LEFT OVER (LATE GAME) (2020, Patrasai Kittisupakorn,
Chidchanok Sittitaworn, 30min, A+30)
1.เราว่าเนื้อหาของหนังมันซับซ้อนเกินกว่าจะเป็นหนังสั้น
30 นาทีนะ นึกว่าขยายออกมาเป็น 90 นาทีได้สบายเลย 55555
2.พอมันเล่าอย่างรวบรัดภายใน 30 นาทีแบบนี้
เราเลยงงมาก ๆ ในช่วงแรก ไม่รู้ใครเป็นใคร มีความสัมพันธ์กันยังไง แล้วพอหนังมันไม่ได้ใช้
“ดาราดัง” มาแสดง แต่ใช้เด็ก ๆ มัธยมที่เราไม่คุ้นหน้ามาแสดง เราก็เลยยิ่งงงกับตัวละครหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก
แยกตัวละครไม่ออก 55555
3.แต่ก็ชอบ “ความทะเยอทะยาน” ของมันนะ คือพอเราคิดว่ามันเป็นหนังที่เด็กมัธยมทำ
(ถ้าหากเราเข้าใจไม่ผิด) เราก็ไม่ได้ติดใจกับความบกพร่องของหนังมากนักน่ะ
ชอบที่หนังมันพยายามเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนมาก ๆ แบบนี้ เพราะตัวละครในหนังเหมือนมีปัญหาขัดแย้งทรยศหักหลังกันตั้งแต่รุ่นพ่อ
แล้วรุ่นลูกก็มาขัดแย้งกันอีก ทั้งเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ และเรื่องไม่ไว้วางใจกันเอง
4.คือนอกจากเนื้อหาในหนังจะซับซ้อนสุดขีดแล้ว
หนังยังเพิ่มความยากขึ้นไปอีกด้วยการเล่าเรื่องทั้งหมดใน setting เดียว
5.และก็เพิ่มความยากขึ้นไปอีกหนึ่งสเต็ปด้วยการถ่ายลองเทคในหลาย
ๆ ฉาก โดยที่ในลองเทคแต่ละครั้งก็ไม่ได้เล่าเรื่องเป็นเส้นตรงด้วย
คือในบางลองเทคจะมีฉากที่แสดงให้เห็นทั้ง “สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงในขณะนั้น”
และ “สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของตัวละคร” สลับกันไปมาด้วย โดยที่เป็นลองเทค
ไม่มีการตัดภาพ แต่ใช้การตวัดกล้องไปให้เห็น “สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของตัวละคร”
แล้วค่อยตวัดกล้องกลับมายังตัวละครในโลกแห่งความเป็นจริง
6. ก็เลยรู้สึกว่าจริง ๆ
แล้วมันเป็นหนังที่พัฒนาให้ดีกว่านี้ได้อีกมาก ถ้าหากอยากทำให้มันสมบูรณ์
แต่ที่มันเป็นอยู่นี้ เราก็รู้สึกชอบมันมาก ๆ แล้ว เรารู้สึกเหมือนมันเป็น “แบบฝึกหัด”
พัฒนาความสามารถของเด็ก ๆ ที่เริ่มต้นทำหนัง อะไรทำนองนี้ ที่ผลออกมาน่าสนใจมาก ๆ
Films seen in the 16th week of the year 2024
15-21 April 2024
In roughly preferential order
1.SHAIHU UMAR (1976, Adamu Halilu, Nigeria, A+30)
2.CAMILLA (1984, María Luisa Bemberg, Argentina, A+30)
3.YOLO (2024, Ling Jia, China, พากย์ไทย, A+30)
4.ON THE WANDERING PATHS (2023, Denis Imbert, France, A+30)
5.SOMETHING IN THE WATER (2024, Hayley Easton Street, queer
film, lesbian, A+25)
6.ABIGAIL (2024, Matt Bettinelli-Olpin, Tyler Gillett, A+)
เป็นหนังที่ “ในทางทฤษฎี” แล้ว ควรจะเข้าทางเรามาก
ๆ แต่ทำไมเราดูหนังเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกเฉยมาก เราก็ไม่รู้เหมือนกัน งงตัวเอง
ในขณะที่เรากลับชอบ RENFIELD (2023, Chris McKay) มาก ๆ (เอาสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันเพราะมันเป็นหนังผีดูดเลือดเหมือนกัน)
7.REVERSIBLE REALITY (2022, Dmitriy Konstantinov, Russia,
A+)
สรุปว่าใน 16
สัปดาห์แรกของปี 2024 เราดูหนังไปแล้ว 278+7
= 285 เรื่อง
Films seen in the 17th week of the year 2024
22-28 April 2024
In roughly preferential order
1.THE BIRTH OF KITARO: MYSTERY OF GEGEGE (2023, Go Koga, Japan,
animation, A+30)
2.MADE IN HOLLYWOOD (1990, Bruce Yonemoto + Norman Yonemoto,
56min, A+30)
ประทับใจกับตอนจบของหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีดที่สุด
3.THE LEOPARD (1963, Luchino Visconti, Italy, 186min, A+30)
จริง ๆ แล้ว 3
อันดับแรกของสัปดาห์นี้นี่ตัดสินไม่ได้ว่าชอบเรื่องไหนมากกว่ากัน แต่ที่แน่ ๆ
คือติดอันดับประจำปีทั้ง 3 เรื่องนี้แน่นอน คือกราบตีนหนังทั้งสามเรื่องนี้อย่างสุดขีดมาก
ๆ คือถ้าหากพูดถึงในแง่คุณค่าเชิงภาพยนตร์แล้ว THE LEOPARD ก็ต้องชนะอีกสองเรื่องที่เหลืออย่างแน่นอน
แต่ปรากฏว่า “หีบสมบัติลึกลับ” ที่ grandmother ของนางเอก ใน
MADE IN HOLLYWOOD มอบให้กับนางเอกในหนังเรื่องนั้น
กลับเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถลืมมันได้เลย เราก็เลยรู้สึกว่า MADE IN
HOLLYWOOD มัน “สัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของเรา” หรือมัน “โดนชีวิตเราเป็นการส่วนตัว”
มากกว่าหนังอีกสองเรื่องที่เหลือ และเป็นหนังที่ “ส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรามาก ๆ”
ส่วน THE BIRTH OF KITARO: MYSTERY OF
GEGEGE นั้น เราคงไม่ต้องสาธยายอีกต่อไปแล้วว่า
เราชอบมันอย่างสุดขีดแค่ไหน 55555
4.EL VERDUGO (THE EXECUTIONER) (1963,
Luis García Berlanga, Spain, A+30)
5.CAPD (2023, Nordiana Beehing, video
installation, 35min, A+30)
6.LOVE YOU TO DEBT เธอ
ฟอร์ แคช สินเชื่อ...รักแลกเงิน (2024, Waasuthep Ketpetch, A+30)
7.GRAND EXPECTATIONS (2022, Sylvain
Desclous, France, A+30)
8.LEFT OVER (LATE GAME) (2020, Patrasai
Kittisupakorn, Chidchanok Sittitaworn, 30min, A+30)
9.THE FALL GUY (2024, David Leitch, A+30)
ปกติเราชอบหนังแนว extreme minimalist นะ แต่ปรากฏว่าเราจูนติดอย่างรุนแรงกับหนัง maximalist อย่าง THE FALL GUY และ BULLET TRAIN (2022,
David Leitch) มากๆ 555 ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
10.PACHADA ปะฉะดะ (2024, Teeradech
Sapanyoo ธีรเดช สพันอยู่, A-)
เราว่ามันผสม “ความโหด” กับ “ความตลก”
เข้าด้วยกันแล้วมันไม่ลงตัวอย่างรุนแรงน่ะ ในขณะที่เราว่าหนังที่ผสมสองอย่างนี้เข้าด้วยกันแล้วออกมาดีงามที่สุดสำหรับเราในช่วงนี้
ก็คือหนังชุด BABY ASSASSINS (2021, Yugo Sakamoto, Japan)
สรุปว่าใน 17
สัปดาห์แรกของปี 2024 เราดูหนังไปแล้ว 285+10
= 295 เรื่อง