บันทึกชีวิตว่า ซื้อผ้าอนามัยมา
แต่ในที่สุดก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ซึ่งก็เป็นโชคดีของเราแล้ว
เรื่องก็คือว่า จริง ๆ แล้วดิฉันเจ็บปวดทุกข์ทรมานกับริดสีดวงทวารอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่
8 พ.ย.ค่ะ หรือวันแรกของเทศกาล WORLD FILM FESTIVAL OF BANGKOK เหมือนดู ๆ หนังในวันนั้นไปแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดมาก ซึ่งดิฉันก็งงมาก
เพราะดิฉันไม่มีอาการใด ๆ ของโรคริดสีดวงมาก่อนเลย แต่อยู่ดี ๆ วันนั้นก็เจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้นมาเลย
ลองคลำดูก็พบก้อนริดสีดวงที่โตมาก ๆ อยู่ข้างใน มันมาจากไหน มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ดิฉันก็งงมาก เพราะดิฉันแทบไม่เคยเบ่งเลย เพราะดิฉันเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนอยู่แล้ว
ก็เลยไม่กล้าเบ่งแรง ๆ อยู่แล้ว เพราะมันจะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนหนักมากกว่าเดิมอีก
เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.เป็นต้นมา
ดิฉันก็เลยกิน daflon ซึ่งมันก็ช่วยให้อาการดีขึ้น
แต่มันก็ยังไม่หายสนิทซะที ตอนแรกดิฉันก็อยากไปหาหมอที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 11
พ.ย.เลย แต่พอดีช่วงนั้นมันเป็นช่วง WORLD FILM FESTIVAL ดิฉันก็เลยกลัวว่า
ถ้าหากไปหาหมอ แล้วโดนจับผ่าตัด มันจะทำให้ไม่ได้ดูหนังใน WORLD FILM
FESTIVAL บางเรื่องหรือเปล่า 55555 แล้วการกิน daflon มันก็ช่วยให้อาการดีขึ้นได้บ้าง ก็เลยใช้วิธีกิน daflon ไปเรื่อย ๆ แทน แล้วคิดว่าค่อยไปหาหมอหลังจากเสร็จ WORLD FILM
FESTIVAL กับ TAIWAN DOCUMENTARY FILM FESTIVAL ก็แล้วกัน จะได้ไม่กระทบการดูหนังเทศกาล 55555
ซึ่งจริง ๆ แล้วดิฉันก็เคยผ่าตัดริดสีดวงมาแล้วรอบหนึ่งในปี
2001 ตอนนั้นจำได้ว่าพอผ่าเสร็จแล้ว เลือดมันจะยังคงไหลซึมออกมาจากแผลผ่าตัดเรื่อย
ๆ ช่วงนั้นดิฉันก็เลยต้องซื้อผ้าอนามัยของผู้หญิงมาใส่อยู่ราวสัปดาห์นึง
เพื่อให้ผ้าอนามัยมันช่วยดูดซับเลือดที่ไหลซึมออกมาจากแผลผ่าตัด ไม่ให้มันไปเปรอะกางเกง
เหมือนช่วงนั้นถือเป็นครั้งแรกในชีวิตมั้งที่ได้ใส่ผ้าอนามัยอยู่ราวสัปดาห์นึง
เพราะฉะนั้นก่อนไปหาหมอในวันนี้
ดิฉันก็มั่นใจว่าดิฉันคงโดนจับผ่าตัดอีกครั้งแน่ ๆ ดิฉันก็เลยซื้อผ้าอนามัยเตรียมไว้เลย
เพราะดิฉันกลัวว่า ถ้าหากผ่าตัดเสร็จแล้ว ดิฉันนั่ง taxi กลับบ้าน
แล้วน้ำเมนส์หยดติ๋ง ๆ ใส่เบาะรถ taxi
มันคงจะไม่งามแน่ ๆ เพราะฉะนั้นดิฉันก็เลยซื้อผ้าอนามัยเตรียมไว้เพื่อใส่หลังผ่าตัดเสร็จจะดีกว่า
แต่พอไปหาหมอวันนี้ หมอบอกในทำนองที่ว่า
ริดสีดวงคราวนี้มันเกิดจากเส้นเลือดแตกหรืออะไรสักอย่าง แล้วมันจะค่อย ๆ ยุบกลับไปของมันเองได้
น่าจะยุบหมดในอีก 3 สัปดาห์ แล้วจริง ๆ จะกินยา daflon หรือไม่ก็ได้
เพราะถึงไม่กินยา มันก็จะค่อย ๆ ยุบของมันเอง
ก็เลยสรุปว่า วันนี้ไม่ได้โดนจับผ่าตัด แล้วก็ไม่ต้องใช้ผ้าอนามัยที่ซื้อมาเตรียมไว้แต่อย่างใด
ก็ถือว่าเป็นโชคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนึงของชีวิตวันนี้
No comments:
Post a Comment