Sunday, December 25, 2005

PISCINE (BRUANT+SPANGARO, A+++++)

ยังไม่ได้ทำอันดับอัลบัมเลย แต่ซาวด์แทรคและเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ชอบมากๆในปีนี้รวมถึงเพลงในภาพยนตร์เรื่อง

1.เพลงที่สามสาวโอเปร่าร้องในงานเลี้ยง “หนังสือพิมพ์” ใน DORIAN GRAY IN THE MIRROR OF THE YELLOW PRESS (1984, ULRIKE OTTINGER, A+)

2.เพลงที่นักบุญ (ELSE NABU) ร้องขณะถูกตรึงกางเขนใน FREAK ORLANDO (1981, ULRIKE OTTINGER, A+)

3.PAMELA, POUR TOUJOURS (2003, ALAIN BOURGES, A++++)

4.MYSTERIOUS SKIN (2004, GREGG ARAKI, A+) ดนตรีประกอบโดย ROBIN GUTHRIE + HAROLD BUDD อยากซื้อซีดีซาวด์แทรคอัลบัมนี้จัง http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B0009HLC0G/104-6885715-9971968?v=glance http://images.amazon.com/images/P/B0009HLC0G.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

5.IT’S ALL GONE PETE TONG (2004, MICHAEL DOWSE, A+) ซาวด์แทรคหนังเรื่องนี้มีเพลงของ 808 STATE, DEPECHE MODE, GOLDFRAPP, DEEP DISH, FERRY CORSTEN และ ORBITAL http://www.amazon.com/exec/obidos/tg/detail/-/B00097HDOU/qid=1135471854/sr=2-1/ref=pd_bbs_b_2_1/104-6885715-9971968?v=glance&s=music http://images.amazon.com/images/P/B00097HDOU.01._SCLZZZZZZZ_.jpg

6.TOUCH THE SOUND (2004, กำกับโดย THOMAS RIEDELSHEIMER, A+) หนังสารคดีเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับนักดนตรีหญิงหูหนวก EVELYN GLENNIE http://images-eu.amazon.com/images/P/B000BKF5KY.03.LZZZZZZZ.jpg

7.LIKE ASURA ชอบเพลง COMME A LA RADIO ของ BRIGITTE FONTAINE

8.NEAREST TO HEAVEN ชอบเพลง TU ME DELIRIO ของ ETIENNE DAHO

9.NANA

10. CUBAN MUSIC (GERMAN KRAL, A)
http://images-eu.amazon.com/images/P/B0007TWEGM.03.LZZZZZZZ.jpg

หนังที่ได้ดูเมื่อวานนี้

1.PISCINE (2002, JEAN-BAPTISTE BRUANT + MARIA SPANGARO, A+++++++++++++++)
http://www.criee.org/jbbruant.php
http://www.criee.org/productions/jbbruant_02_gd.jpg

หนังความยาว 60 นาทีเรื่องนี้บันทึกภาพน้ำที่กระเพื่อมไหวในสระว่ายน้ำ และคนกลุ่มนึงที่เดินวนไปวนมาในสระว่ายน้ำพร้อมกับพึมพัมคำพูดอะไรบางอย่าง

ไม่รู้เหมือนกันว่าหนังเรื่องนี้สื่อถึงอะไร แต่ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้รู้สึกจิตใจสงบมากที่สุดในโลก และทำให้นึกถึงคำว่า “สังสารวัฏ” และการเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จักจบจักสิ้น

รู้สึกว่า “สีฟ้า” ของน้ำที่กระเพื่อมไหวในช่วงต้นของหนังเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในสีฟ้าที่สวยที่สุดในโลก

ดูแล้วรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ “ขลัง” มากๆ การเดินวนไปวนมาโดยไม่มีคำอธิบายของตัวละครทำให้นึกถึงพิธีกรรมลึกลับ ในขณะที่อีกคนนึงที่ดูหนังเรื่องนี้รู้สึกว่าตัวละครในหนังกำลังทำกายภาพบำบัด

นี่คือหนึ่งในหนังที่ชอบที่สุดในชีวิต และทำให้นึกถึงหนังเรื่อง

A.WINDOWS (1999, APICHATPONG WEERASETHAKUL, A+++++)
http://www.kickthemachine.com/works/windows.html

B.TOTEM (2001, MAIDER FORTUNE, A+++++)

C.THE WATER CIRCLE (1975, JAMES BROUGHTON, A+/A)
http://www.canyoncinema.com/B/Broughton.html

ทั้ง WINDOWS และ PISCINE ต่างก็มีทั้งความเคลื่อนไหว, ความนิ่ง และพลังของความสงบอย่างลึกล้ำเหมือนๆกัน ภาพในหนังทั้งสองเรื่องนี้มี “ความเคลื่อนไหว” อยู่ตลอดเวลา โดยใน WINDOWS เราจะเห็นการกระเพื่อมไหวของแสงที่ส่องผ่านบานหน้าต่าง ส่วนใน PISCINE เราจะเห็นการกระเพื่อมไหวของผิวน้ำในสระว่ายน้ำ สิ่งเหล่านี้มันธรรมดามากๆ แต่ดูแล้วเพลินมาก

หลังจากดูหนังเรื่อง PISCINE จบ ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสวรรค์ ถ้าหากดิฉันตายแล้วได้ไปสวรรค์ ก็หวังว่าสวรรค์จะมีสวน มีสนามหญ้า, มีจอโทรทัศน์หลายๆจอตั้งอยู่กลางสนามหญ้า และจอหนึ่งในนั้นฉายหนังเรื่อง PISCINE เหมือนอย่างประสบการณ์ที่ได้รับเมื่อวานนี้

PISCINE อาจจะนำเสนอตัวละครที่ทำอาการคล้ายๆกายภาพบำบัด แต่เมื่อดิฉันดูหนังเรื่องนี้ ดิฉันรู้สึกเหมือนกับได้รับการบำบัดเยียวยาทางจิตใจ

ต้องขอขอบคุณทางผู้จัดเทศกาลนี้มากๆ ที่ทำให้ดิฉันได้รับความรู้สึกที่ว่า HEAVEN IS A PLACE ON EARTH (ตามเพลงของ BELINDA CARLISLE) เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้จัดเทศกาลนี้ได้เนรมิตให้สวนลุมพินีกลายเป็นสวนสวรรค์สำหรับดิฉันไปแล้ว


2.1/3 OF THE EYES (2004, OLIVIER ZABAT, A+++++)
http://www.capricci.fr/untiersdesyeux/img/affiche.jpg

มีบทวิจารณ์หนังเรื่องนี้อยู่ในนิตยสาร CAHIERS DU CINEMA เล่มเดือนพ.ย.ปีนี้
http://www.cahiersducinema.com/article524.html

หนังสารคดีเรื่องนี้พิศวงมาก โครงสร้างของหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงภาพยนตร์หลายๆเรื่องของ ALEXANDER KLUGE เพราะหนังเรื่องนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่องหลายๆส่วนที่เหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ดูแล้ว “รู้สึก” ว่ามันเกี่ยวข้องกัน โดยเนื้อหาใน 1/3 OF THE EYES รวมถึงการนำเสนอชีวิตของล่าม, นักมวย, ชีวิตของนักทำลายกับระเบิดในคาบสมุทรบอลข่าน, ความรู้สึกโกรธของเขาที่มีต่อทหารลูกน้อง, ความหวังของบางคนที่มอบให้กับเขา, เพื่อนของเขาที่เป็นคนใบ้, เรื่องราวของดวงตาที่ได้รับบาดเจ็บ, เจ้าหน้าที่ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า, การสัมภาษณ์แพทย์ และการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับนักสัตววิทยาผู้ค้นพบสัตว์พันธุ์ใหม่
http://www.cinemovies.fr/images/data/photos/G10318121347253.jpg
http://www.cinemovies.fr/images/data/photos/G10318524416487.jpg

หนังสารคดีเรื่องนี้เป็นของฝรั่งเศส แต่ดูแล้วนึกถึงหนังเยอรมันอย่างมากๆ เพราะนอกจากหนังเรื่องนี้จะทำให้นึกถึงสุดยอดหนังของ ALEXANDER KLUGE แล้ว ยังทำให้นึกถึงหนังเยอรมันสุดเฮี้ยนเรื่อง REALTIME (1983, HELLMUTH COSTARD + JUERGEN EBERT, A++++++++++) ด้วย


3.NO PLACE NOWHERE (2004, JOSE LUIS TORRES LEIVA, CHILE, A+)
http://www.jigsawlounge.co.uk/film/content/view/279/1/
http://www.jigsawlounge.co.uk/film/images/stories/ningun1.jpg

หนังเรื่องนี้บันทึกภาพชีวิตและบรรยากาศของเมือง VALPARAISO ในประเทศชิลี ดูหนังเรื่องนี้แล้วเลยทำให้อยากดูหนังเรื่อง VALPARAISO (1962, JORIS IVENS, เขียนบทโดย CHRIS MARKER) อย่างมากๆ
http://www.imdb.com/title/tt0055715/plotsummary
ภาพเมือง VALPARAISO
http://www.raphaelk.co.uk/web%20pics/Chile/first/valparaiso%20buildings.JPG



4.UNSEEN BANGKOK (2004, THUNSKA PANSITTIVORAKUL, A+)

5.KKK (1997, MICHAEL SHAOWANASAI, A+)

6.MEMORIES OF DUST (2005, SUPAKIT ITSADISAI, A+)

7.ENDLESS STORY (2005, THUNSKA PANSITTIVORAKUL, A+)

8.IS IT EASY TO KILL/PRAY (2005, SHERMAN ONG, A+)

9.BETTER THAN FRIENDS (2003, TUAN ANDREW NGUYEN, A)

10.THE KILLER MAN (DISSAPONG WONG-ARAM, A)

11.SPENT (2005, JAMES RUPERT + SIMON LE BARBE, B+)


MOST DESIRABLE ACTOR
UNSEEN BANGKOK

FAVORITE ACTOR
MICHAEL SHAOWANASAI—KKK

FAVORITE OPENING
PISCINE (ฉากเปิดเป็นการถ่ายภาพน้ำที่กระเพื่อมไหวในสระเป็นเวลาราว 10 นาที)

FAVORITE ENDING
KKK
ดูสายตาและสีหน้าของไมเคิล เชาวนาศัยในฉากจบของหนังเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึงใบหน้าของ LIZA MINNELLI ในมิวสิควิดีโอเพลง SO SORRY, I SAID (A++++++++++)

SADDEST SCENE
ฉากหมาฝูงหนึ่งมองเพื่อนถูกชำแหละต่อหน้าต่อตาใน IS IT EASY TO KILL/PRAY

FAVORITE SOUNDTRACK
NO PLACE, NOWHERE
ENDLESS STORY

FAVORITE SCENE
1.ฉากที่ถ่ายชายหนุ่มชาวเวียดนามคนนึงทำอาหารใน IS IT EASY TO KILL/PRAY

2.ฉากโดเรม่อนถูกข่มขืนใน THE KILLER MAN


--ส่วนหนังสารคดีเรื่อง DIAL H-I-S-T-O-R-Y (1997, JOHAN GRIMONPREZ, A+++++) ที่ได้ดูเมื่อวานนี้นั้น ทำให้รู้สึกว่านี่แหละคือหนัง PRE 9/11 เพราะในขณะที่มีการผลิตหนังกลุ่ม POST 9/11 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ 11 ก.ย. 2001 ออกมามากมายในช่วงนี้ ก็มีหนังเรื่อง DIAL H-I-S-T-O-R-Y ที่เหมาะกับคำว่า PRE 9/11 เพราะหนังเรื่องนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์จี้เครื่องบินในอดีตเอาไว้เยอะและละเอียดมาก

ภาพจาก DIAL HISTORY
http://www.hammer.ucla.edu/resources/13389/FairUse-3.jpg
http://www.artnet.de/Images/magazine/reviews/bokern/bokern12-09-04-1.jpg
สิ่งที่ชอบมากในหนังเรื่องนี้คืออารมณ์ขันแบบตลกร้าย เพราะถึงแม้หนังเรื่องนี้จะนำเสนอเหตุการณ์เลวร้ายที่มีผู้บริสุทธิ์และเด็กๆถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก หนังเรื่องนี้กลับใส่อารมณ์ขันเข้ามาตลอดเวลาและเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน ซึ่งส่งผลให้หนังสารคดีเรื่องนี้ดูเซอร์เรียลมาก โดยอารมณ์ขันในหนังเรื่องนี้อาจจะมาจาก

1.ความจริง อย่างเช่นในฉากที่เด็กตัวประกันคนหนึ่งให้สัมภาษณ์อย่างซื่อบริสุทธิ์มากว่าเขารู้สึกสนุกมากๆตอนถูกจับเป็นตัวประกัน

2.การตัดต่อและมุมกล้อง อย่างเช่นในฉากที่ถ่ายภาพคนที่สไลด์ลงมาจากเครื่องบิน ฉากนั้นควรจะเป็นภาพคนที่หลบหนีเอาชีวิตรอดออกมาจากเครื่องบิน แต่มุมกล้องในฉากดังกล่าวทำให้นึกถึงเด็กๆที่รู้สึกสนุกสนานกับการเล่นไม้ลื่นในสวนสนุก

3.เพลงประกอบ อย่างเช่นในการใช้เพลงประกอบที่ให้อารมณ์สดใสเบิกบาน ขณะที่ผู้ชมได้เห็นภาพเครื่องบินค่อยๆร่อนลงจอดอย่างสง่างาม ก่อนจะระเบิดเมื่อแตะพื้นดิน

หนังเรื่อง DIAL H-I-S-T-O-R-Y ยังทำให้นึกถึงเนื้อหาในหนังหลายๆเรื่อง ซึ่งรวมถึงเรื่อง

1.I AM CUBA (1964, MIKHAIL KALATOZOV, A+) เพราะหนังทั้งสองเรื่องนี้พูดถึงคิวบาและฟิเดล คาสโตร แต่สิ่งที่ตรงข้ามกันก็คือว่า DIAL HISTORY ให้ภาพของคาสโตรในเชิงแปลกๆ เหมือนไม่ค่อยจะยกย่องเท่าใดนัก

2.STAMMHEIM (1985, REINHARD HAUFF) เพราะหนังทั้งสองเรื่องนี้พูดถึงการก่อการร้ายของกลุ่ม BAADER-MEINHOF ในเยอรมนีเหมือนกัน

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือว่า DIAL HISTORY นำเสนอเรื่องราวของ

1.ผู้ก่อการร้ายหญิง โดยเฉพาะ LEILA KHALED
http://www.mqm.com/English-News/Jan-2001/leilakhalid.htm


2.เหตุการณ์จี้เครื่องบินมาเลเซีย
http://en.wikipedia.org/wiki/Malaysia_Airlines_Flight_653

3.การจี้เครื่องบินของกลุ่ม BLACK PANTHER
http://en.wikipedia.org/wiki/Black_Panther_Party

4.การวางระเบิดสนามบินโรมและเวียนนาในวันที่ 27 ธ.ค.ปี 1985 โดยกลุ่ม ABU NIDAL
http://library.nps.navy.mil/home/tgp/abu.htm

5.เรื่องราวของเที่ยวบินเกาหลีใต้ที่เชื่อกันว่าถูกสหภาพโซเวียตยิงตก
http://www.check-six.com/lib/Famous_Missing/KAL_Flight_007.htm

--ได้ข่าวว่าจะมีการฉายหนังของ DOMINIQUE GONZALES-FOERSTER ที่สมาคมฝรั่งเศส ถ.สาทรใต้ ในช่วงบ่ายสองวันนี้ด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

http://www.bioscopemagazine.com/webboard/index-in.php?id=24460

No comments: