ในบรรดาหนังของ Jacques Rivette เราก็ได้ดู CELINE AND JULIE GO BOATING เป็นเรื่องแรก
ดูแล้วก็หลงรัก Jacques Rivette ไปเลย เรายังจำได้เลยว่า
เรากับเพื่อน ๆ ไปดูหนังเรื่องนี้ด้วยกันที่สมาคมฝรั่งเศส ในช่วงต้นปี 1997
พอดูเสร็จ เรากับเพื่อน ๆ ก็วิ่งข้ามทางม้าลายตรงถนนสาทรหน้า Alliance
พอข้ามทางม้าลายมาได้แล้ว เรากับเพื่อน ๆ ก็มองหน้ากัน
คิดถึงหนังเรื่องนี้ แล้วก็พูดออกมาพร้อมกันว่า
"ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป"
เพราะฉะนั้นพอเรานึกถึงวลี
"ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป" เราก็จะนึกถึงหนังเรื่อง CELINE AND
JULIE GO BOATING ควบคู่ไปด้วยเสมอ เพราะเหมือนเรากับเพื่อน ๆ
ใช้วลีนี้ในการบรรยายถึงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี 1997 และหนังเรื่องแรกในชีวิตที่ถูกเรากับเพื่อน ๆ บรรยายว่า
"ไม่ทราบชีวิตอะไรอีกต่อไป" ก็คือ CELINE AND JULIE GO BOATING นี่แหละ
+++
ชอบที่อุ้ย Ratchapoom เขียนถึงประเด็นเรื่อง
WHAT COULD HAVE BEEN ใน HERE (2024, Robert
Zemeckis) มาก ๆ พออ่านสิ่งที่อุ้ยเขียนแล้วก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่า
จริง ๆ แล้วตัวหนัง HERE ทั้งเรื่องก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็น “WHAT
COULD HAVE BEEN ถ้าหากพระเอกนางเอกของ FORREST GUMP เกิดเป็นชนชั้นกลางธรรมดา ๆ ในสหรัฐหลังสงครามโลกครั้งที่สอง”
แทนที่จะเป็นพระเอกนางเอกที่มีปัญหาชีวิตรุนแรงแบบใน FORREST GUMP (1994.
Robert Zemeckis) คือเหมือนชีวิตของตัวละครใน HERE อาจจะเป็นอีก multiverse นึงของตัวละครใน FORREST
GUMP หรือไม่พระเอกนางเอกของ HERE ก็อาจจะเป็นหนึ่งในผู้คนที่เดินสวนไปมากับตัวละครพระเอกนางเอกใน
FORREST GUMP ตามท้องถนนได้เลย เพราะ timeline ของหนังสองเรื่องนี้มันทับซ้อนกัน โดยตัวละครพระเอกของ FORREST
GUMP อาจจะเคยได้เจอกับตัวละครน้องชายของพระเอก HERE ก็ได้ เพราะทั้งสองตัวละครไปร่วมรบในสงครามเวียดนามเหมือนกัน
แน่นอนว่า เราชอบ HERE มากกว่า
FORREST GUMP อย่างรุนแรง เพราะชีวิตเราไม่หวือหวาอย่าง FORREST
GUMP ชีวิตของเราเป็นเป็นชีวิตคนธรรมดา ๆ ที่เต็มไปด้วยความผิดหวังมากมาย
แต่เราก็ชอบมาก ๆ ที่ HERE treat ชีวิตชนชั้นกลางธรรมดา ๆ
ว่าเป็นเหมือนเพียง “เศษธุลีเล็ก ๆ เศษหนึ่งในระยะเวลาหนึ่งมหากัป” อะไรทำนองนี้
ชีวิตของตัวละครหลักใน HERE จริงๆ แล้วมันง่ายต่อการทำให้เป็นเมโลดราม่าฟูมฟาย
แต่พอชีวิตของตัวละครหลักมันถูกนำเสนอควบคู่ไปกับชีวิตของคนและสัตว์อื่น ๆ
อีกมากมายในช่วงเวลา “มหากัป” เดียวกัน หนังเรื่องนี้มันก็เลยเข้ากับมุมมองของเราที่ว่า
“ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความทุกข์ แต่ชีวิตของคนอื่น ๆ
ก็อาจจะเต็มไปด้วยความทุกข์ในแบบของเขาเองเช่นเดียวกัน”
++++
Edit เพิ่ม: พอดีเราเดินข้ามสะพานลอยตรงสี่แยกปทุมวันวันนี้
แล้วเห็นเด็กฝรั่งกำลังปีนขึ้นไปเล่นบนบัวบ้า เราเลยถ่ายคลิปนี้ไว้
เราเพิ่งมารู้จาก comment ว่า จริง ๆ แล้วเขาห้ามคนปีนขึ้นไปเล่นบนนี้นะจ๊ะ
ถ้าเข้าใจไม่ผิด งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะชื่อ
BREATHING ของ Choi Jeong Hwa จากเกาหลีใต้
++++
เห็นงาน BREATHING ของ Choi
Jeong Hwa จากเกาหลีใต้ ที่หน้า BACC วันนี้ (จริง
ๆ แล้วเขาห้ามคนปีนขึ้นไปเล่นข้างบนนะ) แล้วนึกถึง “โคมวิเศษเจ้าแม่หัวซาน” มาก ๆ
55555
No comments:
Post a Comment