Saturday, October 30, 2004

KaDee Strickland is the star to watch

ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Grudge

ชอบดาราหญิง 3 คนในหนังเรื่องนี้มากเลยค่ะ ซึ่งก็คือ Clea DuVall, Grace Zabriskie และ KaDee Strickland โดย Clea DuVall นั้นเป็นเจ้าของฉากที่ดิฉันติดตามากที่สุดฉากนึงใน The Grudge นั่นก็คือฉากเธอในซูเปอร์มาร์เก็ต

ถ้าจำไม่ผิด Clea DuVall เคยรับบทหนักมาแล้วใน Girl, Interrupted (1999, A-/B+) และเธอเคยแอบปล่อยฝีมือการแสดงเอาไว้บ้างในหนังอย่าง IDENTITY (2003, B) และ 21 GRAMS (2003, A-) แต่ในหนังเรื่อง GHOST OF MARS (2001, John Carpenter, A-) เธอและดาราคนอื่นๆไม่ได้เผยฝีมือการแสดงมากเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่ยอดเยี่ยมในหนังเรื่องนี้อยู่ที่โครงสร้างการเล่าเรื่องมากกว่า

ส่วน GRACE ZABRISKIE นั้น ดิฉันชอบเคยเธอมากๆค่ะจากละครชุด TWIN PEAKS (A+) ในขณะที่ KADEE STRICKLAND ก็กลายเป็นฮีโร่หญิงประจำใจดิฉันจากหนังเรื่อง ANACONDAS: THE HUNT FOR THE BLOOD ORCHID

เช็คประวัติ KADEE STRICKLAND ดูแล้ว ปรากฏว่าเธอเคยเล่นหนังดีๆมาแล้วมากมาย ตั้งแต่ THE SIXTH SENSE (A), GIRL, INTERRUPTED, ANYTHING ELSE (A), SOMETHING’S GOTTA GIVE (B-) และ THE STEPFORD WIVES (A) แต่ประหลาดมากที่ดิฉันไม่เคยสนใจเธอในหนังเหล่านี้เลย เธอเพิ่งมาฉายแสงเข้าตาดิฉันก็จาก THE BLOOD ORCHID นี่แหละ

ดิฉันจำบทที่ KADEE STRICKLAND เล่นในหนังหลายเรื่องข้างต้นไม่ค่อยได้ แต่เดาว่าเธอคงรับบทเป็นสาว “สวยโง่” ซะเป็นส่วนใหญ่ในหนังเหล่านั้น ดิฉันก็เลยไม่เคยสังเกตเห็นเธอเลย แต่ใน THE BLOOD ORCHID เธอรับบทเป็นสาวใจเด็ด ดิฉันก็เลยสะดุดตาเธอขึ้นมาในทันที

สาเหตุที่ทำให้ไม่ค่อยชอบ THE GRUDGE มากเท่าไหร่ เป็นเพราะเคยดู JU-ON (A) ที่ชอบมากๆมาก่อนแล้วน่ะค่ะ และพอส่วนที่ดิฉันชอบมากๆใน JU-ON โดนตัดทิ้งไปใน THE GRUDGE ก็เลยทำให้รู้สึกแย่เล็กน้อย

อีกสิ่งนึงที่ทำให้เสียอารมณ์ใน THE GRUDGE ก็คือการไม่ใช้ประโยชน์จากความหล่อของ JASON BEHR น่ะค่ะ เขาตรงสเปคดิฉันมาก รูปร่างของเขาใน THE GRUDGE นี่มันน่ากัดจริงๆ ใครมันจะรูปร่างทรมานใจหนุ่มๆได้ขนาดนี้ แต่เนื่องจากบทเขาน้อยไปหน่อย ก็เลยทำให้รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านใจค่ะ

JASON BEHR เคยรับบทเป็นพระเอกในหนังเกย์ที่สุดแสนซาบซึ้งประทับใจเรื่อง RITES OF PASSAGE (1999, VICTOR SALVA, A+)


ดู A CINDERELLA STORY แล้วเลยทำให้ตอนนี้ “ฮิลารี ดัฟฟ์” กลายเป็น “ฮิลารี ดับ” ไปแล้วค่ะในสายตาของดิฉัน เพราะถ้าเทียบกับดารา/นักร้องในรุ่นไล่ๆกันอย่าง ลินด์เซย์ โลแฮน, สองสาวพี่เธอโอลเซน (หนังของพวกเธอห่วยและโง่ แต่เป็นความโง่ที่ดูแล้วสะใจดี), Anne Hathaway (แก่เกินคนอื่นๆไปหน่อย) หรือ Avril Lavigne แล้ว ดิฉันก็ชอบฮิลารี ดับ น้อยที่สุดค่ะ แต่ยังไงดิฉันก็ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง RAISE YOUR VOICE (2004, SEAN MCNAMARA) ของฮิลารี ดับ และ NEW YORK MINUTE (2004, DENNIE GORDON) ของสองพี่น้องโอลเซนค่ะ คงต้องดูหนังสองเรื่องนี้เทียบกันก่อน แล้วถึงจะพิสูจน์ได้ว่าใครคือ “สาวดับ” ตัวจริง

RAISE YOUR VOICE ได้คะแนนโหวต 2.9 จาก 10 ค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วย

ส่วน NEW YORK MINUTE ได้คะแนนโหวต 3.5 จาก 10 ค่ะ ฮิฮิฮิ ท่าทางจะแข่งกันดับของจริง


ดีใจมากๆค่ะที่คุณอ้วนชอบ PAULINE AT THE BEACH (A+) ดิฉันจำเนื้อหาในหนังไม่ได้แล้ว เพราะเคยดูในโรงภาพยนตร์เมื่อประมาณ 7-8 ปีก่อน แต่จำได้ว่าชอบหนังเรื่องนี้อย่างสุดขีดคลั่งมาก ดูแล้วมันมีความสุขมากๆจริงๆ

Amanda Langlet ที่รับบทเป็นเด็กสาวใน PAULINE AT THE BEACH ต่อมาได้ฝากผลงานที่น่าประทับใจสุดขีดไว้ในหนังเกี่ยวกับชายหาดของโรห์แมร์อีกเรื่อง นั่นก็คือเรื่อง A SUMMER’S TALE (1996, A+) ค่ะ โดยในครั้งนี้เธอรับบทเป็นผู้หญิงที่เป็นสาวเต็มตัวแล้ว บทของเธอใน A SUMMER’S TALE เป็นบทที่ประทับใจดิฉันมากๆเลย และมันก็ทำให้นึกถึงประสบการณ์ของการไปเที่ยวชายหาดในชีวิตจริงด้วยเหมือนกัน

ล่าสุดเห็น AMANDA LANGLET ได้ร่วมงานกับโรห์แมร์อีกครั้งใน TRIPLE AGENT (2004) ด้วย

PAULINE, REINETTE, MIRABELLE, CHLOE, CLAIRE, MAUD, SUZANNE ในบรรดาตัวละครที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชื่อหนังของโรห์แมร์เหล่านี้ ดิฉันอยากเป็นอย่าง MAUD มากที่สุดค่ะ ดูเธอมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ดี และในบรรดาตัวละครเหล่านี้ ดิฉันก็รู้สึกอยากตบยัย CHLOE มากที่สุด

Everybody’s Free to Wear Sunscreen เป็นหนึ่งในเพลงที่ดิฉันรู้สึกว่าเนื้อเพลง “มีคุณค่า” ต่อชีวิตมากที่สุดค่ะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด เพลงนี้เป็นการนำคำพูดของผู้ชายคนนึงมาผสมกับเพลง EVERYBODY’S FREE TO FEEL GOOD ของ ROZALLA มันเป็นเพลงที่พิสดารมากๆ เพราะมันเหมือนกับฟังคนพูดไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจอย่างเปี่ยมล้นจริงๆ

หนุ่มน้อยใน SUITE HABANA น่ารักมากๆค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ตอนท้ายเรื่องเขาจะขึ้นข้อความว่าพ่อกับแม่ของหนุ่มน้อยคนนี้เป็นอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ หนุ่มน้อยคนนี้ก็เลยต้องกลายเป็นคนคนเดียวที่ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงคนทั้งครอบครัว และความฝันในชีวิตของเขาก็คือการเป็นนักเต้นบัลเลต์

ปัจจัยนึงที่ทำให้ไม่ชอบเรื่อง THE EDUKATORS มากเท่าที่ควรเป็นเพราะพล็อต “รักสามเส้า” มันวางเส้าผิดค่ะ ถ้าหากมันเป็นรักสามเส้าระหว่าง “เกย์-ไบเซ็กชวล-ผู้หญิง” แล้วล่ะก็ หนังเรื่องนี้จะได้คะแนนเพิ่มขึ้นในทันที

หนังที่ได้ดูในช่วงนี้
1.FAHRENHEIT 9/11 (MICHAEL MOORE) A-

2.SKY CAPTAIN AND THE WORLD OF TOMORROW (KERRY CONRAN) B+

3.ซี-อุย B+
สิ่งที่ชอบที่สุดในหนัง--บรรดาคนงานในโรงงานขนกระสอบ

4.อุกกาบาต B-
สิ่งที่ชอบที่สุดในหนัง--คุณตำรวจพศิน

5.METHOD (DUNCAN ROY) C


No comments: