Monday, November 25, 2024

HAEMORRHOIDS

 

บันทึกชีวิตว่า ซื้อผ้าอนามัยมา แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ซึ่งก็เป็นโชคดีของเราแล้ว

 

เรื่องก็คือว่า จริง ๆ แล้วดิฉันเจ็บปวดทุกข์ทรมานกับริดสีดวงทวารอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.ค่ะ หรือวันแรกของเทศกาล WORLD FILM FESTIVAL OF BANGKOK เหมือนดู ๆ หนังในวันนั้นไปแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดมาก ซึ่งดิฉันก็งงมาก เพราะดิฉันไม่มีอาการใด ๆ ของโรคริดสีดวงมาก่อนเลย แต่อยู่ดี ๆ วันนั้นก็เจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาเลย ลองคลำดูก็พบก้อนริดสีดวงที่โตมาก ๆ อยู่ข้างใน มันมาจากไหน มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ดิฉันก็งงมาก เพราะดิฉันแทบไม่เคยเบ่งเลย เพราะดิฉันเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนอยู่แล้ว ก็เลยไม่กล้าเบ่งแรง ๆ อยู่แล้ว เพราะมันจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนหนักมากกว่าเดิมอีก

 

เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.เป็นต้นมา ดิฉันก็เลยกิน daflon ซึ่งมันก็ช่วยให้อาการดีขึ้น แต่มันก็ยังไม่หายสนิทซะที ตอนแรกดิฉันก็อยากไปหาหมอที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.เลย แต่พอดีช่วงนั้นมันเป็นช่วง WORLD FILM FESTIVAL ดิฉันก็เลยกลัวว่า ถ้าหากไปหาหมอ แล้วโดนจับผ่าตัด มันจะทำให้ไม่ได้ดูหนังใน WORLD FILM FESTIVAL บางเรื่องหรือเปล่า 55555 แล้วการกิน daflon มันก็ช่วยให้อาการดีขึ้นได้บ้าง ก็เลยใช้วิธีกิน daflon ไปเรื่อย ๆ แทน แล้วคิดว่าค่อยไปหาหมอหลังจากเสร็จ WORLD FILM FESTIVAL กับ TAIWAN DOCUMENTARY FILM FESTIVAL ก็แล้วกัน จะได้ไม่กระทบการดูหนังเทศกาล 55555

 

ซึ่งจริง ๆ แล้วดิฉันก็เคยผ่าตัดริดสีดวงมาแล้วรอบหนึ่งในปี 2001 ตอนนั้นจำได้ว่าพอผ่าเสร็จแล้ว เลือดมันจะยังคงไหลซึมออกมาจากแผลผ่าตัดเรื่อย ๆ ช่วงนั้นดิฉันก็เลยต้องซื้อผ้าอนามัยของผู้หญิงมาใส่อยู่ราวสัปดาห์นึง เพื่อให้ผ้าอนามัยมันช่วยดูดซับเลือดที่ไหลซึมออกมาจากแผลผ่าตัด ไม่ให้มันไปเปรอะกางเกง เหมือนช่วงนั้นถือเป็นครั้งแรกในชีวิตมั้งที่ได้ใส่ผ้าอนามัยอยู่ราวสัปดาห์นึง

 

เพราะฉะนั้นก่อนไปหาหมอในวันนี้ ดิฉันก็มั่นใจว่าดิฉันคงโดนจับผ่าตัดอีกครั้งแน่ ๆ ดิฉันก็เลยซื้อผ้าอนามัยเตรียมไว้เลย เพราะดิฉันกลัวว่า ถ้าหากผ่าตัดเสร็จแล้ว ดิฉันนั่ง taxi กลับบ้าน แล้วน้ำเมนส์หยดติ๋ง  ๆ ใส่เบาะรถ taxi มันคงจะไม่งามแน่ ๆ เพราะฉะนั้นดิฉันก็เลยซื้อผ้าอนามัยเตรียมไว้เพื่อใส่หลังผ่าตัดเสร็จจะดีกว่า

 

แต่พอไปหาหมอวันนี้ หมอบอกในทำนองที่ว่า ริดสีดวงคราวนี้มันเกิดจากเส้นเลือดแตกหรืออะไรสักอย่าง แล้วมันจะค่อย ๆ ยุบกลับไปของมันเองได้ น่าจะยุบหมดในอีก 3 สัปดาห์ แล้วจริง ๆ จะกินยา daflon หรือไม่ก็ได้ เพราะถึงไม่กินยา มันก็จะค่อย ๆ ยุบของมันเอง

 

ก็เลยสรุปว่า วันนี้ไม่ได้โดนจับผ่าตัด แล้วก็ไม่ต้องใช้ผ้าอนามัยที่ซื้อมาเตรียมไว้แต่อย่างใด ก็ถือว่าเป็นโชคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนึงของชีวิตวันนี้

 

 

No comments: