Wednesday, May 02, 2018

PLEASE GIVE ME SOME LOVE (1992, Apichart Popairoj, A+30)


PLEASE GIVE ME SOME LOVE (1992, Apichart Popairoj, A+30)
ขอความรักบ้างได้ไหม (อภิชาติ โพธิไพโรจน์)

1.ชอบความ “ฤดูใบไม้ร่วง” ของหนังเรื่องนี้มากๆ เหมือนเป็นหนังไทยเรื่องเดียวที่เรานึกออกในตอนนี้ที่เน้นบรรยากาศของความเป็นฤดูใบไม้ร่วงในไทย

คือฤดูใบไม้ร่วงในไทยมันเหมือนไม่มีอยู่จริง แต่เราจำได้ว่าตอนเด็กๆมันเหมือนจะมีช่วงเวลาสัก 1-2 สัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายนที่เราจะเห็นใบไม้ร่วงหนักมาก ก่อนจะเข้าสู่ฤดูหนาว แต่เราไม่รู้ว่าพอเราโตขึ้นมา หรือตั้งแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา มันยังมีช่วงเวลาแบบนี้ในกรุงเทพอยู่หรือเปล่า คือมันอาจจะยังมีอยู่ก็ได้ แต่เราไม่ทันสังเกตเอง

อย่างไรก็ดี ไม่ว่า “ช่วงเวลาใบไม้ร่วง” ในไทยจะยังมีอยู่หรือไม่ เราก็รู้สึกว่าการที่หนังเรื่องนี้เน้นอะไรแบบนี้อย่างรุนแรง มันก็เลยทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ

2.ชอบความ “ไม่เป็นโล้เป็นพาย” ของหนุ่มสาวในหนังเรื่องนี้มากๆ ทำให้นึกถึงหนังอย่าง REGULAR LOVERS (1992, Philippe Garrel) คือหนุ่มสาวในหนังเรื่องนี้เหมือนจะมีพลังอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดก็ไปไม่ถึงไหน

3.เราว่าหนังค่อนข้างประณีตเรื่อง mise en scene, การถ่ายภาพ, การจัดแสง แต่เสียดายที่คงหาฟิล์มต้นฉบับไม่ได้แล้ว เราก็เลยได้แต่ “จินตนาการ” เอาเองว่าภาพที่สมบูรณ์ของหนังเรื่องนี้มันจะเป็นอย่างไร

4.ความไม่สมบูรณ์ของหนังที่มีอยู่ในตอนนี้ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็น “หนังทดลอง” โดยไม่ได้ตั้งใจ 555 คือ mise en scene ของหนังเรื่องนี้จงใจเน้น “ธรรมชาติ” เพราะฉะนั้นในหลายๆช็อต หลายๆซีน ตัวละครมักจะปรากฏตัวอยู่ทางมุมขวาล่างของจอ ในขณะที่พื้นที่ 90% ของจอจะเป็นภาพธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาล แต่พอหนังเรื่องนี้ไม่มี original film ที่สมบูรณ์ แต่เหมือนเป็นภาพที่แค็ปมาจากวิดีโอหรือวีซีดีที่เกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพราะฉะนั้นในหลายๆซีนตัวละครจะตกขอบจอไป 555 เราจะเห็นแต่ภาพธรรมชาติทั้งจอ และเห็นอวัยวะบางส่วนของตัวละครแทรกเข้ามาที่มุมขวาล่างของจอ และได้ยินเสียงตัวละครคุยกัน เพราะฉะนั้นในหลายๆช็อต คนดูต้องจินตนาการเอาเองถึงสิ่งที่อยู่ offscreen นั่นก็คือ “ภาพตัวละคร” เพราะตัวละครตกขอบจอไปเกือบหมดแล้ว 555

5.สรุปว่าชอบอภิชาติ โพธิไพโรจน์มากพอสมควร เพราะเคยดู “ถามหาความรัก” (1984) และ “เพื่อน” (1986) ที่เขากำกับ และรู้สึกว่าเขาเป็นผู้กำกับที่ทำหนังโอเคคนนึง

No comments: