บันทึกชีวิตของ “CINEPHILE ที่โลกแกล้งให้แพงน้ำตา”
บันทึกว่า ดิฉันได้ซื้อตั๋ว THE REASON I
JUMP (2020, Jerry Rothwell) กับ FROM ISLAND TO ISLAND
(2024, Lau Kek Huat, Taiwan, documentary, 4hrs 50mins) รอบของวันพุธที่
20 พ.ย.ไว้นะคะ แต่ก็ไม่ได้ออกไปดูค่ะ เพราะเช้าวันพุธดิฉันรู้สึกมึน ๆ หัว เหมือนอาการก่อนเริ่มเป็นหวัด
ก็เลยตัดสินใจนอนพักไปเลย และก็ไม่ออกมาดูหนังข้างนอก แต่ก็ได้ดูหนังในเทศกาลหนังสั้นมาราธอนบางเรื่องแทน
พอได้นอนพักแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาก เหมือนอาการกลับมาเป็นปกติ
วันนี้ลองตรวจ ATK ดู ก็คือยังไม่ติดโควิด
แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเห็นในอินเทอร์เน็ตบอกว่าการติดโควิดรอบใหม่สามารถเกิดขึ้นได้ทุก
4 สัปดาห์ หรือทุก 1 เดือน เหมือนภูมิคุ้มกันจากการติดโควิดแต่ละรอบมันอยู่ได้แค่เดือนเดียวเท่านั้น
แล้วช่วงนี้ก็ใกล้ครบ 4 สัปดาห์หลังจากการติดโควิดรอบที่แล้วพอดี
วันนี้ก็ไม่ได้ออกไปดู FROM ISLAND TO
ISLAND เหมือนกัน เพราะหนังมันฉายเวลา 19.15-24.15 น. แล้วเช้าวันศุกร์เราต้องเริ่มทำงานตั้งแต่
07.00 น. ถ้าหากเราออกไปดูวันนี้ วันพรุ่งนี้เราคงทำงานไม่ได้แน่ ๆ เราก็เลยอยู่บ้านดูหนังสั้นมาราธอนบางเรื่องแทน
ก็เลยรู้สึกว่า ชีวิตของเราในปีนี้คือ “CINEPHILE
ที่โลกแกล้งให้แพงน้ำตา” จริงๆ ค่ะ เพราะว่า
1.เราติดโควิดตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.
ทำให้พลาดดูหนังหลายเรื่องในเทศกาลภาพยนตร์ SIGNES DE NUIT และพลาดดู
GRAVE TORTURE (2024, Joko Anwar, Indonesia)
2.เราติดโควิดอีกรอบตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค.
ทำให้พลาดดูหนังหลายเรื่อง โดยเฉพาะ THE RAPTURE (2023, Iris Kaltenbäck) ที่มาฉายที่ Alliance ในช่วงนั้น
3.เราเป็นคนเหงื่อออกง่ายมาก ก็เลยทำให้พลาดดู MONGREL
(2024, Chiang Wei-liang, Taiwan) เพราะต้องกลับอพาร์ทเมนท์ไปอาบน้ำใหม่
ตามที่เคยเล่าไปแล้ว
4.เรามีอาการไม่สบาย ก็เลยตัดสินใจนอนพัก
ไม่ออกมาดู THE REASON I JUMP กับ FROM ISLAND TO
ISLAND
นึกถึงหนังหลาย ๆ เรื่องที่เคยพลาดดูในอดีต
เพราะ “การล้มป่วย” อย่างเช่น STRAY DOGS (2013, Tsai Ming-liang, 138min) ที่เราไม่ได้ดูตอนที่มันมาฉายที่ SF central world เพราะเราป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนอย่างรุนแรงในช่วงนั้น
และ HORSE MONEY (2014, Pedro Costa, Portugal) ที่เราไม่ได้ดูตอนที่มันมาฉายที่
SF CENTRAL WORLD เพราะเราป่วยเป็นหวัดในช่วงนั้น, etc.
รู้สึกเบื่อหน่ายกับอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตมาก ๆ
แต่ก็ยังดีที่ได้ดูหนังใน WORLD FILM ไปแล้ว 40 กว่าเรื่อง
และได้ดูเทศกาลหนังสั้นมาราธอน ช่วยปลอบประโลมจิตใจไปได้บ้าง
No comments:
Post a Comment