจจะเคยทำดีกับคนอื่น ๆ ไว้มากพอสมควรน่ะ เราก็เลยจะเอ๊ะ
ๆ นิดนึงว่า เราจะสามารถอินกับพระเอกของหนังเรื่องนี้ได้มากนักหรือไม่นะ
เราก็เลยรู้สึกว่า FALLEN LEAVES เป็นหนังที่ชุบชูชีวิตจิตใจเราได้อย่างดีงามมาก
ๆ เพราะเหมือนหนังมันก็ไม่ได้เชิดชูสถาบันครอบครัว ตัวละครนางเอกก็ไม่ได้ดูเคยเป็นคนที่ยิ่งใหญ่หรือสำคัญหรือเคยช่วยเหลือคนอื่น
ๆ ไว้มากมายแบบพระเอกของ IT’S A WONDERFUL LIFE เหมือนนางเอกแค่ต้องการ
“งานทำ” เพื่อที่จะได้มีเงินพอเลี้ยงชีพ และต้องการผัวสักคน ก็พอแล้ว
เธอไม่ได้ต้องการชื่อเสียง, ไม่ได้ต้องการเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก,
ไม่ได้ต้องการสร้าง legacy อะไรทิ้งไว้ให้โลกจดจำรำลึกแต่อย่างใดทั้งสิ้น
มุมมองของนางเอกที่มีต่อ “ความสุขของชีวิต” ก็เลยเข้ากับเราอย่างสุด ๆ
เราก็เลยรักหนังเรื่อง FALLEN LEAVES อย่างสุด ๆ
แต่ แต่ แต่ นางเอกของ FALLEN LEAVES ก็เหมือนยังต้องการ “ความรัก”, “คนรัก”
หรือ “ผัว” อยู่ดี
เราก็เลยรู้สึกว่า DYING AT A HOSPITAL ของ Jun Ichikawa นี่แหละคือหนังที่ถือว่า “สุดขีด” ที่สุดจริง ๆ ในขั้นนี้
เพราะดูหนังเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกได้เลยว่า กูไม่มีผัว ไม่มีคนรัก ไม่มีชื่อเสียง
ไม่ได้ร่ำรวยมากนัก ไม่มีคนจดจำกู ไม่มีคนคิดถึงกู กูก็มีความสุขได้แล้ว เพราะตอนนี้ กูแค่ยังมี “ลมหายใจ”
ก็พอแล้ว
No comments:
Post a Comment