Monday, January 08, 2024

ANATOMY OF A FALL

 

Film Wish List: MAMI WATA (2023, C.J. Fiery Obasi, Nigeria, 107min)

 

หนัง minimalist จาก Nigeria เกี่ยวกับชนเผ่าที่ปฏิเสธเทคโนโลยีสมัยใหม่ และอยู่ภายใต้การปกครองของ “เจ้าแม่” องค์หนึ่ง น่าดูที่สุด Peter Bradshaw กรี๊ดกร๊าดกับหนังเรื่องนี้อย่างรุนแรงมาก

https://www.theguardian.com/film/2023/nov/15/mami-wata-review-arresting-nigerian-parable-of-power

 

Films seen in the first week of 2024

1-7 JAN 2024

 

In roughly preferential order

 

1.KACHUA MEE PEEK กะจั๊วมีปีก (2022, Wairun Akarawinake, 60min, A+30)

 

หนักที่สุดในชีวิตการแสดง

https://web.facebook.com/photo/?fbid=10232898085457762&set=a.10232633255917189

 

2.FUSES (1964-1967, Carolee Schneemann, 30min, A+30)

 

3.ลูกใครหว่า (2022, Saichon Prasonchoom, documentary, 40min, A+30)

 

ยกให้เป็น “หนังไทยระดับคลาสสิค” ไปเลย INSTANT CLASSIC จริง ๆ หนังบันทึกภาพเด็กชายคนหนึ่ง เราไม่แน่ใจว่าอายุกี่ขวบ น่าจะอายุ 3-5 ขวบ ขณะที่เด็กคนนี้พูดไปเรื่อย ๆ ต่อหน้ากล้อง

 

ซึ่งเรารู้สึกเหมือนกับว่า หนังไม่ได้ตัดภาพเลยนะ เหมือนมันเป็น long take ความยาว 40 min แต่เราไม่แน่ใจ ไม่ได้สังเกตว่าหนังมันตัดภาพตรงไหนบ้างหรือเปล่า

 

เรื่องราวของพ่อแม่เด็กคนนี้ก็รุนแรงมาก ๆ

 

เหมือนหนังเรื่องนี้มี doppelganger ด้วย 5555 เพราะในเทศกาลหนังมาราธอนปี 2022 ก็มีหนังเรื่อง “ความสุขวัยเด็ก” MY CHILDHOOD HAPPINESS (2021, Sirasith Sriwongphanawes, 7min, A+30) ที่บันทึกกิจกรรมของเด็กชายตัวน้อย ๆ คนหนึ่งเหมือนกัน แต่พอ MY CHILDHOOD HAPPINESS มันมีความยาวแค่ 7 นาที มันก็เลยไม่ถึงขั้น INSTANT CLASSIC แบบ “ลูกใครหว่า”

 

4.KHON BOYS เด็กโขน (2022, Phassarawin Kulsomboon, documentary, A+30)

 

ดูแล้วทึ่งกับความสามารถของเด็กโขนมาก ๆ มันยากมาก ๆ เลยนะเนี่ยกว่าจะฝึกมาได้จนถึงขั้นนี้

 

ชอบเรื่องราวประวัติชีวิตของเด็กแต่ละคนมาก ๆ เลยด้วย เหมือนเด็กหลาย ๆ คนมีชีวิตที่หนักมาก ๆ

 

แต่เรารู้สึกเหมือน part การเมืองมันยัง “คนไม่เข้ากัน” กับ part อื่น ๆ ของหนังยังไงไม่รู้ โดยส่วนตัวแล้วเราก็เลยรู้สึกว่าเราอยากให้หนังเจาะไปที่ประวัติชีวิตในอดีตของเด็กแต่ละคนมากกว่านี้

 

5.ใต้ฝุ่น (2023, Piriyayut Tangchitmate, 40min, A+30)

 

ซึ้งมาก ๆ

 

6.WAY OF US เราและรอย (2023, Chinnaphat Sukchanya, 55min, A+30)

 

ชอบสุดขีดที่ทั้งแม่และลูกสาวนี่ “ขิงก็รา ข่าก็แรง” กันทั้งคู่ นึกว่าการเชือดเฉือนกันระหว่างแม่กับลูกสาวในหนังเรื่องนี้ ต้องปะทะกับการเชือดเฉือนกันระหว่าง “แม่ผัวกับลูกสะใภ้” Anjelica Huston กับ Annette Bening ใน THE GRIFTERS (1990, Stephen Frears) 55555

 

ชอบมาก ๆ ด้วยที่นักแสดงที่เล่นเป็นตัวละครแม่ (เราจำชื่อไม่ได้ ใครจำชื่อได้บ้าง) ได้รับบทดี ๆ อย่างในหนังเรื่องนี้ เพราะเราชอบเธออย่างสุดขีดตั้งแต่เห็นเธอรับบทเป็น “บรรณาธิการใหญ่ หรือผู้บริหารหนังสือพิมพ์” ใน BANGKOK TRADITION สันดานกรุง (2021, Thamuya Thasananukulkij, 65min, A+30) น่ะ และหลังจากนั้นก็เห็นเธอแสดงในหนังสั้นอีกราว 30 เรื่องได้มั้ง (อย่างเช่นใน กระเพาะพิเรนทร์) แต่ส่วนใหญ่เธอได้รับบทเป็น “แม่พระเอก” น่ะ บทมันก็เลยซ้ำ ๆ และไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เธอได้ใช้ potential ของตัวเองอย่างเต็มที่ เราก็เลยดีใจที่เธอได้เป็นนางเอกเต็มตัวใน WAY OF US

 

7.GHOST SHOWTIME ผีอวดคน (2022, Napak Sanonoi, 6min, A+30)

 

8.RENAISSANCE: A FILM BY BEYONCÉ (2023, Beyoncé, Ed Burke, documentary, 169min, A+30)

 

รู้สึกว่าจริงๆ  แล้วคนดูแต่ละคนในงานคอนเสิร์ตของ Beyoncé นี่แรงกว่าตัว Beyoncé มาก ๆ นึกว่าจริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้คือ “ภาคสอง” ของ PARIS IS BURNING (1990, Jenny Livingston, documentary, A+30)

 

เรื่องราวของ Uncle Johnny ซึ้งมาก ๆ เขามีสถานะเหมือนเป็นลุงของบียองเซ่ เขาเป็นเกย์ผิวดำที่ใช้ชีวิตช่วงวัยรุ่น (ถ้าหากเราเข้าใจไม่ผิด) ในทศวรรษ 1950 ในภาคใต้ของสหรัฐ เขาก็เลยมีชีวิตที่ยากลำบากมาก เพราะภาคใต้ของสหรัฐในทศวรรษ 1950 นี่ไม่เป็นมิตรกับคนผิวดำมาก ๆ และยิ่งเป็นเกย์ผิวดำในทศวรรษ 1950 นี่ก็ยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีก แต่เขาสนิทกับครอบครัวของบียองเซ่มาก ๆ และถ้าหากเราเข้าใจไม่ผิด เขาเหมือนเป็นคนปลูกฝังความรักในดนตรี house music ให้กับ Beyonce และช่วยออกแบบตัดเย็บชุดต่าง ๆ ให้ Beyonce ในช่วงที่บียองเซ่ยังไม่โด่งดังในช่วงต้นทศวรรษ 1990 หรือช่วงที่ยังไม่มีห้องเสื้อรายไหนต้องการจะออกแบบชุดให้กับวงดนตรีหญิงผิวดำของเธอ

 

9. SAILEN ไศเลนทร์ (2023, Nattapan Amnatsatsue, short animation, A+30)

 

Nattapan กำกับหนังเรื่อง THE DEAD CARD (2022) ด้วย เหมือนจุดเด่นของเขาในหนังสองเรื่องนี้คือการสร้างตัวละครสัตว์ตัวน้อยที่ดูน่ารัก ๆ

 

10.ON THE STREET บนถนน เมื่อวันวาน (2022, Laliphat Chaipornchalerm, Pornsawan Ingamornrat, Satachalai Titapaisarnpon, animation, A+30)

 

11.FADED DREAM (2022, Panitnan Chockchowwat พนิตนันท์ โชคเชาว์วรรธน์, short animation, A+30)

 

12.GHOST BOOK (2022, Takashi Yamazaki, Japan, 113min, A+25)

 

13.กลุ่มอิสระล้อการเมือง: ต้อนรับเพื่อนใหม่ (2023, Warat Bureephakdee, 2min, A+25)

 

ชอบมากที่คุณ Warat บันทึกเหตุการณ์สำคัญหรือเหตุการณ์น่าสนใจทางการเมืองหรือสังคมไว้มากมายในรูปแบบสื่อภาพยนตร์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เข้ามาก้าวก่ายในงานเชียร์กีฬาในหนังเรื่องนี้ เหมือนเหตุการณ์พวกนี้มันเป็น “ข่าว” ที่คนได้รับรู้ แล้วก็อาจจะลืมมันไปภายในเวลา 1-2 เดือน แต่พอมันได้รับการบันทึกเป็นภาพยนตร์เอาไว้ ไม่ใช่แค่เป็น “ข่าว” มันก็เลยเหมือนจะช่วยเตือนความจำของผู้คนได้ในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น

 

แต่เหตุการณ์พวกนี้พอแยกเป็นหนังสั้น ๆ ที่เราได้ดูหลังจากเหตุการณ์ผ่านมาเพียงแค่ 1-2 ปี เราก็เลยอาจจะยังไม่ได้รู้สึกรุนแรงกับมันมากนักนะ แต่เราว่าการบันทึกเหตุการณ์พวกนี้เก็บไว้มันจะมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปนั่นแหละ คือพอดูหนังหลาย ๆ เรื่องของคุณ Warat แล้วรู้สึกว่า ถ้าหากเวลามันผ่านไปอีก 5-10 ปี หนังหลาย ๆ เรื่องเหล่านี้มันอาจจะเหมาะกับการนำมาเรียงร้อยใหม่เป็นหนังยาวเพื่อเป็นบันทึกทางการเมืองของยุคสมัยที่ผ่านมามาก ๆ แบบเดียวกับหนังอย่าง A GRIN WITHOUT A CAT (1977, Chris Marker, France) หรือถ้าหากเป็นการเรียงร้อยใหม่โดยใส่ความเห็นเชิงวิเคราะห์ทางการเมืองเข้าไปด้วย เราก็อาจจะได้หนังในแนวทางเดียวกับ IMAGES OF THE WORLD AND THE INSCRIPTION OF WAR (1989, Harun Farocki, West Germany) ก็ได้

 

14.LADYBUG & CAT NOIR: AWAKENING (2023, Jeremy Zag, France, animation, A+20)

 

15.E-SARN ZOMBIE อีสานซอมบี้ (2023, Tanawat Aiemjinda, A+15)

 

16.MIGRATION (2023, Benjamin Renner, Guylo Homsy, animation, A+)

 

ทำไม Benjamin Renner มาทำหนัง Hollywood แล้วฝีมือ drop ลง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติอันน่าเศร้าที่ผู้กำกับฝีมือดีจากต่างประเทศ พอมาทำหนังฮอลลีวู้ดแล้วก็จะเจอกับอะไรแบบนี้

 

ก่อนหน้านี้เราเคยดู ERNEST & CELESTINE (2012, Stéphane Aubier + Vincent Patar + Benjamin Renner, France, animation, A+10) และ THE BIG BAD FOX AND OTHER TALES (2017, Benjamin Renner, Patrick Imbert, France, animation, A+30) ซึ่งออกมาน่าพอใจกว่า MIGRATION เป็นอย่างมาก

 

อย่างไรก็ดี รู้สึกว่า MIGRATION นี่เหมาะฉายควบกับ DUCK ACADEMY (2020, Suriyon Jongleepun, documentary, A+25) มาก ๆ

 

17.ANYONE BUT YOU (2023, Will Gluck, A+)

 

เห็นด้วยกับหลาย ๆ คนที่บอกว่า Alexandra Shipp นี่ทำให้นึกถึงจันทร์จิรา จูแจ้งจริง ๆ

 

18.NEDNARY อวสานเนตรนารี (2023, Yuthlert Sippapak, A+)

 

19.MOONED (2023, Jonathan del Val, short animation, A+)

 

20.THE DEAD CARD (2022, Nattapan Amnatsatsue, short animation, A+)

 

21.WIND LANGUAGE ปราณ (2023, Wairun Akarawinake, 2min, A-)

https://www.youtube.com/watch?v=qjtcF_LOjjg&t=25s

 

 

ANATOMY OF A FALL (2023, Justine Triet, France, A+30)

 

Spoilers alert

--

--

--

--

--

--

--

--

--

--

1.ไม่ขอเขียนถึงความดีงามต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้ เพราะคนอื่น ๆ เขียนไปจนพรุนแล้ว 555 แต่อยากจดบันทึกสิ่งที่เต้ ไกรวุฒิเขียนไว้มาก ๆ ที่มีคนจินตนาการว่า ฆาตกรตัวจริงคือคือนักศึกษาปริญญาโทที่มาสัมภาษณ์ เธอย้อนกลับมาตอนนางเอกนอนหลับแล้วฆ่าผัวนางเอก เพราะผัวนางเอกทำให้เธอทำงานไม่เสร็จ

 

เราชอบทฤษฎีนี้มาก ๆ นึกว่า Agatha Christie มาเอง 55555

 

2.ชอบที่เพื่อน ๆ บางคนเขียนมาก ๆ ด้วย ที่บอกว่า จริง ๆ แล้วนางเอกเป็นฆาตกร และลูกชายก็มาตระหนักรู้ในช่วงหลัง ๆ ว่านางเอกเป็นฆาตกร แต่ลูกชายตัดสินใจแต่งเรื่องแต่งราวโกหกในศาล เพื่อช่วยเหลือแม่ เพราะถ้าหากพ่อตาย แล้วแม่ติดคุก ตัวกูก็ลำบากน่ะสิ

 

3.ส่วนเรานั้น ในขณะที่ดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่เรายังไม่รู้ตอนจบของหนังเรื่องนี้นั้น เราเดาว่า “ผัวนางเอกต้องการจะฆ่าตัวตาย และต้องการจะทำร้ายนางเอกด้วย เพราะเขาเกลียดนางเอกมาก เขาก็เลยวางแผนหาเรื่องหาราวทะเลาะกับนางเอกไว้ แล้วแอบอัดเสียงไว้ เพื่อใช้เป็นหลักฐานปรักปรำนางเอกในภายหลัง แล้วเขาก็ฆ่าตัวตาย แต่เขาจงใจฆ่าตัวตายในแบบที่ดูมีลับลมคมนัย ไม่มีการทิ้งจดหมายลาตายเอาไว้ เพื่อให้สังคมและกฎหมายสงสัยว่านางเอกเป็นฆาตกร นางเอกจะได้ถูกศาลตัดสินว่าเป็นฆาตกร แล้วติดคุกตลอดชีวิตหรืออะไรทำนองนี้” 55555

 

ซึ่งพล็อตแบบนี้เราไม่ได้คิดขึ้นมาเองนะ เพราะมันมีนิยายเรื่องนึงของ Sidney Sheldon น่ะ (เราไม่บอกว่าเรื่องไหนแล้วกัน) ที่นางเอกเกลียดผู้ชายคนนึงมาก เธอเลยฆ่าตัวตายแต่ทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ดูเหมือนว่า เธอถูกผู้ชายคนนั้นฆ่าตาย แล้วพอเธอตายไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นจะได้ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตหรืออะไรทำนองนี้ในฐานะฆาตกรที่ฆ่าเธอด้วย คือเธอฆ่าตัวตายเพื่อที่เธอจะได้ฆ่าศัตรูให้ตายในทางอ้อมโดยยืมมือของกฎหมาย

 

4.แต่ไม่ว่านางเอกของ ANATOMY OF A FALL จะเป็นฆาตกรหรือไม่ เราก็เห็นว่าศาลตัดสินถูกต้องแล้วนะ เพราะเรามีหลักการว่า ถ้าหากมันไม่มีหลักฐานมัดตัวจริง ๆ หรือถ้าหากมันมีความเป็นไปได้แม้เพียงเล็กน้อยว่าคนคนนั้นอาจเป็นคนบริสุทธิ์ เราก็ไม่ควรตัดสินให้ใครเป็นฆาตกรน่ะ เพราะเรารู้สึกว่า “การปล่อยให้ฆาตกรลอยนวล ไม่น่ากลัวเท่ากับการจับคนบริสุทธิ์มาประหารชีวิต”

 

 

No comments: